จากข่าวการแบน Pornhub สู่การจับกุม ‘น้องไข่เน่า’ เซ็กซ์ครีเอเตอร์ (sex creator) ที่โด่งดังกับคลิปวิดิโอเพศสัมพันธ์ที่รู้จักกันในวงกว้างผ่านเว็บไซต์ OnlyFans
ปัญหาและข้อถกเถียงแสนคาราคาซังภายในประเทศที่พร่ำบอกว่าเป็นบ้านเมืองแห่งศีลธรรมเกี่ยวกับ ‘ความเหมาะสม’ ของ sex content หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายเซ็กซี่ ภาพถ่ายนู้ด หรือว่าการถ่ายวิดีโอระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็กลับมาอีกครั้ง และคาดว่าจะยังคงเป็นไปอีกต่อเนื่องในประเทศไทย
เมื่อรวมเข้ากับประสิทธิภาพในการส่งต่อข้อมูลในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างสามารถเผยแพร่และส่งต่อไปทั่วโลกได้ในพริบตา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพราะจากการกระหน่ำโหมข่าวของสื่อทุกช่องทาง ชื่อของเว็บไซต์ที่อาจคุ้นหูและคุ้นตาของใครหลายคนอย่าง OnlyFans ก็ปรากฏบนหน้าข่าวอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพักในฐานะของแหล่งรวมผลงานอนาจารแห่งใหม่เสียอย่างนั้น!
ชื่อเสียงและภาพจำของเว็บไซต์นี้กลายเป็นสถานที่ซ่องสุมของเหล่าผู้หมกมุ่นในเรื่องทางเพศ มี ‘เซ็กซ์ครีเอเตอร์’ จำนวนหนึ่งคอยซุกซ่อนและเติมเชื้อความปรารถนาผ่านการอัปโหลดภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในเชิงวาบหวิวหรือว่าโป๊เปลือยเพื่อตอบสนองอารมณ์ของตัวเอง
เช่นนั้นจริงหรือ?
เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่ระหว่างสังคมภายนอกต่างรุมประณามโจมตี เซ็กซ์ครีเอเตอร์แทบจะไม่ได้มีโอกาสในการอธิบายและเปิดเผย ‘ตัวตน’ ว่าแท้จริงแล้วความคิดเห็นและมุมมองของตนเองต่อผลงานที่สรรค์สร้างขึ้นมานั้นเป็นเช่นไร แล้วข้างหลังม่านของแพล็ตฟอร์มที่ชื่อ OnlyFans นั้นเต็มไปด้วยราคะเพียงอย่างเดียวจริงหรือไม่?
เรายื่นมือไปแง้มบางส่วนของปัญหาที่ถูกซุกเอาไว้ใต้พรมผืนเก่าเก็บกักฝุ่นที่ชื่อ ‘ศีลธรรมอันดีของประเทศไทย’ พูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ช่องทาง OnlyFans เป็นพื้นที่แสดงออกถึงความรักในตัวเองและปลดปล่อยความชอบ พวกเธอคือใคร แล้วสำหรับพวกเธอ OnlyFans มีความหมายเช่นไรในประเทศที่ต้องการปกปิดเนื้อหาในเรื่องทางเพศเช่นนี้
จากบิกีนี่ สู่เซ็กซี่คอนเทนต์
บ้านสีขาวหนึ่งชั้นดีไซน์มินิมอลที่ดัดแปลงเป็นสตูดิโอสำหรับถ่ายภาพ คือพื้นที่ปลอดภัยของ ปนิสรา นาคา หรือ นุ๊ก a glasses girl เซ็กซ์ครีเอเตอร์ที่มาพร้อมกับกิมมิกสาวแว่นสุดเซ็กซี่ ที่แห่งนี้คือ ‘อิ่มเอมสตูดิโอ’ ที่เป็นกิจการของเธอและหุ้นส่วนนางแบบ รวมถึงช่างภาพ สรรสร้างพื้นที่ปลอดภัยของตนในการถ่ายภาพ และยังเป็นพื้นที่สำหรับการหารายได้ ในการให้เช่าเพื่อถ่ายภาพและวิดีโอแบบต่างๆ
หลายคนอาจะเคยเห็นภาพเธอผ่านบนโซเชียลมีเดียในมิติของสาวนุ่งน้อยห่มน้อย สวมแว่นตาพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้กับผู้ติดตาม หากในอีกหนึ่งมุมที่ไม่ใช่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ อีกส่วนหนึ่งของชีวิตเธอเป็นอย่างไร นุ๊กเล่าว่าเธอกำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท หากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้นในเร็ววัน เธอก็คาดการณ์เอาไว้ว่าสามารถเรียนจบได้อีกไม่ช้า
“ก็คือมันอาจจะดูไม่ลิงก์กันนะ มันอาจจะดูต่างกันมาก วิชาการกับความเซ็กซี่ อะไรอย่างนี้ค่ะ แต่มันก็สามารถรวมกันอยู่ในคนคนหนึ่งได้ มันเหมือนสีสองสี คู่สีต่างกัน ที่แบบเอามาวางด้วยกันแล้วอุ๊ย สวยจัง อะไรอย่างนี้”
สำหรับจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการถ่ายรูปเซ็กซี่นั้น นุ๊กย้อนความให้ฟังว่าตนเองรับงานถ่ายรูปมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ถ้าถามในส่วนของการถ่ายรูปโชว์เนื้อหนัง มันเริ่มต้นขึ้นประมาณ 6-7 ปีก่อน ในช่วงเวลาที่มีรุ่นพี่ตากล้องที่รู้จักกันชักชวนให้ลองถ่ายรูปในชุดบิกีนี่ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ใช้เวลาคิดและตัดสินใจอะไรมากไปกว่าการถ่ายรูปทำงานทั่วไปที่ได้เปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำเป็นชายทะเลเท่านั้นเอง
“เราก็เห็นว่า เออ พี่ช่างภาพคนนี้เขาไปถ่ายก็ดูไม่มีอะไร ตอนนั้นอะ ก็รายได้สำหรับเด็กเมื่อก่อน 8,000 บาทมันก็เยอะมาก แล้วก็ถ่ายแค่ 3 ชั่วโมงอะไรอย่างนี้ค่ะ เราก็เลยโอ แฮปปี้”
ลองผิดลองถูก
นุ๊กก็ยอมรับว่าในการถ่ายรูปบิกีนี่ครั้งแรกนั้นอาจจะไม่ได้เป็นธรรมชาติอะไรมากนัก หลังจากเห็นรูปถ่ายก็รู้สึกเขินบ้าง แต่ไม่ได้อายจนไม่กล้าถ่ายรูปเชิงเซ็กซี่อีกต่อไป หลังจากนั้นในฐานะของโมเดลมือสมัครเล่นที่กล้าจะท้าขีดจำกัดของตัวเอง ก็มีการฝึกฝนในเรื่องของมุมถ่ายรูปมากขึ้น มีการลองสวมบิกีนี่ถ่ายรูปทดสอบหน้ากระจกเพื่อที่จะศึกษาเรื่องของสรีระ มุมและท่าทางที่หลากหลายและเหมาะสมกับตัวเอง
