แม้ตัวจะอยู่กับเรา นั่งกินข้าวบนโต๊ะอาหารเดียวกัน แต่ความคิดของเขาอาจจะยังติดอยู่กับบริษัทผ่านอีเมลที่ต้องเช็กเป็นทุกนาที เวลาสถานการณ์แบบนี้ บางครั้งเราเองก็พูดยากเหมือนกันเนอะ เพราะเข้าใจว่างานก็เรื่องสำคัญ
ประเด็น work-life balance หรือการจัดสมดุลระหว่างเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัว เป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้วแหละ ที่ผ่านมาก็มีข่าวที่ช่วยให้เราเห็นถึงผลกระทบของการถูกงานเข้ามาครอบครองชีวิตมากเกินไปอยู่บ่อยๆ แต่ผลสำรวจชิ้นใหม่ที่จัดทำขึ้นในสหรัฐฯ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
ในการสำรวจผู้คนอายุระหว่าง 31-40 ปี ถึงพฤติกรรมการเช็กอีเมลหลังเลิกงาน รวมถึงในระหว่างที่พักผ่อนอยู่ที่บ้าน มีข้อมูลที่น่าสนใจเกิดขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่างที่ยอมรับว่าติดนิสัยเช็กอีเมลตอนอยู่ที่บ้านเป็นประจำนั้น พวกเขาไม่ได้คิดว่ามันส่งผลอะไรกับความสัมพันธ์กับคนรัก หรือครอบครัวมากนัก
แต่ถึงอย่างนั้น คำตอบจากคนรักอีกฝั่งกลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม คือพวกเขาตอบว่า การที่อีกฝ่ายชอบเช็กอีเมลถี่ๆ ระหว่างที่อยู่ด้วยกันนั้น มันได้สร้างปัญหาและทำให้พวกเขาหมดความอดทน
“พวกเขา (คนที่ติดนิสัยเช็กอีเมลบ่อยๆ นอกเวลางาน) ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา แต่คนรักของพวกเขากลับเชื่อว่ามันกระทบความสัมพันธ์จริงๆ” William Becker ผู้จัดทำผลสำรวจอธิบาย
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีระดับความถี่การเช็กอีเมลนอกเวลางาน หรือในเวลาพักผ่อนบ่อยๆ ในคนกลุ่มนี้ยังระบุว่าตัวเองได้เผชิญหน้ากับภาวะความเครียดที่สูงมากขึ้นตามไปด้วย สรุปคือยิ่งเช็ก ก็ยิ่งเครียด แถมยังอาจจะกระทบความสัมพันธ์
ปัญหาเรื่องสมดุลชีวิตที่เกิดขึ้นจากการทำงานเยอะๆ มันก็ถือเป็นเรื่องที่จัดการยากเหมือนกันเนอะ เพราะมันคาบเกี่ยวกับทั้งบทบาทการเป็นพนักงานและคนรัก ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวไปพร้อมๆ กัน
ในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศเลยกำลังออกมาตรการต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้คนจัดการกับสมดุลชีวิตให้ได้มากขึ้น ยกตัวอย่างในฝรั่งเศสที่มีกฎหมายว่า พนักงานมีสิทธิที่จะไม่อ่านและไม่ตอบอีเมลหลังเลิกงานได้
อ้างอิงจาก
https://qz.com/876892/france-passed-a-law-banning-work-emails-after-work-but-you-can-do-it-yourself/
#Brief #TheMATTER