จะดีไหม ถ้าชีวิตในมหาวิทยาลัยของเรา มีผู้ปกครองคอยดูแลแบบใกล้ชิด ในระดับที่เดินจากหอพักก็เข้าไปพบเจอได้ในรั้วสถาบัน ขาดเหลือสิ่งของ เครื่องใช้อะไร ก็จะมีพ่อแม่คอยสนับสนุนอยู่ใกล้ๆ กันเลย
ประเด็นนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคมจีน เมื่อมหาวิทยาลัย Tianjin ในจีนได้เปิดให้บริการเป็นเต็นท์ และพื้นที่ในโรงยิมให้กับบรรดาผู้ปกครองได้เข้ามาอาศัยกัน ตามความต้องการของบรรดาพ่อแม่ที่ยังคงรู้สึกเป็นห่วงลูกๆ ที่ต้องเข้ามาใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก
The New York Times รายงานว่า มหาวิทยาลัย Tianjin ได้ให้บริการเช่นนี้มาแล้วตั้งแต่ปี 2012 โดยโครงการนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ ‘เต็นท์แห่งความรัก’ (Tents of love) ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว พ่อแม่ที่มาใช้บริการจะมาจากครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน
มีการวิเคราะห์ว่า เหตุผลที่พ่อแม่หลายๆ คนตัดสินใจทิ้งบ้านแล้วมาติดตามลูกๆ อยู่อย่างใกล้ชิดในมหาวิทยาลัย ส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลกระทบมาจากนโยบาย ‘One child polocy’ ที่รัฐบาลจีนเคยมีกฎว่าหนึ่งครอบครัว สามารถมีลูกได้หนึ่งคนเท่านั้น
เมื่อมีลูกได้แค่คนเดียว ลูกคนนี้จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของครอบครัว พ่อแม่พร้อมจะทุ่มเททุกอย่าง เพื่อดูแลลูกคนเดียวคนนี้ให้ได้เต็มที่มากที่สุด การพร้อมเดินทางมาเป็นกำลังใจ และการสนับสนุนลูกในมหาวิทยาลัย จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในมุมของพ่อแม่
แต่ถึงอย่างนั้น คนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยก็มองกันว่า การทำแบบนี้มันคือการตัดโอกาสไม่ให้ลูกๆ ได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตของตัวเองรึเปล่า ขณะที่นักศึกษาหลายคนก็ยอมรับว่า พวกเขาอยากมีอิสระมากขึ้นกว่าเดิม
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/videos/world/2017/08/25/china-tents-of-love-stout-2.cnn
#Brief #TheMATTER