ไม่ว่าทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาคุณจะใช้เวลาหลบไปเลียแผลใจที่ไหนจนไม่ทันได้เปิดอินเทอร์เน็ต หรือเคลียร์งาน ด่วน โปรเจกต์ใหญ่ เตรียมพรีเซนต์ขายงาน และอีกสารพันอย่างจนไม่ได้สไลด์จอเช็คข่าวสารบ้านเมือง
While You Were Offline ยกมืออาสารวบตึงข่าวสำคัญตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่คุณ offline มาเล่าให้ฟังถึงที่ บอกได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดทุกเรื่องใหญ่ที่ใครๆ ก็พูดถึงกัน อ่าน While You Were Offline อันเดียว รู้เรื่องค่ะ!
ทั้งแชร์และสาธุรูปสารคดีช้างกราบพระ
แชร์กันไปกว่าสามหมื่นแชร์ เมื่อมีเฟซบุ๊กหนึ่งลงรูปช้างก้มกราบและใส่บาตรพระ พร้อมแคปชั่นประมาณว่า แม้กายจะเดรัจฉาน แต่ใจนั้นยังมีธรรมและคุณงามความดี บูชาในผู้ที่ควรบูชา..มงคลชีวิต.. หลังจากปล่อยให้คนพิมพ์ 99 สาทุบุนกันไปได้ไม่นาน ก็มีภาพอีกชุดหนึ่งจากอีกฝั่งออกมาบอกว่า ดูนี่ๆ จัดฉากป่าวอะ ออกมาเผยแพร่
นักข่าวจึงต่างพากันไปที่สำนักสงฆ์วัดป่าอาเจียงที่สุรินทร์ ก่อนจะพบว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นช้างที่สำนักสงฆ์ป่าอาเจียงเลี้ยงดูไว้และผ่านการฝึกฝน โดยภาพดังกล่าวก็ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 และเมษายน 2559 โดยช่างภาพสารคดีจ้า สาธุ
เวลคัมทูสังคมที่เอะอะก็กราบ ล่าสุดดราม่าบังคับแอร์ฯ กราบผู้โดยสาร
ร้อนแรงสุดในสัปดาห์กับกรณีแอร์เอเชียบังคับแอร์โฮสเตสสาวให้ก้มกราบเด็กพิเศษ คืองี้ เรื่องมีอยู่ว่า คุณแม่คนหนึ่งพาลูกสาวซึ่งเป็นเด็กออทิสติกเดินทางโดยเครื่องบิน แอร์ฯจึงเข้าไปสอบถามน้องตามแนวทางปฏิบัติหน้าที่ว่าเป็นอะไรหรือเปล่าและรายงานให้กัปตันทราบ แม่เด็กคิดว่าแอร์ฯใช้คำพูดไม่เหมาะสม จึงนำไปโพสต์เฟซบุ๊กและร้องเรียนไปยังผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของสายการบิน ในที่สุดเรื่องจบลงด้วยการให้แอร์ฯกราบขอโทษผู้โดยสาร
ดูเหมือนว่าเรื่องจะไม่จบลงไปอย่างเงียบๆ เมื่อมีคนตั้งกระทู้พันทิปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “มีใครพอรู้เรื่องที่แอร์โฮสเตสคนไทยโดนบังคับให้ก้มกราบเด็กพิเศษบ้างไหม?” ในที่สุดเพื่อนของแอร์ฯคนนั้นก็เข้ามาตอบว่า เป็นเรื่องจริงและตอนนี้เพื่อนตนมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมไม่ปกป้องพนักงานตัวเองล่ะ แอร์ฯก็คนนะ ล่าสุด โทนี่ เฟอร์นานเดส ผู้ก่อตั้งกลุ่มแอร์เอเชียเขียนตอบผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวไทยคนหนึ่งที่เข้าไปถามว่า เอ้อ รู้เรื่องแอร์กราบยัง โดยบอกว่าเขามากรุงเทพฯก็เพื่อจัดการปัญหานี้นี่แหละ พนักงานของผมมาเป็นอันดับแรกเสมอ และจะเดินทางไปพบและขอโทษกับครอบครัวของพนักงานด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกไป เพราะครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะพบตอนนี้…
เกาหลีเหนือออกกฎ ห้ามประชด คิม จอง อึน แม้แต่ในใจก็ไม่สามารถค่ะ
ตบท้ายด้วยข่าวแอบเสิร์ดสักนิดส์ เมื่อทางการเกาหลีเหนือออกกฎเตือนว่า นี่ๆ ห้ามประชาชนชื่นชมคิมจองอึนแบบประชดๆ ถึงจะเป็นในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ “จะไม่ยกโทษให้”
“เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจัดการประชุมเพื่อบอกกับคนในท้องที่ว่า ถ้าสมมติว่าใครมีความคิดเป็นกบฎถึงแม้จะอยู่ภายในใจก็ตาม (internal rebellious element) ก็จะถูกลงโทษ” เขายกตัวอย่างวลีเช่นว่า “นี่เป็นความผิดเมกาทั้งหมดเลย” ว่าเป็นข้อความประชดประชัน ห้ามใช้! เพราะว่าถึงแม้ว่าฟังเผินๆ แล้วจะเหมือนด่าอเมริกา แต่ถ้าพูดแบบประชดแล้วก็แปลว่ากำลังวิพากษ์วิจารณ์คิมจองอึนอยู่
อีกวลีหนึ่งที่ห้ามพูดคือ “กบในกะลา” (A fool who cannot see the outside world) เพราะประโยคนี้ถูกพูดกันมากหลังจากที่ตระกูลคิมไม่ได้ไปร่วม memorial service ในการจบสงครามโลกครั้งที่สองในจีนและรัสเซีย…โหดจุง (ไม่ได้ประชดนะ)