หลังจากคู่รักทั้งหลายอยู่แบบ ‘ห่างกันสักพัก’ มานานนับเดือน เพราะต้องเว้นระยะห่างจากผู้อื่น และกักตัวอยู่บ้าน ซึ่งกลายมาเป็นข้อจำกัดให้คนใกล้ชิดกัน ล่าสุด บริษัท Durex เปิดเผยว่า ยอดขายถุงยางอนามัยทั่วโลกลดลง หลังจากแต่ละประเทศกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ออกมา
ลักซ์แมน นาราซิมฮัน (Laxman Narasimhan) ผู้บริหารบริษัท Reckitt Benckiser ซึ่งนำเข้าผลิตภัณฑ์ของ Durex สู่สหราชอาณาจักร เล่าว่า ยอดขายถุงยางอนามัยทั่วโลกลดลงหลังจากที่ผู้คนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้มากนัก เพราะการรักษา Social distancing และมาตรการล็อกดาวน์
นาราซิมฮัน กล่าวว่า จำนวนการมีเพศสัมพันธ์ที่ผู้คนมีลดลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะในอิตาลีและสหราชอาณาจักร แต่ประเทศอื่นๆ ก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน ทั้งยังบอกว่า คนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักรมีเพศสัมพันธ์กันน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ หากเทียบกับช่วงเวลาก่อนที่จะมีการประกาศล็อกดาวน์
นอกจากการกักตัวที่แยกคู่รักออกจากกันแล้ว เขายังเสริมด้วยว่า ความเครียดที่เพิ่มมากขึ้นจากภาวะวิกฤตในตอนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้คู่รักที่อยู่ด้วยกันมีเพศสัมพันธ์กันน้อยลงไปด้วย
ในสหราชอาณาจักรนั้น วันแรกที่มีการประกาศล็อกดาวน์ รัฐบาลแจ้งเตือนเหล่าคู่รักข้าวใหม่ปลามันให้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนว่า พวกเขาจะขยับความสัมพันธ์กันขึ้นไปอีกขั้น แล้วย้ายเข้าไปกักตัวอยู่ด้วยกัน หรือจะกักตัวแยกจากกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัท Reckitt Benckiser ก็คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้ถุงยางอนามัยจะกลับไปสู่ภาวะปกติอีกครั้งในไม่ช้า โดยดูจากยอดขายถุงยางอนามัยในจีน ที่พุ่งกลับมาเหมือนช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกมาตรการกักตัวอยู่บ้านไป
ขณะเดียวกัน ก็มีการทำนายว่าในปี ค.ศ.2021 สหราชอาณาจักรจะมีเด็กเกิดมาเป็นจำนวนมาก เพราะจากการตั้งครรภ์ของคู่รักหลายคนย้ายไปกักตัวด้วยกัน เพราะในอดีต หลังจากช่วงที่ประเทศต้องเจอกับวิกฤต อย่างตอนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีอัตราการเกิดของเด็กเพิ่มมากเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/business-52490023
https://nypost.com/2020/04/30/condom-sales-are-flaccid-as-coronavirus-keeps-hookups-on-lockdown/
#Brief #TheMATTER