TED เป็นองค์กรการกุศลที่เราคงจะรู้จักกันดีเนอะ เค้าก็จะชอบรวมเอาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ หลายๆ แวดวงมาบอกเล่าวิชชึ่นแบ่งปันประสบการณ์ ที่เรียกกันว่า TED Talk ซึ่งบ้านเราเองก็กำลังจะมี TEDxBangkok ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้
The MATTER เลยจะขอพาไปสำรวจว่าจากหลายพันวิดีโอของ TED นั้น speaker หนุ่มคนใดที่เปิดดูแล้ว อื้อหือ สปาร์คว่ะ เห็นแล้วก็ไม่อยากจะเก็บไว้คนเดียว ไม่ใช่อะไรหรอก ก็อยากจะแบ่งปันตามสโลแกนของ TED เค้า ‘Handsomes Worth Spreading’ กระจายคนหล่อออกไปให้ไพศาล เดี๋ยวๆ ไม่ใช่โว้ย ‘Ideas Worth Spreading’ ต่างหากค่ะ ยังไงก็ตามแต่ TED อื่นๆ อาจจะแค่เปิดฟังแล้วแวกซ์ขนขา ทาเล็บ หรือสควอชไปก็ได้ใช่มะ แต่ TED เหล่านี้จะมาทำอย่างอื่นไปด้วยไม่ได๊ (เสียงสูง) ต้องมานั่งตั้งจิตตั้งใจดูเท่านั้น มาๆ นั่งค่ะนั่ง ตรงนี้ค่ะ ตรงนี้ แล้วไปดูกัล
1. Oscar Schwartz
เปิดตัวอย่างงดงามกับพ่อหนุ่มเมลเบิร์น ที่นิยามตัวเองว่าเป็นนักเขียน นักวิจัยและอื่นๆ อีกมากมายคนนี้มาพูดเรื่อง คอมพิวเตอร์สามารถเขียนบทกวีได้ไหมนะ ว่าแล้วก็เอาบทกวีมาให้คนฟังทายกัน ว่าอันไหนคนเขียน อันไหนคอมฯเขียน ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คอมฯเขียนได้เหมือนคนมากกว่าคนเขียนเองซะอีก แต่ประเด็นอยู่ที่ น้ำเสียงและหน้าตาตอนที่พ่อออสการ์บอกให้ยกมือ เอ้าไหนใครคิดว่าอันนี้คนเขียน คือเชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคลิ้มยกมือตามราวกับว่าอยู่ในฮอลล์นั้นด้วย แม้ความจริงจะนั่งอยู่หน้าจอนี่แหละ
ดูๆ ไปก็ใจคอไม่ดีเลยแก สูดให้ใจเข้าลึกแป๊บ ทั้งๆ ที่เค้าชวนคุยเรื่องอัลกอริธึ่มเนิร์ดๆ แต่ดูการแต่งกายและหน้าตาเค้าสิแก เป็นพระเอกหนังรักแมสๆ ดีๆ สักเรื่องนึงได้เลยอะ เคยเห็นตอนเค้าผมยาวแล้วรวบผมเป็นมวยๆ แล้วมีเคราครึ้มๆ แบบฮิปสเตอร์ยัง? ถ้ายัง เสิร์ชสิคะรออะไร
2. BJ Miller
หมอฝ่ายดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือการดูแลแบบประคับประคองคนนี้ มาพูดเรื่องเกิดอะไรขึ้นในฉากจบของชีวิต เขาใส่ใจเรื่องการเตรียมตัวตาย เพราะเป็นถึงผู้อำนวยการบริหารศูนย์ Zen Hospice Project ในซานฟรานซิสโก และแน่นอนว่า ความตายกับเขาคุ้นเคยกันดี เมื่อ 25 ปีก่อน สมัยยังอยู่มหาวิทยาลัย