การพัฒนาวัคซีนเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 กำลังเป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังรอคอย โดยผลการวิจัยล่าสุดที่เพิ่งออกมา ก็ได้เผยถึงย่างก้าวที่สำคัญ เมื่อนักวิจัยสามารถพัฒนาวัคซีนที่สามารถ ‘กระตุ้น’ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ได้แล้ว
กลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดแห่งประเทศอังกฤษ ได้ร่วมมือกับบริษัทด้านผลิตภัณฑ์ยาอย่าง AstraZeneca เพื่อพัฒนาวัคซีนเพื่อต้านทานกับโรค COVID-19 โดยล่าสุดได้เปิดเผยผลการวิจัยผ่านวารสารการแพทย์อย่าง Lancet
ผลการศึกษาพบว่า หลังจากได้ทดลองฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครจำนวน 1,077 คน พบว่า ร่างกายของอาสาสมัครสามารถสร้างแอนติบอดี และเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สามารถต่อสู้กับ COVID-19 ได้
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน โดยมีชื่อว่า ‘ChAdOx1 nCoV-19’ ซึ่งพัฒนาขึ้นจากไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคหวัดในชิมแปนซี ซึ่งนักวิจัยได้ดัดแปลงเชื้อไวรัสนี้จนมันไม่สามารถก่อการติดเชื้อในมนุษย์ได้ ขณะเดียวกัน นักวิจัยก็ทำให้มีลักษณะที่คล้ายกับ COVID-19 ด้วย
ประเด็นสำคัญคือ เมื่อฉีดวัคซีนนี้เข้าไปในร่างกายแล้ว พบว่าร่างกายของอาสาสมัคร สามารถเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับมันได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาวัคซีนในขั้นต่อไป
ด้านนายกฯ อังกฤษ บอริส จอห์นสัน ทวีตถึงเรื่องนี้ว่า นี่คือข่าวที่ดีมากๆ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของนักวิจัย
อย่างไรก็ตาม นี่ยังคงเป็นการศึกษาในชั้นต้นเท่านั้น โดย BBC รายงานว่า ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาอีกหลายเดือน เพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ชัดเจน ก่อนที่วัคซีนนี้จะได้รับการอนุมัติให้ใช้อย่างเป็นทางการ
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/uk-53469839?
#Brief #COVID19 #โควิด19 #TheMATTER