เรามีนักเขียนสัญชาติอังกฤษมากมายเป็นผู้อพยพจากดินแดนที่จักรวรรดิอังกฤษไปล่าอาณานิคมไว้ นักเขียนเหล่านี้มักเป็นทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล่าอาณานิคม และเป็นผู้สำรวจตั้งคำถามถึงผลกระทบของการล่าอาณานิคมที่แสนลึกซึ้งไว้ในงานวรรณกรรมของตัวเอง
V. S. Naipaul ถือเป็นอีกหนึ่งนักเขียนลูกครึ่งอินเดียจากตรินิแดดที่มาเติบโตในอังกฤษจนกระทั่งกลายเป็นนักเขียนที่เขียนงานเป็นภาษาอังกฤษ และมีงานเขียนที่ส่งอิทธิพลไปทั่วโลก ล่าสุดยักษ์ใหญ่แห่งวงการวรรณกรรมท่านนี้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 85 ปีในลอนดอน
พื้นเพของไนพอลเป็นชาวอินเดีย ปู่ของเขาเป็นคนอินเดียที่อพยพไปใช้ในแรงงานในประเทศตรินิแดด พ่อของไนพอลทำอาชีพเป็นนักหนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษ ทำงานให้กับ Trinidad Guardian ไนพอลพูดถึงพ่อไว้ในอัตชีวประวัติของตัวเองว่าพ่อและอาชีพทางการเขียนของพ่อส่งอิทธิพลต่อความฝันและการเลือกเป็นนักเขียนของตัวไนพอลเอง หลังจากที่ไนพอลจบจาก Queen’s Royal College ไนพอลได้รับทุนการศึกษารัฐบาลตรินิแดด (Trinidad Government scholarship) ทุนการศึกษาที่เปิดโอกาสให้เขาเลือกศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาใดก็ได้ในเครือจักรภพ ซึ่งไนพอลเลือกมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด
ยิ่งสมัยก่อนโน้นช่วงทศวรรษ 1930s เด็กหนุ่มจากประเทศแถบแคริบเบียนเดินทางมาเรียนในสถาบันการศึกษาเก่าแก่ใจกลางจักรวรรดิอังกฤษ การเติบโตขึ้นของไนพอลย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ไนพอลต้องเผชิญกับความยากลำบาก ความอับอาย ความเหงา และตัวตนอันเปราะบางตั้งแต่วัยเด็กในตรินิแดดมาสู่การก่อร่างตัวตนจากดินแดนในอาณานิคมสู่ใจกลางมหานครลอนดอน ไนพอลเป็นคนแปลกหน้าสำหรับโลกตะวันตกนี้
ฟังดูเป็นเรื่องร้าวๆ และประสบการณ์ชีวิตของไนพอลเองก็ต้องเผชิญกับวิกฤติในจิตใจของตัวจากการเป็นคนแปลกหน้า ทว่า ใน A House for Mr. Biswas (1961) นวนิยายที่ถือกันว่าเป็นผลงานดีที่สุดชิ้นหนึ่งของเขาและของยุคสมัย นวนิยายเรื่องแรกของไนพอลนี้เล่าจากชีวิตของพ่อของเขา พูดถึงชีวิตชายหนุ่มชาวตรินิแดดเชื้อสายอินเดียที่พยายามจะสำเร็จแต่กลับล้มเหลวทุกครั้ง งานชิ้นนี้กลับเป็นงานที่ได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นงานที่ตลกขบขันและชวนหัวเป็นอย่างยิ่ง
ไนพอลได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 2001 หนึ่งในประเด็นที่คณะกรรมการยกย่องคืองานของไนพอลทำให้เราเห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ถูกกดทับเอาไว้ ตลอดชีวิตการทำงานเขียน ไนพอลผลิตผลงานกว่า 30 เล่ม จนล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว AP รายงานว่าไนพอลเสียชีวิตอย่างสงบในบ้านที่ลอนดอนด้วยวัย 85 ปี
Salman Rushdie อีกหนึ่งนักเขียนลูกครึ่งอินเดียคนสำคัญกล่าวถึงการจากไปว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยลงรอยกันเลยตั้งแต่ทัศนคติเรื่องการใช้ชีวิต ความเห็นทางการเมือง ไปจนถึงมุมมองทางวรรณกรรม แต่ Rushdie เองก็รู้สึกว่าได้สูญเสียพี่ชายอันเป็นที่รักไป
.
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.npr.org/2018/08/11/509132512/v-s-naipaul-controversial-author-and-nobel-laureate-dies-at-85
https://www.bbc.co.uk/news/uk-45159149
https://www.ndtv.com/world-news/salman-rushdie-on-vs-naipaul-more-tweets-lost-a-beloved-older-brother-1899136
https://www.newyorker.com/magazine/2008/12/01/wounder-and-wounded
ภาพประกอบจาก
https://www.newsbytesapp.com/timeline/World/29390/131590/author-vs-naipaul-dead-at-85
#Breif #TheMATTER