ด้านหนึ่งจะแจกเงิน แต่ด้านหนึ่งก็เปิดกองทุนรับบริจาค / ยืนยันหน้ากากไม่ขาดแคลน แต่แพทย์พยาบาลกลับไม่มีใช้ / ให้ฟังข้อมูลหมอแถลงหรืออ่านเฟซบุ๊กรัฐมนตรีดี / กลับจากประเทศเสี่ยงอาจต้องกักตัว 14 วัน แต่ถ้าเป็น ส.ส.ก็เชื่อมั่นว่าดูแลตัวเองดี / ฯลฯ
เมื่อรัฐไม่อาจให้ความมั่นใจว่าจะป้องกันไวรัส COVID-19 ให้ประชาชนได้ (ถึงเราจะเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของบุคลากรทางการแพทย์ของไทยอยู่ก็ตาม) ที่เราพอจะทำได้ในตอนนี้ ก็คือดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดีที่สุด
และนี่คือสิ่งที่ The MATTER แนะนำให้ทุกๆ คนช่วยกันทำ เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน และนำเพลงของกลอเรีย เกย์เนอร์มาร้องดังๆ ว่า “I Will Survive!”
วิธีดูแลตัวเอง
ใส่หน้ากากอนามัย
- ล้างมือก่อนใส่
- เอาสีเข้มไว้ด้านนอก
- ครอบจมูกและใต้คาง
- เลี่ยงการจับหน้ากากขณะใส่
- หากไม่มีหน้ากาก ให้ไอหรือจามใส่ท่อนแขน
[ หมายเหตุ: ผู้จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยลำดับแรกๆ คือ หมอ พยาบาล / ผู้ดูแลผู้ป่วย / ผู้ป่วย ]
ล้างมือบ่อยๆ
- ใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ผสม 70% ขึ้นไป
- ถ้าไม่มีล้างด้วยสบู่แทนได้
- ถ้าไม่มีอีก ล้างด้วยน้ำเปล่า 20 วินาที
- วิธีล้างให้ถูอุ้งมือ หลังมือ และตามซอกนิ้ว
- เลี่ยงการใช้มือสัมผัสจมูก / ปาก / ตา
หากอยู่ในที่สาธารณะ
- เลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัดหรือคนพลุกพล่าน
- อยู่ห่างจากบุคคลอื่น 1-2 เมตร
รีบไปพบแพทย์ถ้ามีอาการไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ เพิ่งกลับจากพื้นที่เสี่ยงไม่ถึง 14 วัน [ 4 ประเทศเสี่ยง ได้แก่ จีน (รวมฮ่องกงและมาเก๊า) เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ]
ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 เท่าที่รู้
– เป็นเชื้อไวรัสตระกูลโคโรนา
– ติดต่อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ (droplet) จากการไอ จาม เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย
– ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน รักษาตามอาการ
– ถ้าป่วยจะมีไข้ ไอแห้ง หายใจลำบาก ไร้เรี่ยวแรง
– ระยะเวลาฟักตัวของเชื้อก่อนแสดงอาการ 2-10 วัน แต่ส่วนใหญ่คือ 5 วัน
– อัตราการเสียชีวิต 3%
– ผู้ป่วยที่อาจมีอาการร้ายแรง คือผู้สูงอายุ / ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยไข้ และฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก
- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข [1] [2] [3]
- องค์การอนามัยโลก [1] [2]
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ (CDC)
- เว็บไซต์ สวทช.
[ หมายเหตุ: ข้อมูลจนถึงวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2563 ]