จากภาพจำคำฮิตรุ่นสนิมเกาะเขรอะที่ว่าคนใส่ชุดเซ็กซี่คือคนที่ปรารถนาจะ ‘ยั่วอารมณ์ทางเพศ’ หรือว่าเป็นการแสดงว่าตนเองนั้นต้องการมีเพศสัมพันธ์ ผ่านมาแล้วไม่รู้กี่หลายสิบปีคำเหล่านี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในบทสนทนาของคนวงนอก โดยที่ไม่เคยมีใครคิดจะสอบถามกับเซ็กซ์ครีเอเตอร์เหล่านี้โดยตรงว่าพวกเธอคิดอย่างไรการแต่งกายในรูปแบบนี้ มันซับซ้อนและเต็มไปด้วยราคะอย่างที่ใครเขาว่ากันจริงหรือไม่
“คุณไม่ต้องมาคิดแทนฉัน ฉันแค่อยากใส่เฉยๆ”
ในฐานะของเซ็กซ์ครีเอเตอร์ที่มีเน้นหนักไปทางการแต่งตัวเซ็กซี่ นุ๊กย้ำหลายครั้งด้วยคำอธิบายเรียบง่ายและตรงประเด็นว่ามันเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวที่จะแต่งตัวเซ็กซี่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเพศสัมพันธ์เลยสักนิด
เธอยังให้ความเห็นว่าการแต่งกายไม่ว่าจะเป็นในสไตล์ไหนหรือว่ารูปแบบใดเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวที่ไม่มีถูกผิด หรือจะบอกว่าเป็น “my body, my choice” ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งหรือวิจารณ์ก็ว่าได้ เว้นแต่เรื่องของกาลเทศะเท่านั้นที่นุ๊กบอกว่าควรให้ความสำคัญ
OnlyFans แพล็ตฟอร์มที่พอดี
เมื่อการลงรูปถ่ายในเชิงเซ็กซี่ของตัวเองลงแพล็ตฟอร์มยอดฮิตอย่างเฟซบุ๊กมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องของอาจารย์ผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนร่วมกันในเฟซบุ๊ก และในเรื่องของระบบการดูแลความเรียบร้อยที่มักจะเซ็นเซอร์หรือว่าลบรูปถ่ายของเธอออกจากพื้นที่ออนไลน์
นุ๊กเล่าว่าในช่วงแรกนุ๊กไม่ได้เป็นคนเริ่มขยับเพิ่มช่องทางในการลงผลงานไปยังแพล็ตฟอร์มที่กำลังอยู่ในช่วงติดกระแสอย่าง OnlyFans ด้วยตัวเอง แต่มีพี่ช่างกล้องที่สอบถามมาว่าสนใจเป็นพาร์ตเนอร์หรือเปล่า โดยจะมีการแบ่งรายได้กันระหว่างช่างกล้องและนางแบบในแต่ละเดือน
สำหรับ OnlyFans เป็นแพล็ตฟอร์มหนึ่งที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ผลิตผลงาน (creator) สามารถเผยแพร่คอนเทนต์ที่ตัวเองถนัดอย่างเช่นว่ารูปถ่าย ร้องเพลง หรือว่าสอนโยคะเป็นต้น โดยที่ผู้เสพผลงานสามารถจ่ายเงินรายเดือน (subscribe) ในราคาตามที่ผู้ผลิตตั้งเอาไว้ เพื่อแลกกับการเข้าถึงคอนเทนต์เหล่านั้น หากด้วยฟังก์ชันที่ไม่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่ล่อแหลมแต่อย่างใดทำให้ได้รับความสนใจจากเหล่าเซ็กซ์ครีเอเตอร์ เพราะว่าไม่ต้องมากังวลเรื่องการดักจับเนื้อหาที่มีความอ่อนไหวเช่นเดียวกับแพล็ตฟอร์มอื่น
“นุ๊กมองว่ามันเป็นโอกาสที่สร้างรายได้ มีช่องทางหาเงินเพิ่ม ก็เลยรู้สึกว่าเรารับดีกว่า ไม่ต้องรอเวลาไหนหรอก”
นุ๊กจึงตัดสินใจเข้าร่วมโดยมองในประเด็นของช่องทางการทำเงินในอีกรูปแบบ และความมั่นคงของรายได้ที่เพียงพอในแต่ละเดือน ซึ่งในส่วนนี้นุ๊กสามารถนำเงินที่ได้ในแต่ละเดือนมาใช้จัดการไม่ว่าจะในส่วนของรายจ่ายภายในสตูดิโอ หรือว่าจะเป็นในส่วนของธุรกิจอื่นที่นุ๊กทำควบคู่กันไปด้วย แต่ถ้าถามว่ายังอยากหาช่องทางในการทำเงินเพิ่มมากขึ้นไหมนุ๊กเองก็ตอบชัดเจนว่าต้องการ
ปัจจุบัน นุ๊กมีรายได้จากการเป็นผู้ผลิตเซ็กซี่คอนเทนต์ราว 50,000 – 70,000 บาท/เดือน เธอก็ยังมีรายได้ช่องทางอื่นจากการเปิดสตูดิโอที่คิวจองเต็มไปตลอดทั้งสัปดาห์ รวมถึงธุรกิจอาหารเสริมอีกด้วย
ถ้าสตูดิโอแห่งนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางกาย OnlyFans คงเทียบได้กับพื้นที่ปลอดภัยทางใจที่ใช้ในการพูดคุยพบปะกับแฟนคลับของเธอ รวมถึงเป็นพื้นที่อิสระที่ให้นุ๊กสามารถลงรูปถ่ายได้เต็มที่ไม่ต้องห่วงหรือว่าเกรงใจผู้ใหญ่ในเฟซบุ๊ก หรือต้องมากังวลเรื่องว่าระบบการเซ็นเซอร์
แต่ใช่ว่าความตั้งใจที่นุ๊กอยากให้ OnlyFans เป็นพื้นที่พูดคุยกับเพื่อนจะไร้อุปสรรค ด้วยความเข้าใจผิดที่ว่า OnlyFans คือพื้นที่สำหรับการลงคอนเทนต์จำพวกวิดีโอมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ทำให้เมื่อหลายๆ คนทราบว่านุ๊กมีช่องทาง OnlyFans ก็เข้าใจไปก่อนแล้วว่านุ๊ก ‘แหวกแหกอ้า’ และเธอก็ต้องมาแก้ความเข้าใจผิดเหล่านั้นหลายต่อหลายครั้ง
“คือการที่นุ๊กเปิด OnlyFans มา หลักๆ เลยก็คือ สร้างความสัมพันธ์ให้กับแฟนคลับที่เขาสนับสนุนนุ๊กโดยตรง เรายินดีที่จะคุยกับเขาที่นี่อะไรอย่างนี้”
เซ็กซี่เท่านั้น
แสงแดดยามบ่ายส่องจนทั้งห้องที่ตกแต่งเน้นโดยสีขาวเป็นหลักสว่างสดใสและให้ความรู้สึกอบอุ่น การตกแต่งไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเตียงนอนหรือว่าหน้ากระจกมีการวางอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายรูปเอาไว้ครบครันสมกับความตั้งใจของนุ๊กและหุ้นส่วนว่าอยากให้พื้นที่นี้เป็นสตูดิโอถ่ายรูปที่คุ้มค่าใช้จ่าย
หากใต้ความสดใสระหว่างการเล่าเรื่องราวและความตั้งใจในการทำสตูดิโอ นุ๊กสลับไปเล่าเรื่อง ‘ปัญหาโลกแตก’ ที่ตัวเองและคอนเทนต์ครีเอเตอร์รายอื่นเจอเหมือนกันอย่างถ้วนหน้าอย่างเรื่องของ ‘คอนเทนต์ตัน’ หรือความรู้สึกว่าหาผลงานต่อยอดหรือผลิตผลงานชิ้นต่อไปไม่ได้เมื่อถึงจุดหนึ่งของการทำงาน