หลังกลับจากปาร์ตี้คืนหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน มิลเลอร์และเพื่อนๆ ก็ออกไปควบม้าเล่น จากนั้นก็ปีนขึ้นไปยังรถไฟที่จอดอยู่ ทันใดนั้นเองกระแสไฟฟ้าหมื่นโวลต์ได้วิ่งผ่านนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายของเขา ผ่านร่างกายและเผาไหม้จนทำเอามิลเลอร์เกือบเอาชีวิตไม่รอด และเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เขาเสียขาทั้งสองข้างและแขนซ้ายไป
กลับมาที่ประเด็นของเรา (ทำมาเปงสาระ) ตลอดเวลา 19 นาทีของวิดีโอนี้ เราจะไม่สามารถละสายตาไปจากดวงตาของมิลเลอร์ได้เลย ดวงตาอันเป็นประกายวิบวับ ผมสีเทาแซมขาว ริ้วรอยแห่งประสบการณ์ เสื้อสีม่วงอ่อนจางๆ ค่อนไปทางชมพูกับคาดิแกนสีน้ำตาล กางเกงเขียวทหาร โอย มันดูคอมพลีทไปหมดอะแก ไม่เชื่อดูคอมเม้นท์ใต้วิดีโอนะ ที่มีสาวนางหนึ่งซึ่งไม่ใช่ชั้น ถึงกับต้องกล่าวออกมาว่า “นี่มีแค่ฉันคนเดียว หรือมีใครคนอื่นบ้างไหมที่ตกหลุมรักผู้ชายคนนี้” หืม แอ๊วกันในที่สาธารณะแบบนี้เลยนะคะซิส แต่เสียใจด้วยค่ะ เค้ามีเมียแล้ว เอ้า! นกโดยพร้อมเพรียงกันเนาะ
3. Teitur
พ่อหนุ่มศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลงที่น่าจะถูกใจสาวๆ สายเครา คนนี้ ใช้บทเพลงเป็นสื่อกลางในการแชร์เรื่องราว พี่แกว่า “การร้องเพลงเนี่ยก็คือการแบ่งปันอย่างหนึ่ง” และการร้องเพลงคือการเผยเรื่องราวบางมุมของตัวเองกับคนอื่น ว่าแล้วก็เดินไปที่เปียโน นั่งลง แล้วร้องอีกเพลง ซึ่งมีเนื่อหาเกี่ยวกับบ้าน บ้านที่เป็นทุกๆ ความทรงจำของเขา เรื่องเสียง จะไม่พูดถึง เพราะอีโมชั่นแนลแอนด์ทัชใจคนฟังแน่ๆ
มาคุยกันเรื่องหน้าตา คือแม้ว่าพี่แกจะไม่ได้หล่อเป๊ะทุกองศา แต่ความเครา เข้าใจมะ ประกอบคอสตูมที่ดูดีอะ สูทสีแดงเลือดนกงี้ ตัวในเป็นสเวตเตอร์ตัวบางสีครีมที่ยาวเลยปลายแขนสูทออกมากองย่นเบาๆ ที่ข้อมือทำให้ลุคพี่แกเซอร์แต่ดูดี สมศักดิศรีสวีดิชเป็นที่สุด นั่งฟังไปนี่ใจสั่นเลยแหละ ลองดูแล้วจะพบว่านี่มันคือคอนเสิร์ตดีๆ คอนเสิร์ตนึงเลยนะแก แอร๊ย
4. Jake Wood
อดีตนาวิกโยธินชาวอเมริกันรูปร่างสูงโปร่งหล่อเหลาคนนี้ มาเล่าว่า 92% ของทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน ยังอยากจะทำประโยชน์อย่างอื่นอยู่ เขากับเพื่อนจึงทำ Team Rubicon ขึ้นมา เป็นองค์กรแบบไม่แสวงหากำไร เพื่อให้เหล่าทหารผ่านศึกทั่วอเมริกาได้ร่วมกันทำกิจกรรมบรรเทาสาธารณภัยอื่นๆ
