ออฟฟิศในฝันของคุณเป็นแบบไหน? มันจะดีไหมนะ ถ้าเราอยู่ในออฟฟิศที่เราเดินไปหยิบขนมฟรีๆ กินได้ทุกเมื่อ ขยับตัวไปอีกไม่กี่ก้าวก็มีคาเฟ่ และกาแฟหอมกรุ่นพร้อมเสิร์ฟอยู่ ส่วนบนดาดฟ้ามีสวนขนาดใหญ่กว่า 2 ไมล์ให้เดินสูดอากาศแก้เบื่อได้
The MATTER มีโอกาสเดินทัวร์สำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊กที่ Menlo Park รัฐแคลิฟอร์เนีย และเก็บบรรยากาศสนุกๆ ที่เกิดขึ้นที่นั่นมาฝากกัน
เมื่อวัฒนธรรมองค์กรของเฟซบุ๊ก สะท้อนผ่านการออกแบบที่สำนักงาน ด้วยจุดมุ่งหมายคือสร้างบรรยากาศที่เน้นอิสระ และหวังให้พนักงานทุกคน (แม้แต่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ยังไม่มีโต๊ะทำงานพิเศษกว่าคนอื่น) ได้เชื่อมต่อกันมากขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ภายในสำนักงานแห่งนี้จึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
บรรยากาศที่นั่นจะเป็นยังไง เราเก็บภาพมาให้ดูแล้ว!
ออฟฟิศเปิดโล่ง เลือกที่ประชุมกันได้ตามสบาย
ไอเดียหลักๆ ในการออกแบบสำนักงานของเฟซบุ๊ก คือ การทำให้สำนักงานขนาดใหญ่กว่า 430,000 ตารางฟุตสามารถเปิดโล่ง ซึ่งจะช่วยให้พนักงานทุกคนสามารถสื่อสาร และแลกเปลี่ยนไอเดียกับเพื่อนรอบข้างได้ตลอดเวลา เฟซบุ๊กเชื่อว่า การมีออฟฟิศที่เปิดโล่งนี่แหละ จะช่วยให้การทำงานมันเกิดความสร้างสรรค์ได้มากขึ้น
ไม่เพียงแค่โต๊ะทำงานซึ่งเปิดโล่ง หากแต่สถานที่การประชุมยังเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ ถ้ามันไม่รบกวนการทำงานของคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการใช้ห้องประชุมแบบที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็จะมีห้องมากมายให้ได้เลือกใช้ โดยความพิเศษของทุกห้อง คือจะมีกระจกที่เราสามารถมองให้เห็นคนข้างในได้ เรื่องนี้เฟซบุ๊กเคยให้ข้อมูลว่า ต้องการสื่อให้เห็นว่าองค์กรของพวกเขานั้น ‘โปร่งใส’ และสามารถตรวจสอบได้ว่าทำอะไรกันอยู่บ้าง
ขนม กาแฟ เครื่องดื่ม มีพร้อมรองรับตลอดทั้งวัน
ทั่วทั้งสำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊ก มีส่วนที่เรียกว่า ‘micro kitchen’ กระจายตัวอยู่ทุกชั้น ใกล้ไม้ใกล้มือให้พนักงานที่หิวๆ หรือต้องการเติมชีวิตด้วยกาแฟและขนมรองท้อง สามารถเดินมาหาแหล่งพลังงานชีวิตกันได้
สวัสดิการที่ว่านี้ เป็นหนึ่งในเรื่องพื้นฐานที่เฟซบุ๊กตั้งใจมีให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนั้น ยังช่วยให้พนักงานได้เดินไป บางทีการเจอเพื่อนต่างแผนกที่ห้องครัว ยังช่วยให้เกิดบทสนทนาใหม่ๆ ขึ้นได้อีกด้วยนะ
มีพื้นที่ให้พนักงานสร้างสรรค์งานศิลปะ
ถ้าคุณได้เดินเล่นในสำนักงานใหญ่เฟซบุ๊ก มันจะเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่จะได้เห็นโปสเตอร์สวยๆ แปะอยู่บนผนังหรือกำแพงต่างๆ เต็มไปหมด ผลงานเหล่านี้ถูกสร้างสรรค์โดยพนักงานนี่แหละ
เฟซบุ๊กเชื่อว่าถ้าให้พนักงานได้ใช้เวลากับศิลปะ มันก็จะช่วยให้พวกเขาได้ปล่อยความคิดสร้างสรรค์ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังสะท้อนถึงเรื่องเสรีภาพการแสดงความเห็นภายในบริษัทเช่นกัน
แก้ปัญหาลืมของ ด้วยตู้กดอุปกรณ์การประชุม
