11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับแต่วันบอกเลิกสัญญา รวมเป็นเงินกว่า 25,000 ล้านบาท
คือจำนวนเงิน ‘ค่าโง่’ ที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องนำเงินภาษีไปจ่ายให้กับเอกชน จากการยกเลิกสัญญาโครงการก่อสร้างโฮปเวลล์อย่างไม่เป็นธรรม
โดยศาลปกครองสูงสุด สั่งให้รัฐไทยต้องนำเงินดังกล่าวจ่ายให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ภายใน 180 วัน นับแต่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2562
[ คดีหมายเลขดำ ที่ 107/2552, 2038/2551, 1379/2551, 1379/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366-368/2557 ]
อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมา กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท.ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ แต่ #การขอให้พิจารณาคดีใหม่ยกแรก ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับ เพราะข้อโต้แย้งที่ผู้ร้องทั้งสองหยิบมาใช้ เป็นการโต้แย้งดุลยพินิจและผลของคดี ส่วนการอ้างเรื่องความสามารถของเอกชนตอนเข้าทำสัญญาเพราะเป็นการดำเนินงานของคนต่างด้าว เอกสารดังกล่าวมิใช่ ‘พยานหลักฐานใหม่’ ที่จะทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ
กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท.ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับพิจารณาคดีใหม่ต่อศาลปกครองสูงสุด โดย #การขอให้พิจารณาคดีใหม่ยกสอง จะมีข้อสรุปในวันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30 น. ซึ่งศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำสั่ง – รับหรือไม่รับพิจารณาคดีใหม่
พรุ่งนี้ จึงเป็นอีกวันที่สำคัญว่า ที่สุดแล้วคดีที่มีเดิมพันเป็นเงินภาษีของประชาชนหลายหมื่นล้านบาท จะมาถึงบทสรุป หรือถูกนำกลับไปพิจารณาใหม่ กันแน่
อ้างอิงจาก
https://drive.google.com/file/d/18avkhRFjzbrZVDvXV85pM1Lau_0lf2Yr
https://drive.google.com/file/d/1Q55cC2NJHu4bCwhlJeQdqTOm9Jjqc2gK
https://drive.google.com/file/d/1jCIKfLd4w_xzBLWlvB_Zgh5bxo8IG_Jl
#Brief #TheMATTER