ดูเหมือนคำเก่าที่ว่า ‘สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ’ ยังคงใช้ได้มาถึงปัจจุบัน เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาจากไวรัส COVID-19 บริษัทซูมกลับเติบโตขึ้นมากกว่าช่วงปีก่อนการแพร่ระบาดถึง 3.5 เท่าตัว
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทซูมได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2020 ว่าอยู่ที่ 663.5 ล้านดอลลาร์ (20.5 พันล้านบาท) ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 145.8 ล้านดอลลาร์ (4.5 พันล้านบาท) หรือเพิ่มสูงขึ้นถึง 355 เปอร์เซนต์ และคิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตัว อยู่ที่ 186 ล้านดอลลาร์
ซูมเปิดเผยว่า รายได้ร้อยละ 81 ในไตรมาสที่สอง มาจากการ subscribe ของลูกค้ารายใหม่ ซึ่งเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 458 เปอร์เซนต์ ขณะที่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท หรือบริษัทที่จ่ายเงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อปี เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงบริษัทด้านพลังงานอย่าง ExxonMobil และ บริษัทวิดีโอเกม Activision Blizzard
นอกจากนี้ ราคาหุ้นของซูมก็ทำลายสถิติเช่นกัน โดยขึ้นมาอยู่ที่หุ้นละ 325.10 ดอลลาร์ (10,625 บาท) ทำให้บริษัทประเมินผลประกอบการตลอดปีว่าจะสูงขึ้นร้อยละ 30 อยู่ที่ระหว่าง 2.37 – 2.39 พันล้านดอลลาร์ (73.39 – 74 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ซูมยังคงถูกตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของระบบ หลังจากที่มีปรากฎการณ์ Zoombombing หรือการแฮกเข้าไปในห้องแชทจากคนนอก เพื่อปล่อยคลิปหรือภาพไม่สมควรระหว่างสนทนา รวมถึงการปล่อยข่าวว่าบริษัทขายข้อมูลผู้ใช้บริการให้กับเฟซบุ๊ก หรือระบบที่ทำให้ host ในห้องสนทนา สามารถติดตามที่อยู่ของผู้เข่าร่วมห้องสนทนาได้
นอกจากนี้ ซูมยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ความกดดันระหว่าง สหรัฐ-จีน เนื่องจาก ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ และทีมงานอีกมากกว่า 700 ชีวิตอยู่ในประเทศจีน
อ้างอิง:
https://www.theverge.com/2020/8/31/21408902/zoom-2-quarter-earnings-revenue-profit-pandemic
https://www.bbc.com/news/business-53979632
https://www.theverge.com/2020/4/1/21202584/zoom-security-privacy-issues-video-conferencing-software-coronavirus-demand-response
#Brief #TheMATTER #Zoom