เนื่องในวันที่เราหิวหมูพะโล้ เราเลยขอชวนทุกคนไปรู้จักกับเทวีหมูเด้ง เอ้ย! เทวีเทเวเรต (Taweret) เทวีที่มีร่างเป็นฮิปโป ยืน 2 ขา และมีส่วนประกอบของสัตว์ที่อันตรายอีก 2 ชนิดแห่งลุ่มน้ำไนล์ คือ มีขาเป็นสิงโต และมีหลังเป็นจระเข้
แม้ว่าฮิปโปจะเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับชาวอิยิปต์โบราณ แต่ปัจจุบันอียิปต์ไม่มีฮิปโปในธรรมชาติแล้ว เรารู้ว่าแม่น้ำไนล์เคยเต็มไปด้วยฮิปโป และฮิปโปเหล่านี้ก็เข้ามามีบทบาทกับความเชื่อ มีปฏิสัมพันธ์ โดยหลักๆ คือความยำเกรงในความดุร้ายของพวกมัน อย่างน้อยที่สุดก็คือ เทวีเทเวเรต ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเทวีที่ได้รับการบูชาในบ้านและครัวเรือน ด้วยเป็นเทวีแห่งความเป็นแม่ที่สำคัญแห่งการเจริญพันธุ์และการคลอดบุตร
แล้วทำไมฮิปโปและเทวีที่รวมสิ่งดุร้ายแห่งลุ่มน้ำไนล์ทั้ง 3 ไว้ จึงกลายเป็นตัวแทนของการปกปักรักษา? ความพิเศษของฮิปโปในมุมมองแบบอียิปต์ มี 2 ด้าน โดยฮิปโปเพศผู้เป็นตัวแทนของความวุ่นวายและความดุร้าย ส่วนฮิปโปเพศเมียเป็นตัวแทนของการคุ้มครองดูแลด้วยความไร้ปรานี
รักตัวเมีย-ไม่รักตัวผู้ ฮิปโปกับวัฒนธรรมอียิปต์
ฮิปโปเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีปฏิสัมพันธ์กับชาวอียิปต์ แต่ในชีวิตจริงถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก ฮิปโปมักเข้าทำร้ายผู้คนทั้งที่เข้าไปใกล้ริมน้ำ หรือขณะข้ามเรือ พวกมันบุกรุกเข้าทำลายพื้นที่เพาะปลูก จนมีภาพบันทึกบนกระดาษปาปิรุสว่า ผลผลิต ‘ถูกหนอนกินไปครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือคือฮิปโปกินไป’ ฮิปโปมีความหิวโหยและความดุร้ายที่น่ามหัศจรรย์ จนในตำรายาอียิปต์โบราณมีตำรับรักษาแผลฮิปโปกัดโดยเฉพาะ
ในอารยธรรมอียิปต์โบราณจึงมีการล่าฮิปโป เป็นการล่าที่มีความหมายตามตัวอักษร คือเพื่อจำกัดพื้นที่อยู่อาศัยและปกป้องผู้คนพืชผล ภาพการล่าฮิปโปนี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และมีหลักฐานต่อเนื่องจากตั้งแต่อาณาจักรเก่าถึงอาณาจักรใหม่ (New Kingdom) คือตั้งแต่ 1500 ปีก่อนคริสตกาล
การล่าฮิปโปภายหลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อทางศาสนา เช่น ภาพฟาโรห์สังหารฮิปโป ก็สัมพันธ์กับความเชื่อว่าฮิปโปเพศผู้เป็นตัวแทนของความโกลาหล เป็นการเอาชนะของความดีที่อยู่เหนือความยุ่งเหยิง ฮิปโปเป็นตัวแทนของพื้นที่ธรรมชาติ ในปกรณัมมีการสังหารเทพแห่งความโกลาหลซึ่งจำแลงร่างเป็นฮิปโป ตรงนี้เลยจึงกลายเป็นพิธีเชิงสัญลักษณ์ที่ฟาโรห์จะสังหารฮิปโป เพื่อแสดงภาพการเอาความชั่วร้าย ด้วยการสังหารเทพเจ้าเซธ (Seth) โดยเทพเจ้าฮอร์รัส (Horus)
เทเวเรต มารดรและผู้ดูแลมารดา
ฮิปโปที่ชาวอียิปต์กลัวเป็นฮิปโปเพศผู้ ทว่าฮิปโปเพศเมียกลับมีความหมายเชิงบวก ซึ่งตีความบนลักษณะเดียวกันคือความดุร้าย โดยฮิปโปเพศเมียถือเป็นตัวแทนของการปกป้องดูแลลูกๆ เป็นตัวแทนของการให้กำเนิดและความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำไนล์
