กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ และหวังใจว่าซีรีส์ในจักรวาล Game of Thrones ในครั้งนี้จะเปิดตัวและจบลงอย่างยิ่งใหญ่สมความคาดหมาย แก้มือจากความผิดหวังของซีซั่นท้ายๆ ของจักรวาลหลัก การกลับมาของอาณาจักรทั้งเจ็ดในครั้งนี้กลับไปเล่าเรื่องราวก่อนซีรีส์หลัก เป็นเรื่องราวของตระกูลทาร์แกเรียนสมัยที่ยังนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล็ก และเป็นยุคสมัยที่มังกรเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจและการปกครองดินแดน
ประเด็นหลักๆ เท่าที่เผยมาใน House of the Dragon บางส่วนก็ยังคงเป็นประเด็นเรื่องอำนาจ และการสืบทอดอำนาจในการปกครองที่ชอบธรรมหรือ the rightful king ซึ่งในภาคนี้ประเด็นเรื่องผู้หญิงในเกมของอำนาจก็ดูจะเป็นประเด็นสำคัญอยู่ ยิ่งเมื่อซีรีส์เล่าถึงตระกูลผู้เป็นวงศ์วานของมังกรและการตั้งผู้หญิงขึ้นสู่อำนาจ ถ้าเราย้อนดูไปยังซีรีส์ก่อนหน้า ผู้หญิงและมังกรเช่นแดเนริส ทาร์แกเรียน มารดาแห่งมังกรนั้น ความเชื่อมโยงในมิติของอำนาจ พลังลึกลับ รวมถึงผู้หญิงก็ดูจะเป็นแกนเรื่องและองค์ประกอบสำคัญในเกมและเครือข่ายอำนาจในอาณาจักรของ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน
ด้วยการกลับมาของราชวงศ์มังกร และมังกรตัวเป็นๆ รวมถึงกลิ่นอายความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงและมังกร The MATTER จึงชวนกลับไปสำรวจความหมายของมังกร สัตว์วิเศษที่อยู่ในจินตนาการทั้งในโลกตะวันออกและตะวันตก รวมถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาอย่างเนิ่นนาน มังกรในวรรณกรรมร่วมสมัยเองก็ดูจะยังคงทรงอำนาจ และในบางครั้งก็ดูจะมีความหมายอันพิเศษ ทั้งความสัมพันธ์กับความเป็นหญิง มิติของผู้สร้างพร้อมๆ กับการเป็นผู้ทำลาย การเป็นสิ่งมีชีวิตไร้จิตใจ และล่าสุด จากการเป็นศัตรูสำคัญของมนุษย์ สู่การเป็นสายเลือดและวงศ์วานว่านเครือเดียวกัน

ภาพจาก: IMDb
มังกรในมุมมองด้านสัญญะ
มังกรถือเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมโยงกับพลังอำนาจที่พ้นไปจากมนุษย์ อันที่จริงมังกรค่อนข้างประกอบขึ้นด้วยทวิลักษณะ (duality) คือมีคุณสมบัติที่เป็นสอง เป็นคู่ที่ตรงข้ามอยู่ในตัวเอง ในหลายวัฒนธรรม มังกรสัมพันธ์กับสรวงสวรรค์ เป็นตัวแทนของการสร้าง ความมีชีวิต และความอุดมสมบูรณ์ และแน่นอนมังกรก็เป็นตัวแทนของการทำลายล้าง เปลวเพลิง และพลังอำนาจที่มากล้นเกินกว่าที่มนุษย์จะกะประมาณ
โดยทั่วไป มังกรเชื่อมโยงเข้ากับสัตว์ประเภทงู (serpent) เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเกล็ด มีร่างกายยาวขนานไปกับพื้นโลก การเป็น ‘งูมีปีก’—ในด้านหนึ่งมังกรเป็นสัตว์ในจินตนาการที่รวมหรือเชื่อมโยงระหว่างดินแดนของหมู่เมฆและผืนดิน คือมังกรใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งในอากาศ และในขณะเดียวกันก็เป็นเจ้าแห่งผืนดิน ไปจนถึงงูเองก็เชื่อมโยงดินแดนที่อยู่ใต้พิภพลงไป มังกรจึงเป็นสัญลักษณ์ของการประสานสิ่งต่างๆ เข้าหากัน—สิ่งที่ตรงข้ามแต่กลับเกี่ยวเนื่องเชื่อมต่อกัน สัญญะที่สำคัญประการหนึ่งของมังกรและสัมพันธ์กับความคิดของการเล่นแร่แปรธาตุและความเชื่อโบราณคือ ’โอโรโบรอส’ (Ouroboros) มังกรหรืองูยักษ์ที่กินหางตัวเองเป็นวงกลม โอโรโบรอสเป็นตัวแทนของการเกิดและการดับ เป็นวงจรที่ไม่รู้จบของชีวิตและความตาย ในบางความเชื่อเชื่อว่า โอโรโบรอสเชื่อมโยงความเป็นเพศทั้งสองไว้ คือเพศชายผ่านหาง และการงับสื่อถึงความเป็นหญิงหรือโยนี โดยถ้าเราดูไปในหลายตำนาน มังกรมักเป็นภาพของการผสมผสานสัตว์ต่างๆ เข้าด้วยกัน เป็นภาพที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ตรงข้ามกัน ทั้งการเป็นงูและการเป็นอินทรีย์ การอยู่ใต้ดินในยามฤดูหนาวและโบยบินท่ามกลางสายฝน
ในมุมมองทางสัญวิทยาของ คาร์ล กุสตาฟ ยุง พูดถึงมังกรและโอโรโบรอสไว้ในหลายแง่ ยุงเคยพูดถึงมังกรไว้ในการบรรยายที่ซูริค รู้จักในนาม Zarathustra Seminar (ซึ่งยุงเองชื่นชอบการอ้างอิงตำนานซาราทุสตราของ ฟรีดริช นีทเชอ มาก—โดยนีทเชอเองก็ใช้มังกรเป็นอุปมาในการอธิบายปรัชญาของตัวเองด้วย) ยุงอธิบายมังกรโดยเน้นไปที่การเป็นสัตว์เกล็ด เป็นสิ่งมีชีวิตที่เลือดเย็น สัญญะของการเป็นสัตว์เลื้อยคลานนั้นเป็นเหมือนส่วนที่ไร้ความเป็นมนุษย์ที่แฝงอยู่ในจิตไร้สำนึก (unconscious) ของมนุษย์เรา อันที่จริงยุงก็อธิบายถึงมังกรอย่างซับซ้อน เช่น โยงเข้ากับระบบประสาท กับความรู้สึกบางอย่างของพลังอำนาจที่มนุษย์ยำเกรงจากยุคบรรพกาลที่ฝังลึกลงมาในสัญลักษณ์และเรื่องเล่า