“เราก็ดาวน์ คิดแบบ เออเขาเบื่อเราแล้ว หรือว่าเราโป๊ไม่พอ อะไรอย่างนี้ แต่ว่าเราก็ไม่เคยแบบจะไปโป๊เพิ่ม แค่รู้สึกว่า เลิกทำดีกว่าไหม แล้วก็หันเหไปทำอะไรที่มันเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เราก็รู้สึกว่า ไม่เอา วันหนึ่งตื่นขึ้นมาโพสต์รูป โปรโมตดีกว่า ทำอะไรดี พรุ่งนี้ถ่ายอะไรดี”
แล้วสำหรับเซ็กซ์คอนเทนต์ที่มีจุดยืนในเรื่องการถ่ายเพียงรูปในเชิงเซ็กซี่เท่านั้น มีแผนที่จะข้ามรั้วไปหาคอนเทนต์ที่ ‘เปิด’ มากกว่าเดิมหรือไม่
นุ๊กยืนยันว่ายังคงยืนหยัดในจุดปัจจุบัน
“นุ๊กไม่ได้คิดว่า การได้รายได้เพิ่มมันจะทำให้เรามีความสุขในระยะยาว บางทีมันอาจจะไม่ได้ดีกับเราก็ได้ แต่มันอาจจะดีกับคนบางคนก็ได้ แต่สำหรับเรามอง เราประเมินตัวเองแล้วว่ามันไม่ปลอดภัยกับเรา”
เธอย้ำอีกครั้งเรื่องเงื่อนไขในชีวิตไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสถานะการเรียน เรื่องของสังคมในเฟซบุ๊กที่เกรงใจเพื่อนเป็นอาจารย์ในภาควิชาและคณะหลายท่าน รวมถึงยืนยันเรื่องสำคัญว่าตนเองนั้นเจอจุดที่พอดีกับตัวเองแล้ว
คำสอนจากคนแปลกหน้า
“โดนล่าสุดเลย ทำไมไม่ไปทำงานที่มัน ‘มีเกียรติ’ กว่านี้ล่ะหนู”
คือคำตอบของนุ๊กเมื่อเราถามถึง ‘เสียงตอบรับ’ ในการทำงานเป็นเซ็กซ์ครีเอเตอร์
มันกลายเป็นเรื่องคุ้นหากไม่ควรชิน นุ๊กตอบกลับสบายๆ ราวกับเป็นการทักทายประจำวันว่ามันน่าจะเป็น ‘เรื่องปกติ’ ของเซ็กซ์ครีเอเตอร์ทุกคน ที่การลงรูปในหนึ่งครั้งจะต้องเจอกับข้อความหรือคอมเมนต์ในทำนอง ‘สั่งสอน’ จากคนที่อาจจะไม่แม้แต่จะเคยเดินเฉียดใช้อากาศอยู่ร่วมกันในพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใดก็ได้
ซึ่งสำหรับนุ๊กแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าคำว่า ‘มีเกียรติ’ ที่ว่านั้นเป็นอย่างไร ต้องทำอาชีพอะไร มีอะไรเป็นข้อพิสูจน์ว่าอาชีพเหล่านั้นมีเกียรติอย่างที่กล่าวอ้าง แล้วที่สำคัญที่สุดคือ ‘ผู้ทรงเกียรติ’ เหล่านั้นมาพบเจอเพจของเธอได้อย่างไร ถ้าไม่ได้ตั้งใจค้นหาเอง
“ไม่อยากคุยกับคนพวกนี้ เรารู้สึกว่าเราพูดไปเราก็เหนื่อย เขาไม่ฟังเรา เราไม่ชอบเราอะ เราก็ไม่รู้จะอธิบายไปทำไม หูทวนลม”
และวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับนุ๊กที่จะพาตัวเองออกจากวงโคจรที่แวะเวียนเปลี่ยนหน้ามาวุ่นวายให้ระคายใจ คือการบล็อกผู้ใช้งานเหล่านั้นไปเสีย โยนทิ้งข้อความที่เข้ามาสอนและสั่งเท่านั้นโดยไม่คิดจะไปสืบสาวราวเรื่องให้เสียเวลา เพราะเธอมีบทเรียนแล้วว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่าสำหรับการอธิบายให้คนที่มีภาพจำฝังหัวเกี่ยวกับเซ็กซ์ครีเอเตอร์ว่าเป็นคนไม่ดีไปแล้ว
หมู่บ้านนักศึกษา
แม้จะยังอยู่ในช่วงระหว่างการเรียนออนไลน์ หากสถานที่อาศัยขนาดใหญ่คล้ายหมู่บ้านของเหล่านักศึกษาแห่งนี้ก็ยังเต็มไปด้วยนักศึกษาเดินสวนไปมาขวักไขว่ บ้างก็วิ่งออกกำลังกายรอบพื้นที่ บ้างก็เดินทางออกไปหาของรับประทานในช่วงเย็น เราเดินลึกเข้ามายังพื้นที่แสนซับซ้อน ก่อนจะโทรหา เอิ้น เจ้าของทวิตเตอร์แอ็คเคาน์ @myprivateroom__
เราทักทายกับเพื่อนหลายชีวิตของเอิ้นที่มารวมตัวกันทำกิจกรรมหลากหลายอยู่บริเวณห้องรับแขกของห้องพักแห่งนี้ รวมถึงสวัสดีแมวน้อยสองตัวที่หันมองตาโตให้กับแขกที่มาใหม่ หอพักสำหรับรองรับนักศึกษาไม่ได้ประดับตกแต่งอะไรสวยงามมากนัก สิ่งที่ดูเหมือนจะเตะตาที่สุดในห้องนี้ก็คงเป็นคอนโดแมวขนาดใหญ่ที่วางเอาไว้ข้างโซฟาเท่านั้นเอง
เอิ้นเริ่มแนะนำตัวในช่วงต้นของการพูดคุยว่าเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 อายุ 21 ปี และเธอนิยามตัวเองว่าเป็น sex worker ชัดถ้อยชัดคำ
สำหรับเธอแล้ว sex worker หมายถึงกลุ่มคนที่ทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของผู้บริโภค แต่การตอบสนองที่ว่านั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเรื่องเซ็กซ์หรือมุ่งตรงไปทางการมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิติอื่นอย่างการถ่ายรูปเซ็กซี่ โป๊เปลือย
เพื่อนที่คอยสนับสนุน
เราพูดคุยกันโดยมีเจ้าเหมียวสี่ขาคอยเดินแวะเวียนมาให้กำลังใจคนแปลกหน้าเป็นระยะ เอิ้นเท้าความให้ฟังว่านอกเหนือจากการเรียนในมหาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้เคยทำงานพิเศษเป็นพนักงานในเลานจ์ หากสถานการณ์ความรุนแรงของโรค COVID-19 ทำให้ร้านต้องหยุดตัวลง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เอิ้นเริ่มมองหารายได้เสริมอื่น
ณ เวลานั้นเอิ้นไม่ได้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในภาพรวม โดยเมื่อก่อนทางบ้านจะให้เงินสนับสนุนในส่วนของค่าเช่าหอพักและค่ากินอยู่ หากเป็นในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่นที่นอกเหนือกว่านั้นจะไม่รวมด้วย เพราะอย่างนั้นการทำงานเลานจ์จึงเป็นหนึ่งในวิธีการหารายได้เพิ่มเติม
รวมถึงคำแนะนำจากเพื่อนฝูง ที่มีการแชร์โพสต์ของผู้ใช้งานรายหนึ่งบนทวิตเตอร์เกี่ยวกับการทำเงินบน OnlyFans ที่ได้รับผลตอบรับในระดับดีมาก
