สอบก็ต้องอ่านหนังสือ ทำคะแนนให้ได้ดี การบ้าน รายงานก็เยอะ เรียนในโรงเรียนก็เครียด โตขึ้นมาทำงาน ก็ยังต้องเร่งทำงาน ทำให้หัวหน้า หรือลูกค้าพึงพอใจ ยิ่งเฉพาะในสังคมประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความตึงเครียดสูง ที่อาจทำให้เกิดปัญหาเครียดสะสมจนกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตได้
แต่ในช่วงที่ผ่านมา โรงเรียน และบริษัทในญี่ปุ่น หลายแห่งเริ่มกระตุ้นให้นักเรียน และพนักงานได้ปลดปล่อยด้วยการร้องไห้ออกมา โดยหวังว่าเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ได้ปลดปล่อยความเครียด และพัฒนาสุขภาพจิต ทั้งผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า การร้องไห้ช่วยผ่อนคลายประสาทอัตโนมัติด้วยการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเตติก
Hidefumi Yoshida อดีตอาจารย์โรงเรียนมัธยมที่มีอีกฉายาว่า ‘Namida sensei’ หรืออาจารย์น้ำตา มองว่าการร้องไห้มีประโยชน์ และเขาได้กระตุ้นและจัดกิจกรรมให้นักเรียนทั้งในโรงเรียน และบริษัททั่วญี่ปุ่นเห็นประโยชน์ของน้ำตามากว่า 5 ปี “การร้องไห้มีประสิทธิภาพมากกว่าการหัวเราะ หรือการนอนหลับในการลดความเครียด” เขากล่าว ทั้งเขายังเล่าประสบการณ์ว่านักเรียนที่ปรึกษาเขา มีอาการดีขึ้นหลังได้ร้องไห้ออกมาอย่างซื่อสัตย์
ตั้งแต่ปี 2015 ญี่ปุ่นได้เปิดตัวโปรแกรมตรวจสอบความเครียดที่จำเป็น สำหรับบริษัทและหน่วยงานที่มีพนักงานมากกว่า 50 คนขึ้นไป ทั้งในปี 2014 Yoshida ยังได้ร่วมงานกับ Hideho Arita ศาสตราจารย์กิตติคุณประจำคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย Toho จัดกิจกรรมที่สร้างการเรียนรู้ให้ประชาชนเกี่ยวกับประโยชน์ของการร้องไห้ ซึ่งพวกเขาได้รับการเชิญให้ไปบรรยายและจัดกิจกรรมตามบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศหลายร้อยแห่ง
Yoshida มองว่า สิ่งที่สำคัญคือการสร้างโอกาสในการร้องไห้ โดยบางครั้งอาจจะมีการดูภาพยนตร์ หรือฟังเพลงสะเทือนอารมณ์ หรือแม้กระทั่งอ่านหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่ง “ถ้าคุณร้องไห้สัปดาห์ละครั้ง คุณอาจสามารถมีชีวิตที่ปราศจากความเครียดได้” เขากล่าว
นอกจากการร้องไห้เพื่อระบายความเครียดแล้ว ในญี่ปุ่นเองยังมีธุรกิจที่ถูกจ้างมาในบริษัท เพื่อให้พนักงานร้องไห้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบรรยากาศที่คุ้นเคยในการทำงาน และให้พนักงานกล้าแสดงความรู้สึกบางอย่าง หรือร้องไห้ในที่สาธารณะ ซึ่งผู้บริหารมองว่า เมื่อพนักงานกล้าร้องไห้ต่อหน้ากันและกัน พวกเขาได้แสดงด้านเปราะบาง ที่จะมีโอกาสเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ทำงานเป็นทีมมากขึ้นด้วย
https://www.tvm.com.mt/en/news/japan-companies-pay-man-to-make-their-employees-cry/
#Brief #TheMATTER