หล่อ ใจดี ไม่รู้มีแฟนยัง แต่ที่รู้คือแต่งตัวดีมากส์ เชิ้ตขาว สูทสีกากี ยีนส์สีดำทำให้ดูแคชชวลขึ้นมาหน่อย คอมพลีทลุคด้วยรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มเงาวับ เดินไปเดินมาน่าดูน่าชม ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่เพลิดเพลินเบอร์สิบ แป๊บๆ ห้านาที อ้าวจบซะแล้ว ต้องดูวนอีกอะคิดดู
5. Graham Hill
หล่อรักษ์โลกต้องยกให้คนนี้ นักเขียน ดีไซเนอร์ และสถาปนิกคนนี้มาชวนตั้งคำถามว่า ของในห้องที่มีจำนวนน้อยลง อาจจะนำไปสู่ความสุขที่มากขึ้น นอกจากนี้ฮิลล์ยังทำบล็อก TreeHugger.com ที่ออกไปทางอีโค่ๆ กรีนๆ โลกๆ
คนนี้จะออกเซอร์ๆ ไม่หวือหวา แต่เวลาพูดมีเสน่ห์ไม่เบา มีความคล้าย ท็อป พิพัฒน์ ผัวนุ่น ศิรพันธ์บ้านเราอะแก ทั้งแนวคิด บุคลิกและการแต่งตัว เรียกได้ว่าสายอีโค่ต้องมีแอบกรี๊ดบ้างล่ะ อ้อ เหมือนพี่แกจะเป็นมังสวิรัตในวันจันทร์-ศุกร์ด้วยนะนี่ เสาร์อาทิตย์พักมังฯแป๊บงี้ เออ น่าลองวิธีนี้บ้างเหมือนกันเนาะ
6. Joshua Walters
สายฮาสายเพี้ยนมาทางนี้ เพราะพ่อรูปหล่อคนนี้จะมาแชร์เรื่องความเพี้ยน ตลกหนุ่มคนนี้นิยามตัวเองว่าเป็นตลกไบโพลาร์ เคยแสดงตลกมาแล้วทั้งที่โรงละครและมหาวิทยาลัย ทัวร์มาทั่วทั้งอเมริกาเหนือ ยุโรปและตะวันออกกลาง นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรซัพพอร์ตดีเพรสชั่นไบโพลาร์ สำหรับวัยรุ่นในซานฟรานซิสโกเสียด้วย
มาที่เรื่องคอสตูมกันบ้าง แน่นอนว่าการแสดงตลกก็จะต้องมีคาแรกเตอร์นิดนึง ทั้งผมเผ้า และคอสตูม จึงต้องทำให้เป็นที่น่าจดจำ แต่คาแรคเตอร์เพี้ยนๆ ก็ไม่สามารถทำลายล้างความหล่อของวอลเตอร์ได้แม้แต่น้อย แกดูตาเค้าสิ ไหนจะโครงหน้าปานรูปปั้น และฟันอันเป็นระเบียบ โอย ใครชอบคนตลก รู้นะว่าโหวตคนนี่แน่นวล!
7. Mike Matas
คนสุดท้าย หนุ่มนักพัฒนาซอฟท์แวร์ตาหวาน มาแชร์ไอเดียเรื่องดิจิทัลบุ๊กในอนาคต พี่ไมค์ของเราไม่ธรรมดานาจา เพราะทำงานกับแอปเปิ้ล ช่วยเขียนอินเทอร์เฟซให้กับไอแพด ไอโฟน และตอนนี้ก็ทำ Push Pop Press สำนักพิมพ์สำหรับอีบุ๊ก และในวิดีโอไมค์ก็มาโชว์ให้ดูว่า นี่คืออีบุ๊กยุคนี้ กราฟิกสวย อินเทอร์แอคทีฟกับคนอ่านผ่านไอแพดหรือไอโฟนได้ง่ายๆ เลย ว่าแล้วก็เป่ากังหันลมที่เป็นกราฟิกในอีบุ๊กให้ดู น่ารักอะ