หลังจากนั้นเอิ้นได้ลองศึกษาข้อมูลรวมถึงปรึกษาเพื่อน แรงสนับสนุนเหล่านั้นผลักดันให้เอิ้นก้าวเข้าไปในโลกที่ชื่อว่า OnlyFans
“เพื่อนๆ ก็สนับสนุนมาตลอด ถ้าเป็นเพื่อนใกล้ชิด แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่ห่างๆ ก็ไม่ได้รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่ว่าเป็นเพื่อนที่เป็นที่อยู่ด้วยกันในชีวิตประจำวันหรือว่าเพื่อนที่ติดต่อกัน เขาก็สนับสนุนเต็มที่ เรื่องแบบนี้มันก็เปิดกว้างแล้ว เขาคิดว่าเราแบบเก่งมากที่ทำอะไรตรงนี้ได้”
ตลอดการพูดคุยเอิ้นยกเครดิตให้กับแรงสนับสนุนใหญ่อย่าง ‘เพื่อน’ เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ก่อนเริ่มลงคอนเทนต์ ระหว่างลงคอนเทนต์ หรือว่าในปัจจุบัน และเราเองก็ได้สัมผัสถึงข้อพิสูจน์ว่า ‘แรงซัพพอร์ต’ เหล่านั้นคอยผลักดันและรองรับเธอไว้มากแค่ไหน ผ่านเสียงเชียร์และเสียงชมของเพื่อนฝูงเมื่อเห็นเสื้อผ้าเซ็กซี่ที่เธอกำลังสวมใส่อยู่
เมื่อการคุกคามลามไปถึงพาร์ตเนอร์ในคลิป
จุดเริ่มต้นของเซ็กซ์ครีเอเตอร์มือใหม่อย่างเอิ้นเริ่มจากถ่ายรูปในชุดเซ็กซี่อย่างเช่นบิกีนี่น้อยชิ้นหน้ากระจก โดยในช่วงแรกยังคงปกปิดใบหน้าเอาไว้ผ่านการถ่ายที่ปิดส่วนหน้าหรือว่ามีการนำรูปภาพอื่นมาปิดช่วงศีรษะเอาไว้
แล้วอะไรที่ทำให้เอิ้นตัดสินใจ ‘เปิดหน้า’ บนโลกอินเตอร์เน็ต?
“จริงๆ ช่วงแรกๆ ไม่อยากเปิดเลย แต่ว่าด้วยความที่มีรอยสักอย่างนี้ คนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรา ถ้าเปิดหน้าไปก็คงไม่มีอะไร มันก็คงไม่เสียหายไปมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่ เพราะว่ายังไงคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรา”
เอิ้นอธิบายความเสี่ยงหนึ่งของการทำงานตรงนี้ คือการที่ผู้ติดตามบางคนพยายาม ‘ตามหาตัวจริง’ ของเซ็กซ์ครีเอเตอร์ ซึ่งสามารถแบ่งได้หลายระดับ ตั้งแต่การทักข้อความมาถามว่าอยากนัดเจอตัวจริง อาศัยอยู่ละแวกไหน กำลังเรียนอยู่ที่ไหน รวมถึงเอิ้นก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเจอกับข้อความผ่านแชตในทำนองคุกคามทางเพศ มีการถ่ายรูปอวัยวะเพศส่งมาให้ดู
ส่วนหนึ่งเรื่องที่เอิ้นรู้สึกลำบากใจคือการที่ผู้ชมต้องการข้อมูลของพาร์ตเนอร์ หรือเซ็กซ์ครีเอเตอร์คนอื่นที่มาปรากฏตัวในผลงานของตนเอง
“เหมือนก็จะตามถามว่าคนที่ถ่ายด้วยในคลิปคือใคร ใช่คนนี้ไหม ซึ่งมันทำให้เราลำบากใจ คือเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ว่าเขาจะรู้ว่าเราเป็นใคร ซีเรียสเรื่องที่ว่าเขาจะไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตคนอื่น”
ล็อกเฉพาะผู้จ่ายเงิน
กระจกแต่งตัวบานสูงจัดเอาไว้ตรงกลาง มีแสงสีเหลืองจากโคมไฟไลฟ์สดทรงกลมวางเอาไว้ข้างกันทางขวา ถัดขึ้นไปบนเตียงของเอิ้นมีพ็อกเกตไลต์แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดงวางเอาไว้ขนาบซ้ายขวา มีนางแบบในวันนี้อย่างเอิ้นในชุดบิกีนี่ตัวสวย โชว์รอยสักกุหลาบดอกโตบริเวณหน้าท้องนั่งอยู่ตรงกลาง
เอิ้นสาละวนกับการจัดแสงไฟให้เหมาะกับ ‘ฉาก’ เตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายรูปหน้ากระจกสำหรับคอนเทนต์ถัดไป เธอและเพื่อนผลัดกันเล่าว่าโดยปกติแล้วจะจัดไฟในห้องประมาณไหน ต้องวางหลอดไฟแต่ละชิ้นให้อยู่บริเวณใดจึงจะออกมาเป็นสีผสมที่สวยยามยกกล้องขึ้นมาบันทึกภาพ เพื่อเป็นสร้างความน่าสนใจให้กับภาพถ่ายของเธอมากขึ้น
เธออธิบายว่าเริ่มแรกเธอหาซื้อมาเพียงดวงเดียว จากนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ก็เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ได้ภาพที่ตรงความต้องการ เพราะสำหรับงานที่เธอทำ การซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างความแตกต่าง รวมถึงความน่าสนใจให้ภาพของเธอ
เรายังคงพูดคุยเกี่ยวกับข้อสงสัยบางอย่างที่พบระหว่างทำการศึกษาโลกของเซ็กซ์คอนเทนต์บนทวิตเตอร์ อย่างเช่นคำที่พบได้บ่อยครั้งเช่นว่า ‘แอ็คล็อก’ (Acc Lock) จากการสำรวจราคาตลาดของแอ็คล็อกมีความหลากหลาย บ้างก็เริ่มต้นที่ 100 บาท หรือว่าจะสูงมากกว่า 1,000 บาทก็มีเช่นกัน เราขอให้เอิ้นช่วยอธิบายว่าแอกล็อกเหล่านี้คืออะไร
เอิ้นไขความข้องใจของเราว่ามันคือการสร้างบัญชีผู้ใช้ขึ้นมาแล้วทำการจำกัดผู้ติดตามโดยการตั้งค่าให้บัญชีเป็นส่วนตัว หรือล็อกเป็นไพรเวตเอาไว้ หากใครที่สนใจจะติดตาม (follow) แอ็คเคาน์เหล่านี้ ก็จะต้องจ่ายค่าไขกุญแจเสียก่อน (เมื่อตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทวิตเตอร์ จะปรากฏสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจหลังชื่อแอ็คเคาน์)
สำหรับเนื้อหาภายในแอ็คล็อกก็มันจะเป็นรูปถ่ายที่ ‘พิเศษ’ มากกว่ารูปที่เปิดเป็นสาธารณะ แต่อาจจะไม่ได้ลงรูปถ่ายบ่อยหรือถี่เท่ากับใน OnlyFans เพราะเธอมองว่าพื้นที่แอกล็อกมีไว้สำหรับการโฆษณาเพื่อให้คนไปติดตาม OnlyFans ต่อ
แล้วเอิ้นมองเรื่องของการ ‘ตั้งราคา’ เหล่านี้อย่างไร มันเชื่อมโยงอะไรกับการตั้งมูลค่าให้ตัวเองหรือเปล่า เหมือนกับการที่เราตั้งค่าตัวเองให้อยู่ที่ราคา 300 บาทอย่างนั้นใช่หรือไม่?
