อากาศเย็นๆ ไฟประดับประดาทั่วเมือง คนรักจูงมือกันไปเลือกซื้อของขวัญและถ่ายรูปให้กัน เพื่อนที่หายหน้าหายตาไปมีโอกาสนัดกินข้าวและสวมกอดกันอีกครั้ง บรรยากาศของสิ้นปีก็ดีแบบนี้ แบบที่พาให้อะไรๆ ก็ดูนุ่มละมุนไปซะหมด
นอกจากบรรยากาศของผู้คนที่เห็นได้ด้วยสายที่ทำให้เราอบอุ่นใจในเทศกาลเฉลิมฉลอง เสียงดนตรีจากเพลงของเทศกาลก็พาให้ทุกคนต้องอมยิ้มเบาๆ ไปได้ไม่แพ้กัน และในวันที่นับถอยหลังสู่ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้คอลัมน์ Soundcheck เลยอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับเพลงใหม่ของวงดนตรีที่เป็นที่ทั้งรักทั้งคิดถึงของคนมากมายอย่าง Part Time Musicians
หลังจากสร้างความฮือฮาให้กับเหล่าผู้คนในแวดวงดนตรีในงานฟังใจปีนี้ (2568) กับการมีโชว์เล่นดนตรีในรอบ 8 ปี ให้ผู้ฟังได้ดูจนหายคิดถึงกันไปแล้ว ปีนี้ Part Time Musiciansn ยังกลับมาพร้อมกับเพลงใหม่มาให้เราฟังกันอีกด้วย และเพลงนั้นก็ช่างเข้ากับบรรยากาศสิ้นปีซะพอดี เพลงนั้นมีชื่อว่า Leftover Turkey
เนื่องในโอกาสการกลับมาออกเพลงใหม่อีกครั้ง วันนี้จึงอยากชวนไปคุยกับนิค—ธาฤทธิ์ เจียรกุล นักร้องนำและสมาชิกวง Part Time Musicians และเขาจะมาเล่าเรื่องเพลงใหม่และเรื่องราวที่หายไปถึง 8 ปี ของวงนี้ให้เราฟัง
อะไรทำให้เกิดเพลง Leftover Turkey ขึ้นมา?
นิค: เพลงนี้คือเพลงของการแคปเจอร์ความรู้สึก 100% เลยครับ ผมแต่งเพลงนี้ในวันก่อนขึ้นปีใหม่เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นผมอยู่กรุงเทพ เป็นช่วงที่ผมรู้สึกว่ากรุงเทพมีความแปลกกว่าทุกช่วงของทั้งปีเลย มันเป็นช่วงวันหยุดยาว มันมีความเงียบ มันมีความเหงา แล้วอยู่ดีๆ อาจจะด้วยบรรยากาศ ผมก็คิดถึงวงมากๆ คิดถึงจนขนลุกเลย คิดถึงจนขนาดที่ว่าผมโทรไปบอกเพื่อนในวงว่า “เห้ย กูคิดถึงวงว่ะ อยากกลับมาทำอะไรสักอย่าง” ผมอยากจะร้องไห้เลยตอนนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไร คิดถึงวงมาก เลยเขียนเพลงนี้ออกมา
เขียนเพลงนี้ ณ วันก่อนวันขึ้นปีใหม่เลย?
นิค:ใช่ครับ ผมเลยนั่งเล่นกีต้าร์แล้วก็เขียนเพลงออกมา มันก็กลายมาเป็น verse แรกของเพลงนี้ พอได้ verse แรกแล้วผมก็บอกทุกคนว่า เออ มันอาจจะถึงเวลาแล้วว่ะที่ต้องกลับมา
ก็คือเพลงนี้เล่าบรรยากาศของวันก่อนวันขึ้นปีใหม่?
นิค:ใช่ แต่จะว่าไปมันก็พูดถึงมวลรวมๆ ของวันก่อนขึ้นปีใหม่ วันคริสมาสต์อีฟ
ขนาดตัวเองยังคิดถึงวงมากจนขนลุก แต่ก็ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ปีกว่าเพลงนี้จะปล่อยออกมา อะไรทำให้มันนานขนาดนั้น?
นิค: (อมยิ้มก่อนตอบ) ผมว่าวงผมมันมีปัญหาเรื่องถิ่นฐานการอยู่อาศัย อย่างตอนที่เราแยกย้ายกันไปหลายๆ ปี เพราะแต่ละคนย้ายกันไปอยู่ที่นั่นที่นี่คนละประเทศเลย ตัวผมไปออสเตรเลีย มือไวโอลินไปอยู่นิวซีแลนด์ มือกีต้าร์ไปอยู่สกอตแลนด์ นักร้องผู้หญิงอีกคนไปอยู่สิงคโปร์ แล้วสักพักพอคุยกันว่าจะกลับมา น้องนักร้องผู้หญิงก็ต้องไปอยู่แคนาดาอีก มือกีต้าร์ไปอยู่เกาหลี ต่างถิ่นต่างฐาน มีเงื่อนไขชีวิตที่ทำให้การรวมตัวมันยากกว่าที่คิด
แล้ว ณ วันนี้ทุกคนในวงอยู่ที่ไทยรึยัง?
