แกงเขียวหวาน อาหารในหัวใจใครหลายคน นอกจากเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยเรามานานแล้ว ฟังก์ชั่นของแกงเขียวหวาน ยังมีคุณค่าสำคัญในฐานะอาหารลำดับต้นๆ ที่ผู้คนนึกถึงอยู่เสมอๆ เพราะกินเองก็ได้ ทำขายก็ดี
เมื่อลองค้นหาประวัติที่มาของแกงเขียวหวานบนโลกออนไลน์ หลากหลายแหล่งข้อมูลยอมรับตรงกัน ว่ามันไม่เคยถูกเขียนบันทึกไว้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่หนึ่งในคำอธิบายที่น่าสนใจ มาจากเว็บไซต์ Thai Food Master ที่บอกเล่าเอาไว้ว่า ในตำราอาหารไทยฉบับเก่าๆ นั้น ไม่เคยมีการพูดถึง ‘แกงเขียวหวานเลย’
แต่เท่าที่สามารถอนุมานได้ก็คือ แกงเขียวหวาน น่าจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2452-2469 ซึ่งเป็นในยุคสมัยของรัชการที่ 6-7 ซึ่งเป็นการวิเคราะห์จากหลักฐานสองชิ้นสำคัญที่พบ คือ ตำรา ‘แม่ครัวหัวป่าก์’ ฉบับปรับปรุงข้อมูล และหลักฐานอีกชิ้นคือ ‘คู่มือแม่ครัว’ ในปี พ.ศ.2469
ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ระบุว่า จุดเด่นของแกงเขียวหวาน ไม่ใช่ความหวาน หากแต่เป็น ‘สีเขียวหวาน’ ที่มาจากพริก โดยรสชาติของเขียวหวานที่ควรจะเป็น คือรสชาติเค็มนำก่อนหวาน
อย่างไรก็ตาม บางข้อมูลก็ระบุว่า หน่ึงในปัจจัยสำคัญที่น่าจะช่วยให้เกิดแกงเขียวหวาน น่าจะมาจากความพยายามพลิกแพลงการทำอาหาร โดยใช้กะทิเข้ามาทำสูตรใหม่ๆ รวมทั้งการทดลองเปลี่ยนพริกแห้งสีแดง มาใช้พริกสีเขียวแทนในการทำอาหารด้วย
จนถึงวันนี้ แกงเขียวหวาน ได้กลายเป็นอาหารที่ไม่เพียงติดปากคนไทยทุกชนชั้น แต่ยังมีวิวัฒนาการมาอยู่เรื่อยๆ เช่นการทดลองเปลี่ยนสูตรแกงเขียวหวาน รวมถึงใช้วัตถุดิบใหม่ๆ มาทำให้แกงเขียวหวานดูหลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง ยังพบเห็นได้ตั้งแต่ในครัว ในชุมชน ไปจนถึงในภัตตาคาร
ที่สำคัญคือ แกงเขียวหวานยังกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ และขึ้นชื่อถึงความอร่อย ถูกปากคนต่างชาติ และได้รับการบอกต่ออยู่เสมอๆ แม้แต่ Jamie Oliver ผู้โด่งดังก็เคยแนะนำและทำผ่านยูทูบมาแล้ว
สะท้อนได้ดีถึงความนิยมที่ผู้คนมากมายหลงรักในแกงเขียวหวาน
อ้างอิงจาก
http://shesimmers.com/2010/06/easy-thai-green-curry-recipe-interview.html
https://www.youtube.com/watch?v=wno_qUB02lM
#Brief #TheMATTER