“ไม่เกี่ยว มันคือคอนเทนต์ที่เราทำเหมาะกับเงิน 300 บาท เป็นราคาคอนเทนต์ ไม่ใช่ราคามูลค่าตัวเรา”
เอิ้นตอบพร้อมอธิบายต่อว่าการตั้งราคานั้นผ่านการคิดทบทวนแล้วว่าสิ่งที่ผู้ติดตามจะได้รับ คุ้มค่ากับราคาที่เธอตั้งอย่างไร โดยไม่คิดรวมถึงแนวคิดที่ว่า ‘ราคา’ นี้จะลดทอนหรือตีตราคุณค่าในตัวเธอให้เป็น 300 บาท แต่มันคือราคาที่เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่ผู้ติดตามหนึ่งคนจะได้รับ เมื่อจ่ายเงินในมูลค่านี้
รอยร้าวที่ประสานไม่ได้
ด้วยความที่เอิ้นยังคงอยู่ในวัยเรียน แน่นอนว่านักศึกษาจำนวนไม่น้อยยังคงอาศัยพักพิงอยู่กับครอบครัว และรวมถึงการพึ่งพาเม็ดเงินจากครอบครัว
ในกรณีของเอิ้นเธอเองก็เจอกับปัญหาความไม่เข้าใจจากทางครอบครัวเช่นกัน
เอิ้นไม่ได้ตั้งใจให้คุณแม่ทราบว่าตนเองนั้นทำงานในโลกของ OnlyFans หากโชคก็ไม่เข้าข้างเมื่อวันหนึ่งแม่ของเธอบังเอิญรู้ว่าลูกสาวกำลังทำงานอะไรอยู่ จนเอิ้นที่อาศัยกับครอบครัวในเวลานั้นเพราะสามารถเรียนออนไลน์จากบ้านได้ในสถานการณ์ COVID-19 เลือกที่จะกลับมาอยู่หอพักแทน
“คือเหมือนแม่โกรธ เราก็เลยออกจากบ้านมา แล้วมาอยู่ที่หอ ก็พยายามคุยกับแม่แต่ว่าแม่ก็ไม่ตอบ แล้วก็อยู่ดีๆ แม่ก็กลับมาคุยด้วยปกติ คือไม่รู้ว่าแม่ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือว่าแม่เข้าใจ ก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กันแล้ว”
แล้วถ้าต้องเลือกระหว่างการทำ OnlyFans ต่อไป กับการเลิกทำเพื่อให้แม่สบายใจ เอิ้นชั่งน้ำหนักเช่นไร?
เอิ้นตอบว่าเธอเลือกที่จะทำ OnlyFans ต่อไปด้วยหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอเข้าใจความคิดและมุมมองต่อเซ็กซ์คอนเทนต์ที่แตกต่างกันระหว่างคนต่างวัย ในมุมมองของคุณแม่การทำงานในด้านนี้อาจจะยังเป็นเรื่องที่ดูไม่ดี เรื่องของรายได้ที่ยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องของโอกาสในการเก็บเกี่ยวประโยชน์จากความเยาว์วัยที่พร้อมโรยราในทุกวินาที
ในเรื่องของรายได้จากการทำงาน เอิ้นคำนวณให้ฟังว่าจากเมื่อก่อนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางบ้าน ณ ปัจจุบันไม่ว่าจะค่าใช้จ่ายในส่วนไหนก็ตามเธอเป็นคนดูแลและบริหารเองทั้งหมด คุณแม่ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินทองอีกแล้ว
โดยจากการคำนวณคร่าวๆ แล้ว การทำงานในฐานะ sex worker ทำเงินให้เธอได้เดือนละ 40,000 บาท
OnlyFans ให้มากกว่ารายได้
นอกจากเรื่องของรายได้จากการทำงานตรงนี้อย่างต่อเนื่องและเป็นจำนวนที่เรียกได้ว่าเพียงพอสำหรับการเลี้ยงตัวเองในแต่ละเดือน การก้าวข้ามเข้ามาเดินอย่างมั่นใจในเส้นทางของเซ็กซ์คอนเทนต์บน OnlyFans พาเอิ้นพบประสบกับเรื่องราวและประสบการณ์มากมายระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเปิดกว้างทางความคิดของสังคมต่อ sex worker และรวมถึงการเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
“มันทำให้เราได้เจอมุมมองสังคมใหม่ๆ ของคนรอบตัว สมมติว่าแบบ ถ้าเราไม่ได้เริ่มทำงานนี้ตั้งแต่แรก เราอาจจะไม่รู้ว่าคนรอบตัวเรามีทัศนคติต่อ sex worker ยังไง เพราะเราคงไม่แบบจู่ๆ ไปไล่ถามว่า เฮ้ย! คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้”
เธอยังคงเข้าใจว่าการพูดคุยในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศอาจจะไม่ได้เปิดกว้างสำหรับทุกคนแม้ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือคนรู้จักในรุ่นราวคราวเดียวกัน บางคนอาจจะสนับสนุนหรือว่าบางคนก็อาจจะยังต่อต้าน สำหรับเธอแล้วการที่ได้ออกตัวเป็น sex worker ที่มีผลงานบน OnlyFans แล้วได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนมันก็เป็นเรื่องที่ดีต่อใจมากเช่นกัน
เอิ้นขยายความถึงเรื่องของความมั่นใจในตัวเอง (self-esteem) ได้อย่างน่าสนใจว่าก่อนหน้านี้เอิ้นเองไม่ใช่คนที่มั่นใจในตัวเองมากนัก ด้วยความที่รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่ได้ตรงตามค่านิยมความงามหรือ beauty standard ของคนไทย
หากตั้งแต่เริ่มต้นทำ OnlyFans มา เธอรับรู้ได้เลยว่าเธอมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ผ่านแรงสนับสนุนพลังบวกจากทั้งผู้ติดตาม วงการเซ็กครีเอเตอร์ด้วยกัน และรวมถึงผู้ติดตามที่ทำให้เธอรู้ว่ารสนิยมเรื่องความสวยงามไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว
“ช่วงที่ทำแรกๆ ก็รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นนะคะ เพราะว่าลงรูปอะไรไปคนก็จะแบบ.. ครีเอเตอร์ด้วยกันเข้ามาชม อุ้ย สวยมาก อะไรอย่างนี้ คือได้คำชมเยอะมาก ชีวิตนี้ไม่เคยได้รับคำชม”
ดีกรีที่มากกว่าเปลือยเรือนร่าง
โดยทั่วไปเซ็กซ์คอนเทนต์เองก็มีการแบ่งระดับ ‘ความแรง’ ของผลงานที่แตกต่างกัน อย่างเช่นการโชว์รูปเชิงเซ็กซี่ หรือว่าเปิดเผยร่างกายบางส่วน แล้วสำหรับเซ็กซ์ครีเอเตอร์ที่ผลิตเซ็กซ์วิดีโอ (วิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์) อย่าง บันนี่ จาก @Darkrabbithous1 มองตัวตนและผลงานของตัวเองที่ฉายอยู่บนหน้าจออิเล็กทรอนิกส์อย่างไร
ในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันหยุดที่สายฝนถล่มจนทิวทัศน์นอกหน้าต่างกลายเป็นภาพเลือนราง เรานั่งรอเธอในพื้นที่ส่วนกลางของของคอนโดที่เธอพักอาศัย ก่อนที่หญิงสาวในชุดเดรสสีดำลายดอกไม้น่ารักกับชายคนหนึ่งจะเดินเข้ามาทักทาย
บันนี่เริ่มต้นแนะนำตัวคร่าวๆ ว่าตอนนี้อายุ 27 ปี กำลังเรียนชั้นปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งอยู่ เมื่อก่อนเธอเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยไม่กล้าเผยรูปร่างตัวเองให้สาธารณชนเห็น ทั้งข้อคิดเห็นของทางบ้านที่ว่ารูปถ่ายเปิดไหล่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า หรือว่าจะในส่วนของแฟนเก่าที่มักจะหวงเวลาเธอใส่เสื้อผ้าโชว์ผิวเนื้อ
จากจุดที่สังคมและคนรอบข้างต่างใช้คำพูดในการสร้างกรอบและบีบตัวเลือกในการแต่งตัวของบันนี่เพื่อสนองความพึงพอใจของตนเอง เธอลงมือทำลายกรงที่กักอิสระเอาไว้ภายหลังจากการเลิกรากับแฟน โดยบันนี่เริ่มรู้สึกถึงความชอบในรูปร่างของตัวเองที่โดนความคิดของคนอื่นพันธนาการเอาไว้
จากความชอบก็เริ่มสะสมความมั่นใจในทรวงทรงและร่างกายของตัวเองมากขึ้น เป็นการลงรูปถ่ายแนวเซ็กซี่แต่ไม่ได้เปิดจุดสงวนอะไร ก่อนที่จะมีช่างกล้องที่สนิทกันชวนลองถ่ายอาร์ตนู้ด ก่อนที่จะขยับปรับฐานคอนเทนต์จนถึงวิดีโอเซ็กซ์ในปัจจุบัน
โดยเธอค่อนไปทางรู้สึกเฉยๆ สำหรับการถ่ายรูปเปลือยในครั้งแรก เป็นเพียงการถ่ายในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น เมื่อบวกเข้ากับความสนิทของเธอกับตากล้องที่มีความสัมพันธ์กันในเชิงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ไม่ได้คิดในเชิงอื่นยิ่งทำให้การทำงานนั้นราบรื่น
เธอย้อนความรู้สึกให้เราฟังว่ามันก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่แล้วสำหรับการเห็นรูปตัวเองในเชิงโป๊เปลือยเป็นครั้งแรก แต่ที่เธอให้ความสนใจมากกว่าคือเรื่องของความสวยงาม เรื่องขององค์ประกอบ แสง เงา เป็นต้น
“ไม่รู้สึกอะไรกับคนอื่น รู้สึกชอบตัวเองมากกว่าที่กล้า ที่จะแบบเผชิญกับโลก กล้าตัดสินใจแล้วว่านี่ ลงรูปนู้ดครั้งแรกเลย มีคนมาชอบก็รู้สึกดีใจ”
ความในใจของคนผลิตเซ็กซ์วิดีโอ
คำว่าเซ็กซ์วิดีโออาจเป็นคำแสลงหูอยู่ไม่น้อยสำหรับใครหลายคน อย่างน้อยก็สำหรับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ให้สัมภาษณ์ว่าการจับกุม ‘น้องไข่เน่า’ ว่าเป็นไปเพื่อ ‘จรรโลงความถูกต้องในศีลธรรมอันดีของประเทศไทย’ แล้วในความคิดเห็นของบันนี่เธอคิดอย่างไร
“คือเมื่อก่อนเราก็ไม่เข้าใจแหละว่า เฮ้ย มันเป็นเรื่องน่าอายหรือเปล่า ทำไมคนนึงถึงกล้าแก้ผ้าแล้วได้เงิน อะไรอย่างนี้ เขารู้สึกอะไรบ้างไหม ที่บ้านไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ จนเรามาทำจริงๆ เราก็รู้สึกว่า เออแล้วเราจะไปแคร์มันทำไม คือถามว่าเขาทำแล้วมันมีผลอะไรกับเรา มันเป็นร่างกายเขาอะ”
หรือบอกได้ว่าการที่คนๆ หนึ่งเลือกที่จะนำภาพเคลื่อนไหวของตัวเองขณะมีเพศสัมพันธ์ออกมาขายเพื่อการพาณิชย์ มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรกับ ’ศีลธรรมอันดี’ แต่เป็นเพียงแค่การตัดสินใจส่วนบุคคลของคนๆ หนึ่งที่นำเอา ‘กิจกรรมพื้นฐาน’ ของมนุษย์มาต่อยอดให้เกิดมูลค่า ไม่ต่างอะไรกับการทำคลิปวิดีโอทานอาหาร หรือว่าท่องเที่ยวลงยูทูบ
บันนี่มองว่า เธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตได้ประกอบอาชีพเป็นเซ็กซ์ครีเอเตอร์ เซ็กซ์วิดีโอที่เธอเข้าไปมีส่วนร่วมก็เป็นเพียงแค่การแสดงหนึ่งฉาก และเธอก็เป็นนักแสดงเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องเงินไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้เธอเลือกเข้ามาเป็นผู้ผลิตเซ็กซ์คอนเทนต์คนหนึ่งบน OnlyFans โดยในเดือนแรกที่เธอเปิดแอ็คเคาน์มีผู้ติดตามเพียงแค่ 2-3 คนเท่านั้น และยังไม่เคยผลิตผลงานที่เป็นเซ็กซ์วิดีโอมากก่อน
ก่อนจะถึงจุดหนึ่งที่เธอรู้สึกว่าผลงานของตัวเองเข้าสู่ระยะที่ต่อยอดลำบาก ก็ได้รับคำชักชวนจาก เซ็กซ์ครีเอเตอร์ผู้โด่งดังทวิตเตอร์อย่าง ‘ชายต๊องหญิงเพี้ยน’ ติดต่อให้ลองมาทำคลิปเซ็กซ์วิดีโอร่วมกัน
และเธอเลือกที่จะ ‘เปิดหน้า’ ในคลิปวิดีโอนั้น
ซึ่งเรียกได้ว่าการตัดสินใจของเธอในเซ็กซ์วิดีโอของชายต๊องหญิงเพี้ยนนั้นเป็นที่โจษจันไม่น้อย เพราะก่อนหน้านั้นคลิปในช่องมักจะเป็นการถ่ายทำที่มีการปิดหน้าของผู้แสดงเอาไว้ตลอด
เหตุใดบันนี่ถึงเลือกเข้าร่วมการผลิตผลงานวิดีโอเซ็กซ์ พร้อมเปิดเผยใบหน้า
บันนี่ตอบฉะฉานว่ามันเป็นเรื่องของความชอบและความเต็มใจที่จะอวดร่างกายของตัวเองและเราไม่ควรจะกลัวหรือกังวลที่จะทำในสิ่งที่ชอบ
“เราผ่านจุดที่แย่มากๆ แล้ว คือมันโดนทุกอย่างไปแล้ว ที่เราไม่สามารถรักตัวเองได้ จนในวันหนึ่งที่เรารู้สึกสตรองขึ้น แล้วเราก็รู้สึกว่า เออ ถ้ามันมีคนเห็นแล้วเป็นอะไรล่ะ ในเมื่อเราคิดว่าเราชอบมัน”
เพราะรักตัวเอง เธอจึงเปิดเผยในสิ่งที่ตัวเองรัก
การพัฒนาคุณภาพเซ็กซ์วิดีโอ