นิค:ตอนนี้ทุกคนย้ายถิ่นฐานกลับมาอยู่บนแผ่นดินเดียวกันแล้วครับ
การกลับมารวมตัวกันหลังผ่านไปหลายปี มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม?
นิค: การกลับมารวมกันล่าสุดนี่ทำให้เรารู้เลยครับว่า การมีบุตร มีธิดา วันเวลาที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้ใครบางคนโตขึ้นเลย(ยิ้ม) ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เล่นกันเป็นเด็กเหมือนเดิม นี่คือเคมีที่ผมก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม ผมว่ามันเป็นความบังเอิญที่พัดให้พวกเรามาเจอกันได้ มารวมกันได้แบบเป็นไปได้ไงก็ไม่รู้
จุดร่วมที่ทำให้คิดว่าวงนี้มีตรงกันคืออะไร?
นิค: สิ่งที่ผมรู้สึกว่าพวกเรามีเมื่อมองย้อนผ่านเวลาไป คือ เรามีความเป็นพี่เป็นน้องกันจริงๆ อันนี้เป็นเคมีของวงเรา วงอื่นอาจจะมีความเป็นเพื่อน เป็น bandmate เป็นวงเท่ๆ แต่วงเรามันมีความเป็นพี่เป็นน้องกัน โตไปด้วยกัน มีพี่คนโต มีพี่คนกลาง มีน้องคนเล็ก มีโมเดลความเป็นพี่น้องอยู่สูง
กิจกรรมที่คนในวงทำร่วมกันบ่อยที่สุดคืออะไร?
นิค: กินข้าวครับ พวกเรากินข้าวด้วยกันบ่อย อย่างถ้ามาทำงานบ้านผมก้ไปกินข้าวใกล้ๆ แถวๆบ้านผมนี่แหละ ร้านอีสาน ร้านอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ ร้านอาหารไทยใกล้ๆ แล้วพอเจอกันก็แต่ละคนนี่เหมือนอายุหารครึ่ง แล้วก็เล่นกันแบบเด็กๆ อำกัน แกล้งกัน บรรยากาศมันคือพี่น้องเลย
กลับมารวมตัวกันแบบนี้เราน่าจะได้ฟังเพลงมากกว่า Leftover Turkey ไหม?
นิค: ตอนแรกผมกะเซอร์ๆ ทำให้หายคิดถึง แบบก็กูรู้สึกตอนนี้ก็จะทำออกมาตอนนี้ แบบนี้ ไม่ได้กะจะทำเต็มอัลบั้มอะไร แต่ตอนนี้ก็เริ่มคิดแล้วว่า อยากทำออกมาให้ได้เป็นอัลบั้มหรืออย่างน้อยก็เป็น EP สัก 6-7 เพลง ตอนนี้ผมจะพยายามปล่อย 1 เพลงทุก 2 เดือนครึ่ง มันก็อาจจะยากแต่ผมคิดว่าเป็นไปได้อยู่
เราจะได้ฟังเพลง Leftover Turkey เมื่อไหร่?
นิค : แพลนว่าจะลงทุก streaming วันที่ 24 ธันวานี้นะครับ
เรื่องที่ดีที่สุดของเดือนธันวาอาจจะเป็นการที่เรากำลังนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ที่ใครต่อใครชอบถือเป็นฤกษ์ดีในการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ แล้วมันก็คงจะดีกว่าอีกนั่นแหละ ถ้าเราเริ่มมันด้วยมื้ออาหารที่เรานั่งกินกันพร้อมหน้ากับครอบครัวหรือกับคนที่เรารัก
ถึงอย่างนั้น หากเราผ่านมันไปแบบคนเหงาที่ไม่ได้กินข้าวกับใครเลย ไม่มีไก่งวง ไม่มีอาหารจานใหญ่ที่เราต้องแบ่งปันกับใครก็ไม่เห็นเป็นไร ได้อยู่กับตัวเองคนเดียวในวันกำลังจะขึ้นปีใหม่ก็อาจจะดีไปอีกแบบเหมือนกัน
แต่ถ้าให้เราแนะนำเพลงสักเพลงในช่วงวันก่อนขึ้นปีใหม่ เราขอแนะนำให้คุณเปิดเพลง Leftover Turkey ของ Part Time Musicians เพลงนี้จะอยู่เป็นเพื่อนคุณได้แบบที่ทำให้คุณไม่ต้องผ่านปีนี้ไปอย่างเงียบๆ แต่มีเสียงดนตรีของพวกเขานี่แหละอยู่เป็นเพื่อนคุณข้ามปี