เคยไหม เวลาต้องออกไปประชุมงานข้างนอกทีไร ก็มักจะมีประสบการณ์ลืมที่ชาร์ตแบต หรือไม่ก็สาย USB ปัญหานี้จะหายไป ถ้าเราอยู่ในสำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊ก เพราะที่นี่มีตู้อัตโนมัติเป็นอุปกรณ์เสริมการประชุมคอยให้บริการเราอยู่
โรงอาหารหลากหลายสไตล์ เพิ่มโอกาสเจอเพื่อนใหม่ๆ
ในวันที่เราได้เดินทัวร์ เป็นวันที่โรงอาหารเสิร์ฟเมนูเป็นสไตล์สเปน นอกจากมีวิวสวยๆ ที่หน้าต่างหลักแล้ว อาหารที่นี่ยังมีให้เลือกอีกหลากหลาย เช่นพื้นที่ถัดไปจากโรงอาหารหลักไม่กี่เมตร ยังมีห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหาร อินเดีย และยังมีห้องอาหารอีกหลายแห่ง และมีวนเวียนอาหารที่สไตล์ต่างกันไป
ผู้นำทัวร์เล่าให้เราฟังว่า เฟซบุ๊กตั้งใจให้สำนักงานมีห้องอาหารค่อนข้างเยอะ นอกจากเพื่อกระจายคนไปตามจุดต่างๆ แล้ว ก็หวังให้พนักงานมีอิสระว่าวันนี้อยากกินอะไร ที่สำคัญสุดคือ การได้เดินไปโรงอาหารใหม่ๆ ก็ย่อมจะได้เจอพนักงานร่วมบริษัทคนใหม่ๆ ไปห้องอาหารอินเดียก็อาจได้เพื่ออินเดีย ไปห้องอาหารที่เสิร์ฟซูชิ ก็อาจจะได้เพื่อนใหม่เป็นชาวญี่ปุ่นก็ได้
บนดาดฟ้ามีสวนเชื่อมต่ออาคาร ยาวไกล 2 ไมล์
เคยรู้สึกไหมว่า เวลาทำงานหนักๆ เหนื่อยๆ สมองมักตัน ไอเดียหดหาย คิดอะไรไม่ออก สิ่งที่ทำได้คือออกไปเดินเล่นให้ความคิดมันชัดเจนยิ่งขึ้น
บนชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่เฟซบุ๊ก ถูกออกแบบพื้นที่ให้เป็นสวนขนาดความยาว 2 ไมล์ เชื่อต่ออาคารต่างๆ ได้จากข้างบน แถมยังไม่ใช่ดาดฟ้าโล่งๆ ธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้และพืชนานาชนิด มีที่นั่งกระจายอยู่บนดาดฟ้าหลายๆ จุด เผื่อว่าใครอยากมานั่งรับอากาศดีๆ ก่อนกลับไปทำงานกันต่อ หรือถ้าจะหยิบคอมพิวเตอร์ไปคุยงานกันบนดาดฟ้านี้ก็ยังได้เลย
เพดานที่ยังสร้างไม่เสร็จ สื่อถึงงานที่ทุกคนต้องสานต่อ
ระหว่างเดินภายอยู่ภายใน ผู้นำทัวร์ชวนเรามองขึ้นบนเพดาน เธอชี้ให้เราดูว่า เพดานข้างบนที่ดูเหมือนว่ายังสร้างไม่เสร็จนั้น จริงๆ ก็ยังสร้างไม่เสร็จนั่นแหละ (อ้าว) ซึ่งมันมีเหตุผลอยู่นะ
ที่มันถูกสร้างให้ไม่สมบูรณ ก็เพื่อสื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า มันก็เปรียบเปรยได้เหมือนภารกิจของเฟซบุ๊กต้องพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อผู้ใช้งานต่อไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็น incomplete mission ที่ต่อเนื่องไปในทุกวัน
ที่จอดรถร่วมกันระหว่าง Taxi UBER และ Lyft
ด้วยความที่สำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊กไม่ได้อยู่ในใจกลางเมืองหลัก ดังนั้นการเดินทางไปกลับที่นี่ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพารถสาธารณะประเภทต่างๆ (ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังใช้รถส่วนตัวกันอยู่บ้าง รวมไปถึงจักรยาน)
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เราสังเกตเห็น คือภาพที่หาได้ยากในบ้านเรา กับการที่เฟซบุ๊กเปิดพื้นที่จอดรถให้ใช้ร่วมกันระหว่าง UBER, Lyft กับ Taxi ซึ่งสะท้อนให้เราเห็นได้เหมือนกันว่า เฟซบุ๊กค่อนข้างให้ความสำคัญกับธุรกิจแนวใหม่นี้
แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการให้บริการรถแบบดั้งเดิมอย่าง Taxi