อิตาลีได้ออกมาตรการกักตัวผู้ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศ และพื้นที่โดยรอบ ในวันนี้ (8 มี.ค.) เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมีจำนวนกว่า 5,800 คน และผู้เสียชีวิตมีจำนวนกว่า 230 คน
คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนราว 16 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดีย และอีก 14 เมือง ได้แก่ โมเดนา, ปาร์ม่า, ปิอาเชนซ่า, เรจจิโอ เอมิเลีย, ริมินี, ปีซาโรและอูร์บีโน, อะเลสแซนเดรีย, อัสตี, โนวารา, เวอร์บาโน-คูซิโอ-ออสโซลา, แวร์เชลลี, ปาดัว, เทรวิโซ และเวนิส
ด้าน จูเซปเป คอนเต (Giuseppe Conte) นายกรัฐมนตรีอิตาลี ยังประกาศว่ามีการปิด โรงเรียน ยิม พิพิธภัณฑ์ ที่เที่ยวกลางคืน และสถานที่อื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย โดยมาตราการนี้จะจบลงในวันที่ 3 เมษายน
“พวกเราต้องการรับประกันสุขภาพของประชาชน พวกเราเข้าใจว่ามาตรการเหล่านี้จะทำให้มีการเสียสละ บางครั้งเล็ก และบางครั้งก็ใหญ่มาก”
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการนี้ ทางสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า มีการเลือนการจัดงานแต่งงาน งานศพ รวมไปถึงงานทางวัฒนธรรมและศาสนาอื่นๆ มีการปิดโรงภาพยนตร์ ที่เที่ยวกลางคืน ยิม สระว่ายน้ำ พิพิธภัณฑ์ และสกีรีสอร์ท
นอกจากนี้ ร้านอาหารและคาเฟ่ในโซนกักกันจะเปิดให้บริการในช่วง 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น และลูกค้าต้องนั่งห่างกัน 1 เมตร
ผู้อยู่อาศัยได้ถูกสั่งให้อยู่ในบ้านให้ได้มากที่สุด และหากใครฝ่าฝืนการกักตัวอาจถูกลงโทษจำคุกได้สูงสุด 3 เดือน
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-middle-east-51787238
#Brief #TheMATTER