ภาพจาก: IMDb
จากฆ่ามังกร สู่แม่มังกร
จากมิติทางปรัชญาที่ว่ามังกรมีความซับซ้อนยอกย้อนในตัวเอง ถ้าเราพูดถึงภาพหรือเรื่องที่เกี่ยวกับมังกร เราก็จะเห็นภาพการแปรเปลี่ยนในความหมายของมังกรซึ่งก็อาจจะเชื่อมโยงกับประเด็นของ Game of Thrones คือมิติเรื่องผู้หญิง อำนาจ และสัตว์ปีศาจ
ในตำนานปรัมปรายุคหลังๆ ภาพของมังกรเป็นอำนาจที่มนุษย์ยำเกรง มังกรมีบทบาทเป็นสุดยอดศัตรู ในยุคกลางมักมีตำนานเรื่องเล่าว่าด้วยการเข้าช่วยเหลือเจ้าหญิงที่ถูกจับขังไว้ในหอคอยที่มีมังกร การสังหารมังกรคือการได้รับฉายาผู้พิชิตมังกรหรือ Dragon Slayer ถ้าเราอ่านมังกรด้วยสายตาของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ มังกรจึงดูคล้ายจะเป็นตัวแทนของความเป็นชาย เป็นศัตรูแทนสัญญะของผู้ชายทรงอำนาจที่ชายหนุ่มอีกคนต้องเอาชนะและได้หญิงงามมาครอง ในตำนานที่เกี่ยวกับกษัตริย์อาเธอร์ มังกรเป็นส่วนประกอบที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งปรากฏในความฝัน คำทำนาย บางครั้งก็เป็นตัวแทนของอาเธอร์เอง บางครั้งก็เป็นตัวแทนของศัตรูที่ต้องถูกพิชิต
ภาพของมังกรในยุคปัจจุบันก็มีความกำกวมในตัวเอง แต่หลักๆ คือเป็นศัตรูที่มนุษย์ต้องเอาชนะให้ได้ในท้ายที่สุด มังกรเช่น สม็อก (Smaug, ในตำนานมิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน) เป็นภาพมาตรฐานหนึ่งของมังกร คือทำหน้าที่พิทักษ์และรวบรวมทรัพย์สมบัติ สม็อกเป็นสัตว์เลือดเย็น ทรงอำนาจ ในขณะเดียวกันก็ทรงภูมิปัญญา คือพูดคุยได้ มีความคิดความอ่าน และบางครั้งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เองไม่อาจหยั่งรู้ถึงเจตจำนงและความเป็นไป