บันนี่ให้ข้อสังเกตหนึ่งเกี่ยวกับลักษณะของ ‘หนังโป๊’ ในประเทศไทยว่ามักจะอยู่ในรูปแบบของงานแอบถ่าย หรือว่าเป็นการถ่ายทำด้วยกล้องโทรศัพท์ง่ายๆ ไม่ได้มีการจัดแต่งให้อยู่ในลักษณะของโปรดักชั่นหรือว่าการถ่ายทำที่เป็นกิจจะลักษณะ
ด้วยความที่เธอเองเป็นคนที่ชอบและสนใจในวิดีโอเซ็กซ์ที่ ‘สวย’ เธอจึงเริ่มมีการศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้องวิดีโอหรือว่าการหาสถานที่ในการถ่ายทำ
“เราก็เลยคิดว่าถ้าประเทศไทยมันมีคลิปที่สวย มุมดี ไปถ่ายข้างนอกบ้าง โรงแรมบ้าง สวยๆ โลเกชั่นดีๆ อะไรอย่างนี้ เราก็เลยอยากทำอย่างนั้นบ้าง”
ซึ่งการทำคลิปคอนเทนต์เหล่านี้ไม่ได้มีขั้นตอนการทำงานที่แตกต่างอะไรกับการทำวิดีโอลงแพล็ตฟอร์มอื่น มีการฟิตหุ่นอดอาหารเตรียมพร้อม การเซตเรื่องของฉาก การตั้งอุปกรณ์ หรือว่าในกรณีที่ต้อง role play ก็จำเป็นต้องมีเรื่องของบทเข้ามาเช่นกัน
หากความตั้งใจในการทำงานทั้งหมดนั้นเหมือนว่ามันจะไม่เคยมีใครให้ค่า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ผลงานชิ้นนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ มันเป็นพร้อมจะถูกหลายคนในสังคมตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดีไปโดยปริยาย
“เขาก็ชี้หน้าด่า คนเลว ผิดศีลธรรม กะหรี่ แล้วไง ไม่เจ็บเว้ย”
เซย์โนให้กับชุดนักศึกษา
ด้วยความที่เนื้อหาของผลงานที่บันนี่ผลิตมีความหลากหลาย ทั้งในส่วนที่เป็นผลงานที่ผลิตขึ้นมาเอง เลือกเสื้อผ้าหรือว่าธีมของรูปในแต่ละครั้งเอง หรือว่าในบางครั้งก็มีคนที่ ‘รีเควสต์’ หรือขอให้ผลิตงานที่ตรงกับความต้องการของผู้สนับสนุน อาจจะเป็นอย่างเช่นการจ่ายในราคาเท่านั้นเท่านี้เพื่อขอให้ใส่ชุดคอสเพลย์ที่กำหนด เป็นต้น แต่บันนี่เองก็มีกฎเหล็กของตัวเองเช่นกัน
“ก็มีหลายคนที่แบบ สนใจใส่ชุดนักศึกษาไหม ซึ่งมาแนวนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่าเขาอะ จะซื้อแล้วเอาไปปล่อยตามกลุ่ม แล้วบอกว่าเป็นคลิปหลุดอะไรอย่างนี้ เราก็ไม่สนับสนุน แล้วก็ไม่รับแนวชุดนักเรียนนักศึกษา”
ด้วยลักษณะของเนื้อหาที่ บันนี่คำนวณให้เราฟังคร่าวๆ ว่าในหนึ่งปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มต้นลงผลงานใน OnlyFans เธอมีรายได้รวมมากกว่า 1 ล้านบาท โดยตัวเลขที่เคยได้เยอะที่สุดจากผู้สนับสนุนรายเดียวคือ 400,000 บาท
หากรายได้ที่เรียกได้ว่าสูงมากในแต่ละเดือนก็ตามมาด้วยความไม่ปลอดภัยต่อทั้งตัวเองและทรัพย์สิน
“มีการส่งข้อความมาสอบถามว่าอาศัยอยู่ในคอนโดมีเนียมนี้หรือเปล่า เพราะจำลักษณะการออกแบบของตัวห้องได้ คือมันรู้สึกไม่ปลอดภัยจนเราต้องย้ายที่พัก”
นอกจากการเลือกที่จะย้ายสถานที่พักอาศัยเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย บันนี่ยังเล่าว่าที่หนักที่สุดสำหรับเธอคือข้อความขอซื้อบริการทางเพศจากคนมียศ ตำแหน่งในทางราชการ ซึ่งพอเธอปฏิเสธไปแล้วข้อความที่ตอบกลับมานั้นเป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน
“เขาถามรับงานไหม เราว่าไม่รับค่ะ ไม่ได้ขายตัว เขาบอกว่าระวังนะ เดี๋ยวจะให้เพื่อนมาอุ้ม”
‘OnlyFans’ แพะของสังคม
ยังคงมีอีกหนึ่งวลีล้าสมัยที่บอกว่าคลิปวิดีโอเรื่องเพศเหล่านั้นเป็นการมอมเมาเยาวชน ชักชวนให้เกิดความสุ่มเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และ OnlyFans ก็กลายเป็นแพะตัวล่าสุด ในการกล่าวโทษอย่างแข็งขันจากผู้รักษาศีลธรรม
บันนี่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการสร้างชุดความคิดที่ผลิตซ้ำและการ ‘โยนความผิด’ มาให้เซ็กซ์ครีเอเตอร์ไว้อย่างน่าสนใจ
“คือคุณไม่ควรมาโทษเรา เราอยู่ในพื้นที่ของเรา เราค่อนข้างจะ educate หลายๆ คน เราไม่สนับสนุนให้เด็กต่ำกว่าสิบแปดมาทำ เราไม่สนับสนุนคอนเทนต์ที่เป็นชุดนักศึกษา นักเรียน”
บันนี่อธิบายต่อว่า หากการศึกษาของไทยมีการสอนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อทางเพศอย่างถูกต้อง สถาบันครอบครัวสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่าเรื่องทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ต้องปกปิด รวมถึงไม่ตราหน้าว่าคนที่ทำงานในโลกของเซ็กซ์คอนเทนต์ ด้วยถ้อยคำที่ด้อยค่าและด้อยราคาของผลงาน
เพราะสำหรับเธอแล้ว OnlyFans คือแพล็ตฟอร์มที่ค้นพบตัวตนและความชอบของตัวเอง เป็นพื้นที่ที่สร้างความมั่นใจให้กับเธอ ทำให้เธอและเพื่อนร่วมวงการเซ็กซ์คอนเทนต์อีกหลายคนรู้สึกรักตัวเอง ให้คุณค่าในตัวเอง
นอกจากนี้เธอก็ยังคงให้การสนับสนุน หรือว่าจะเป็นในเรื่องของการให้ความรู้ทางเพศศึกษา อย่างเช่นที่เธอเคยเขียนเธรดในทวิตเตอร์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกับบริการฉุดยาคุมฟรีสำหรับผู้หญิงในโรงพยาบาล ซึ่งมีคนให้ความสนใจและรีทวิตไปมากกว่าหนึ่งแสนครั้ง
ส่วนถ้าหากมีใครมาประนามว่าการผลิตคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศของเธอคือการกระทำของ ‘คนหน้าเงิน’ บันนี่ให้คำตอบสวนกลับมาในทันที
“ใช่ ใครไม่ทำงานเพื่อเงิน คุณทำงานฟรีเหรอ งั้นจ้างคุณมาทำความสะอาดห้องแล้วไม่ให้เงินได้ไหม คุณจะทำหรือเปล่า”
ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ต่างจากนุ๊กและเอิ้น
เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อซื้อปัจจัยในการดำรงชีวิต
หน่ายใจกับกฎหมายไทย
ทั้งนี้หนทางการทำงานในฐานะเซ็กซ์ครีเอเตอร์ในประเทศไทยเต็มไปด้วยอุปสรรค และไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ในสังคม ทัศนคติของผู้มีอำนาจต่อเซ็กซ์คอนเทนต์ และที่น่าเจ็บปวดที่สุดคือเรื่องของการคุ้มครองสิทธิของตัวเอง
เนื่องด้วยประเทศไทยไม่ได้ให้การคุ้มครองลิขสิทธิ์ของผลงานในเชิงเพศเหล่านี้โดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่บันนี่อัปโหลดคลิปวิดีโอหรือภาพผลานใดขึ้นไปบนโลกออนไลน์ คนทุกที่มีช่องทางในการเข้าไปเสพผลงานก็สามารถนำเอาคลิปหรือว่ารูปเหล่านั้นไปปล่อย
หรือที่หนักยิ่งกว่าคือการนำเอาไปขายต่อ กลายเป็นว่าการลงผลงานในแต่ละครั้งสิ่งที่เธอต้องทำใจเอาไว้เลยคือเรื่องของการนำเอาผลงานจากน้ำพักน้ำแรงของเธอไปชุบมือเปิบ
จนเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกตั้งราคางานเอาไว้สูง หรือว่าถ้าเป็นในกรณีที่มีผู้สนับสนุนมาขอรีเควสอะไรก็จะต้องใส่ลายน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อย เพื่อให้ทราบว่าคลิปนั้น ‘หลุด’ มาจากใคร
“หลังๆ เริ่มไปโปรโมตกับต่างชาติมากขึ้น เพราะว่าเรารู้สึกท้อใจกับการทำงานในไทย เพราะว่ามันไม่มีอะไรคุ้มครองเลย นี่รูปเรา คลิปเรา แต่ว่าทุกคนสามารถขโมยไปได้หมดเลย” บันนี่กล่าว
เซ็กซ์ครีเอเตอร์ไม่ได้ต่ำกว่าใคร
ในช่วงท้ายของการพูดคุย เราสอบถามถึงเหตุผลและปัจจัยของเพื่อนร่วมวงการเซ็กซ์คอนเทนต์ว่า ที่พวกเขาเลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการนี้คืออะไร คำตอบที่ได้มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความชอบและรสนิยมส่วนตัว เรื่องของช่องทางในการหาเงินเพิ่มเติม
หรือว่าจะเป็นทางออกสุดท้ายของคนไม่มีทางเลือก
บันนี่ได้ยกตัวอย่างน้องคนหนึ่งที่เธอรู้จักว่า เลือกที่จะเข้ามาปรึกษาเรื่องการทำงานบนแพล็ตฟอร์ม OnlyFans เพราะเป็นหนทางเดียวในการหาเงินประทังชีวิตตัวเองและใช้จ่ายในการศึกษา แม้ว่าเธอจะกังวลเรื่องของอายุของน้องที่ยังเด็ก แต่ก็ได้ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน
ความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวงการนี้ก็ยังมีอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น การนัดมีเซ็กซ์กันแล้วฝ่ายชายแอบถอดถุงยางระหว่างกิจกรรม หรือตั้งใจว่าไปพบเพียงแค่ถ่ายรูปแต่ว่าสุดท้ายแล้วเกิดความพยายามในการขืนใจขึ้น
ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของเรื่องราวที่ไม่น่าอภัยทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นจากการที่สังคมไทย ‘เหยียบย่ำต่ำค่า’ และสร้างภาพจำให้กับเซ็กซ์ครีเอเตอร์
“คุณมองก่อนว่า ‘เราเป็นคนเหมือนคุณ เราไม่ได้ต่ำกว่าคุณ’ ฉันก็เป็นคนปกติแบบคุณ คุณไม่มีสิทธิมาด้อยค่าอะไรฉันด้วยซ้ำ”
เรื่องของอนาคต
คำถามสุดท้ายของเรา คือบันนี่มองอนาคตของตัวเองกับวงการนี้อย่างไร? เพราะเธอเองก็ยอมรับว่าวงการนี้มีช่วงเวลาในการทำงานที่สั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เซ็กซ์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ รวมไปถึงเรื่องของกลุ่มผู้สนับสนุนที่ไม่ได้จีรังยั่งยืน
เธอมองภาพของตัวเองว่าคงจะอยู่ในวงการนี้อีกสัก 1-2 ปี เพื่อเก็บเงินไว้สำหรับแพลนอื่นที่วางเอาไว้แล้วในอนาคต ส่วนคลิปวิดีโอต่างๆ ก็อาจจะเอาไปฝากไว้ในเว็บเพื่อเก็บเป็นรายได้เสริมระหว่างทาง
หากวันหนึ่ง มีคนเดินเข้ามาเปิดคลิปเหล่านั้นแล้วถามว่าใช่เธอหรือไม่ เธอก็พร้อมจะยืนยันในสิ่งที่ตนทำ
“เราก็จะตอบว่าใช่ ฉันเอง เมื่อก่อนดังมาก มีคนชอบเยอะ หรือถ้ามีลูกแล้วลูกมาเจอ ก็จะบอกว่าใช่ วันหนึ่งแม่เป็น porn star ที่มีชื่อเสียง”
ก่อนพูดคุยกับเซ็กซ์ครีเอเตอร์ผู้หารายได้ด้วยเรือนร่าง เราเคยมีคำถามมากมาย เคยสงสัยว่าสำหรับพวกเขาและเธอการก้าวเข้ามาอยู่ในโลกของเพศมันซับซ้อน ยุ่งยาก และวุ่นวายหรือไม่
หากพูดคุยกับพวกเธอนั้นเต็มไปด้วยความธรรมดา เรียบง่าย มีเหตุผล
พวกเธอเป็นกลุ่มคนน่าอิจฉาที่ค้นพบความชอบของตัวเอง และยืนหยัดที่จะดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางที่ตัวเองรักโดยไม่แคร์สายตาของใครที่มองมา โดยมีพื้นที่อย่าง OnlyFans เป็นจุดที่ทำให้พวกเธอสามารถเป็นตัวเองโดยไม่ติดอยู่กับคำว่า ‘ศีลธรรมอันดีงาม’
เรื่องราวของเซ็กซ์ครีเอเตอร์ยังคงมีอีกหลากหลายมิติ ทั้งในด้านสังคมและกฎหมายที่คงไม่ได้รับการปรับแก้ไขและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ในเร็ววัน หากอย่างน้อยการเกิดขึ้นของ OnlyFans ก็เป็นอีกหนึ่งการขยับประเด็นเซ็กซ์คอนเทนต์ที่เคยถูกกดให้อยู่ใต้ลึกลงไปใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่ ‘ขนานหน้าดิน’ มากขึ้น
เป็นการเริ่มต้นให้อาชีพที่ถูกกดหัวให้ไม่มีตัวตนในสังคมไทย ทั้งที่แทรกซึมอยู่ทุกพื้นที่อย่าง sex worker ได้เผยตัวเต็มภาคภูมิ