ตรงนี้เองจึงสอดคล้องกับลักษณะของเทวีเทเวเรต เทวีที่ทำหน้าที่ปกป้องดูแลครัวเรือน ชื่อของนางมีความหมายว่า หญิงผู้ยิ่งใหญ่ (she who is great) ลักษณะของเทวีองค์นี้เป็นฮิปโปที่ยืนตัวตรง เป็นฮิปโปเพศเมียซึ่งอันที่จริงตั้งครรภ์อยู่ ภาพของเทวีน่าเกรงขามเพราะมักเผยอปากให้เห็นเขี้ยวและลิ้น รวมถึงบนศีรษะยังสวมใส่เครื่องประดับ และวิกผมยาวเชนเทวีอื่นๆ
องค์ประกอบที่น่าสนใจของเทเวเรต คือการรวมองค์ประกอบของสัตว์ดุร้าย 3 ประเภท อย่างฮิปโป จระเข้ และสิงโต สัตว์ทั้ง 3 ประเภทนี้ขึ้นชื่อเรื่องความดุร้าย และการปกป้องดูแลลูกด้วยความไม่ปรานี เทพจากสัตว์ทั้ง 3 นี้ยังมีอีกเทพเจ้าสำคัญชื่อ แอมมิต (Ammit) เป็นเทพเพศชายที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับสัตว์ ซึ่งประกอบขึ้นด้วยสัตว์ 3 ประเภทเดียวกัน ทว่าแอมมิตเป็นเทพเจ้าแห่งการกลืนกิน ทำหน้าที่กินวิญญาณที่ไม่ผ่านโถงแห่งการพิพากษา เป็นการเอาลักษณะสัตว์กินมนุษย์มาในแง่ของการทำลาย ตรงข้ามกันกับเทวีเทเวเรตที่เป็นความรุนแรงและพลังอำนาจในเชิงปกป้องคุ้มครอง
เทวีในรูปลักษณ์ฮิปโปจึงเป็นตัวแทนของการกำเนิด เทวีเทเวเรตเป็นเทวีที่พบเครื่องรางตามครัวเรือนของอียิปต์โบราณ ส่วนหนึ่งคือด้วยเธอเป็นเทวีที่ปกป้องคุ้มครองการให้กำเนิด ในการคลอดบุตรในยุคโบราณถือเป็นเรื่องอันตรายทั้งในก่อน ระหว่าง และหลังคลอด อันตรายซึ่งมีความเสี่ยงทั้งต่อตัวแม่และเด็กเอง โดยการขอพรต่อทวยเทพทำได้หลายวิธี เช่น การมีเครื่องรางในรูปลักษณ์ของเทวี
สำหรับการคลอดบุตร หมอจะทำพิธีทางศาสนาประกอบ ด้วยการวาดวงเวทรอบคุณแม่ที่กำลังคลอด หรือวางไว้รอบเปลเด็ก ส่วนคทาที่ใช้วาดวงเวทจะทำจากเขี้ยวยาวที่จารึกคาถาจากฮิปโปอันเป็นตัวแทนของเทเวเรต
สุดท้ายถ้าเราจำซีรีส์ Moonlight ได้ เทวีสำคัญที่มานำทางตัวละครไปสู่โลกหลังความตาย คือเทวีเทเวรตที่มีร่างเป็นฮิปโป แน่นอนว่าเทวีนี้นอกจากเกี่ยวข้องกับการกำเนิดและการดูแลการเกิดแล้ว ลักษณะของฮิปโปที่ปรากฏขึ้นและหายไปใต้น้ำ ยังเป็นตัวแทนของการเกิดใหม่ ดังนั้น เทวีแห่งการกำเนิดจึงมีบทบาทในปกป้อง และด้วยการเป็นเทพที่เกี่ยวกับการกำเนิดใหม่ จึงเป็นหนึ่งในทวยเทพที่ช่วยพาให้วิญญาณไปกำเนิดใหม่อีกครั้งในโลกหลังความตาย และการนำทางยังรวมการร่วมชำระดวงวิญญาณ เพื่อให้ผ่านโถงแห่งการพิพากษาสุดท้ายได้ด้วย
นี่คือเรื่องยาวนานของเทวีในร่างฮิปโป ประวัติศาสตร์ดุร้ายซึ่งอันที่จริง อียิปต์เองจากที่เคยเป็นบ้านของเหล่าฮิปโป แต่ฮิปโปตัวสุดท้ายของอียิปต์กลับหมดไปในราวศตวรรษที่ 19 จากเทพเจ้าสำคัญที่ดูแลครอบครัวและการให้กำเนิด ครอบครัวและการผลิตทายาท สู่การสูญพันธุ์ในพื้นที่ธรรมชาติ เรื่องราวของบรรพบุรุษน้องหมูเด้งจึงมีความสำคัญระดับเทวีที่ใครๆ ก็บูชา ใครๆ ก็รัก แม้จะดุร้ายและชอบแง่มผู้คนก็ตาม
อ้างอิงจาก