Saint George and the Dragon, Georgios Klontzas, ภาพจาก: Wikimedia Commons
จากศัตรูที่เราอาจจะพอนิยามได้ว่าเป็นศัตรูและเป็นตัวแทนในเกมของอำนาจในนามของเหล่าอัศวิน Game of Thrones จึงเป็นหนึ่งในการตีความภาพและอำนาจของมังกรขึ้นใหม่ โดยเชื่อมโยงเข้ากับความเป็นหญิงและความเป็นแม่ ก่อนหน้านี้เราก็มีมังกรที่เชื่อมโยงกับความเป็นหญิง เช่น มาเลฟิเซนต์ (Maleficent) โดย แอนเจลีนา โจลี หรือมังกรในเรื่องเชร็ค (Shrek) คราวนี้ในเกมของอำนาจเหนือบัลลังก์เหล็ก ผู้หญิงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรและผู้เล่นที่ใช้ความเป็นหญิงในการบงการและครอบครองอำนาจนั้นๆ
การเชื่อมโยง แดเนริส ทาร์แกเรียน เข้ากับมังกร กับการเป็นมารดาและการเคลมเชื้อสายของความเป็นวงศ์วานว่านเครือของมังกร จึงเป็นการให้อำนาจพิเศษกับผู้หญิงในการเล่นเกมแห่งอำนาจอันมีชีวิตเป็นเดิมพัน ในความสัมพันธ์ของตัวเอกหญิงและความเป็นหญิงที่เชื่อมโยงกับมังกรใน Game of Thrones เรื่อยมาจนถึง House of the Dragon ถือเป็นให้ภาพความสัมพันธ์เชิงเกื้อหนุนระหว่างมังกรที่ค่อนข้างชัดเจนถ้านับจากภาพมังกรที่เคยมีมาก่อน
ในแง่นี้มังกรในฐานะตัวแทนของอำนาจและศัตรูของเหล่าวีบุรุษจึงยังคงสถานะศัตรูของผู้ชายหรือกระทั่งระบบของผู้ชาย โดยครั้งนี้อำนาจอันลึกลับนั้นได้ถูกตีความใหม่และเชื่อมโยงเข้ากับการเป็นอำนาจ และสายสัมพันธ์ที่ลึกลับของผู้หญิงและการใช้อำนาจของผู้หญิง วิธีการใช้และต่อรอง หรือกระทั่งสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกที่ผู้ชายคิดว่าตนเองกำลังปกครองอยู่

ภาพจาก: IMDb
ดังนั้นในการอ่านความหมายของมังกร เรื่อยมาจนถึงนิยามและความหมายของมังกรที่ถูกตีความใหม่ มังกรเป็นสัญญะที่มีความกำกวมและอาจเชื่อมโยงกับสิ่งอันเป็นตรงข้ามกัน บางส่วนสัมพันธ์กับพลังอำนาจภายในและความเกรงกลัวอันเก่าแก่ ในเงื่อนไขในเกมของอำนาจและการขึ้นครองบัลลังก์ ความเป็นเพศและหลากโฉมหน้าของอำนาจและความชอบธรรม
ในภาคล่าสุดนี้ มิติความสัมพันธ์ของความเป็นชายและความเป็นหญิง การใช้อำนาจและความชอบธรรมในโลกของผู้ชายดูจะเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกเล่าเป็นแกนกลางหนึ่งของเรื่องนับตั้งแต่ความเหมาะสมของอิสตรี ไปจนถึงภาพการให้กำเนิดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นการให้ความชอบธรรมในอำนาจของการผลิตทายาท ภาพการให้กำเนิดมังกรที่เต็มไปด้วยความหวังและความน่าเกรงขามในภาคก่อนถูกแทนด้วยความตายและการให้กำเนิดที่ไร้ค่าและนองเลือดในปัจจุบัน เรื่องราวของราชินีที่ไม่เคยมีอยู่จริง และองค์รัชทายาทหญิงองค์แรกผู้มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับมังกรในฐานะตัวแทนแห่งอำนาจและวงศ์วานว่านเครือ

ภาพจาก: IMDb
ความสนุกของเกมแห่งอำนาจคือวิธีการเล่นเกมที่เต็มไปด้วยความยอกย้อนและความเฉพาะตัว ในโฉมหน้าของบัลลังก์เหล็กและเรื่องราวของอัศวินและเจ้าหญิงในเกมเหนือบัลลังก์ที่ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เคยกล่าวว่า มีเพียงความตายและชัยชนะเท่านั้นที่รออยู่ ก็อาจเป็นภาพที่กระจ่างชัดขึ้นของเกมแห่งอำนาจที่มนุษย์เรากำลังฟาดฟันและหาทางขึ้นครองและรักษาอำนาจไว้ในเกมที่เต็มไปด้วยกติกาและวิธีเล่นที่แสนจะเฉพาะตัวเพื่อเอาตัวรอดในชีวิตจริง
อ้างอิงข้อมูลจาก
carljungdepthpsychologysite.blog