“ใส่ดำทั้งตัว จะไปงานศพใครเหรอ?”
“งึยยย น่าจะงานศพคนถามนี่แหละงับ (ใช้งับให้ดูซอฟต์ใส)”
ในชีวิตประจำวัน เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยโดนประณามการแต่งตัวกันมาบ้าง ถูกบอกว่าแต่งแบบนั้นเหมือนสิ่งนี้ แต่งแบบนี้เหมือนสิ่งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าบ้านเมืองเรายังไม่เปิดกว้างด้านแฟชั่นสักเท่าไหร่ และยังไม่เคารพความชอบส่วนบุคคลขอบผู้อื่นมากนัก โดยเฉพาะที่เห็นบ่อยๆ นั่นก็คือแฟชั่น all black หรือการแต่งตัวโดยใส่สีดำทั้งชุด ซึ่งแฟชั่นนี้มักจะถูกคนสะกิดถามบ่อยๆ ว่าจะแต่งไปงานศพหรอ? มึใครตายหรือเปล่า?
วันนี้เราจึงมาขอทวงความยุติธรรมให้กับการแต่งตัวแบบ all black ด้วยเหตุผล 5 ประการ ที่ทำให้สีดำที่ไม่ควรจะถูกผูกขาดกับงานศพหรือความโศกเศร้าเท่านั้น เพราะมันมีข้อดีมากกว่าที่หลายคนตัดสิน
เป็นสีที่ปลอดภัย ใส่ได้ทั้งวันธรรมดาและวันทางการ
จากผลสำรวจของ buytshirtonline บริษัทจำหน่ายเสื้อผ้าออนไลน์ พบว่า ผู้ทำแบบสำรวจส่วนใหญ่ชอบที่จะใส่สีดำในโอกาสทางการ เช่น สัมภาษณ์งาน นัดพูดคุยธุรกิจ และออกเดต เพราะเป็นสีที่สุภาพและปลอดภัยที่สุด ในขณะที่ชีวิตประจำวัน สีดำเป็นสีที่ชิคและไร้กาลเวลา ไม่หลุดไปตามกระแส มันจึงสามารถแต่งได้ในทุกยุคและทุกวัย ไม่ต้องห่วงว่าจะเชยหรือตกเทรนด์หรือเปล่า
ช่วยอำพรางสัดส่วนบนร่างกายที่เราไม่มั่นใจ
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีบางจุดในร่างกายที่รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเวลาแต่งตัว เช่น ต้นขา แขน พุง หรือบั้นท้าย ซึ่งการแต่งตัวโทนสีอ่อนอย่างสีขาวหรือสีครีม ถือเป็นการทำให้จุดนั้นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อใส่สีดำซึ่งเป็นสีที่เข้มที่สุด มันจึงช่วยบดบังและอำพรางจุดนั้นให้เล็กลงหรือโดดเด่นน้อยลงได้ ทำให้สีดำมักจะถูกนำมาใช้ในการโกงความสูงหรือโกงหุ่นบ่อยๆ และทำให้ผู้ใส่กังวลกับจุดด้อยของตัวเองน้อยลง
เข้ากันได้กับสีอื่นๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
สำหรับคนที่อาจไม่เก่งในการจับคู่สีการแต่งตัวเลย สีดำถือเป็นสีที่เป็นมิตรกับพวกเขามากที่สุด สมมติถ้าเราแต่งตัวด้วยสีม่วง สีน้ำเงิน สีเหลืองเป็นอัตราส่วนที่มากที่สุด เราอาจจะมีความกังวลว่า เอ…เครื่องประดับสีนี้จะเข้ามั้ยนะ แล้วสะพายกระเป๋าสีนี้จะเวิร์กหรือเปล่า แต่เมื่อบนตัวเราเป็นสีดำเสียส่วนใหญ่ เราแทบจะไม่ต้องคิดอะไรให้มากเลย เพราะสีดำวางคู่กับสีไหนก็เข้ากันหมด
สีดำไม่ได้หดหู่ แต่ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูมีพลัง
แม้สีดำจะดูเหมือนเป็นสีที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก แต่จากการศึกษาจิตวิทยาของสี สีดำสามารถบ่งบอกถึงความทรงพลัง ความน่าเชื่อถือ ความทะเยอทะยาน และความจริงจัง ซึ่งสีดำจะช่วยสร้างความประทับใจแรกในโอกาสสำคัญ อย่างเดตแรกหรือการสัมภาษณ์งานได้ และนอกจากนี้ในผลการสำรวจ สีดำยังถูกเชื่อมโยงให้เข้ากับลักษณะเชิงบวกบางอย่างในตัวผู้แต่ง ได้แก่ ความน่าดึงดูด ความอ่อนไหว ความมั่นใจ และความฉลาด
สีดำน่ะเซ็กซี่จะตายไป
แม้จะแสดงออกถึงความมีพลัง แต่สีดำยังถูกติดตั้งบุคลิกว่าเป็นสีที่ดูลึกลับและอ่อนไหวกว่าที่คิด ทำให้ผู้คนที่แต่งสีดำทั้งตัว ดูเหมือนจะกำลังปกปิดความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ไม่ให้เผยออกมา ซึ่งความน่าค้นหานี้นี่แหละก็คือความเซ็กซี่อย่างหนึ่งล่ะ
ผลสำรวจยังเผยอีกว่า ผู้คนมากกว่า 56% ชอบสีดำเพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจ โดยผู้ชาย 64% ชอบใส่เสื้อผ้าสีดำ ในขณะที่ผู้หญิงมีประมาณ 48% และมีผู้คนอีกจำนวนหลายล้านคน ที่ติดแฮชแท็ก #allblackeverything ในโพสต์ของพวกเขา ฉะนั้น ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ถ้าสีดำทำให้เราสบายใจกับการแต่งตัวมากขึ้น ก็ใส่ไปเถอะนะ
แต่นอกจากแฟชั่นชุดดำแล้ว ที่จริงยังมีแฟชั่นอื่นๆ ที่ถูกเชมมิ่งอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เสื้อลายสก็อตที่ถูกล้อเลียนว่าเหมือนคนตัดอ้อย เสื้อผ้าสีส้มที่ถูกล้อเลียนว่าเหมือนพระ หรือการแต่งตัวหลายเลเยอร์ก็ถูกมองว่าโอเวอร์เกินไป ทำตัวเหมือนอยู่ต่างประเทศ ทำให้หลายคนอึดอัดและไม่มั่นใจที่จะแต่งตัวในแบบที่ตัวเองต้องการ
ซึ่งถ้าหากเราหยุด Fashion Shaming กันได้และเคารพการแต่งตัวของผู้อื่นให้มากขึ้น คาดว่าประเทศไทยเราอาจจะมี Bangkok Fashion Week ตามท้องถนน ให้ผู้คนได้ออกมาแสดงความสร้างสรรค์ผ่านการแต่งกาย เหมือนที่กรุงโซลหรือโตเกียวก็ได้นะ แล้วเราจะได้เห็นว่าการแต่งตัวที่นอกเหนือจากที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวันนั้น มีฟังก์ชั่นในการสะท้อนเอกลักษณ์และตัวตนที่แตกต่างของแต่ละคนได้มากแค่ไหน
อ้างอิงข้อมูลจาก