ช่วงนี้เราอาจจะได้เห็นคำว่า Y2K กันมากขึ้นและสงสัยว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังแฟชั่น Y2K กำลังกลับมาอีกครั้งอย่างเต็มตัว และการกลับมาครั้งนี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ถ้าลองสังเกตให้ดี จะรู้สึกว่าเทรนด์การแต่งตัวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รู้ตัวอีกที กางเกงคาร์โก้เอวสูงก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยยีนส์ขาม้าเอวต่ำ เสื้อโอเวอร์ไซส์กลับกลายเป็นเสื้อเบบี้ทีตัวเล็กจิ๋ว หรือเราจะเริ่มเจอเครื่องประดับรูปผีเสื้อวางขายในทุกร้านที่เข้าไปดู รองเท้าผ้าใบมินิมอลเปลี่ยนไปกลายเป็นรองเท้าบูทหรือรองเท้าผ้าใบทรงใหญ่โตอลังการแล้ว
รู้จักกับ Y2K แฟชั่นของป๊อบสตาร์
‘Y2K’ เป็นชื่อที่ใช้เรียกยุคที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากศตวรรษที่ 19 สู่ศตวรรษที่ 20 ตามคำบอกเล่าของรุ่นพี่ที่กำลังเป็นวัยรุ่นในยุคนั้นพอดี ประกอบกับข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ ก็ได้ความว่า ปลายยุค 90 เป็นช่วงเวลาเฟื่องฟูของอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยี เมื่อเข้าสู่ปี ค.ศ.1999 แล้ว ก็เกิดเป็นกระแสสังคมที่มีชื่อเล่นว่า ‘Y2K bug’ ด้วยความสงสัยของผู้คนว่าโลกนี้จะก้าวเข้าสู่ปี ค.ศ.2000 ได้จริงไหม ระบบนั่นนี่จะประมวลผลจาก ค.ศ.1999 ไปสู่ ค.ศ.2000 ได้อย่างไร
คำว่า Y2K เลยถูกนำมาใช้เรียกสไตล์การแต่งตัวที่แพร่หลายในช่วงปลายยุค 90 และต้นยุค 00 ที่หยิบเอาความเป็นป๊อบคัลเจอร์ และความเป็นโลกอนาคตมาผสมปนเปกัน ถ้ายังนึกไม่ออก ลองนึกถึงหนังเรื่อง Coyote Ugly (2000), Legally Blonde (2001), Mean Girls (2004) หรือดาราดังในช่วงนั้นอย่าง Paris Hilton, Britney Spears, หรือ Christina Aguilera
ส่วนประกอบสำคัญของสไตล์ Y2K จึงเป็นอะไรก็ตามที่มีความแวววาว สีเมทัลลิก รองเท้าทรงใหญ่ แว่นกันแดดเลนส์สีสัน ที่บ่งบอกความเป็นโลกอนาคต ผสมเข้ากับ กระโปรงจีบรอบ กระเป๋าทรงบาแกตต์ เสื้อเบบี้ทีตัวจิ๋ว เสื้อผูกด้านหน้า ยีนส์ขาม้าเอวต่ำ ชุดวอร์มผ้ากำมะหยี่สีชมพู และสายชั้นในที่โผล่พ้นขอบกางเกง ซึ่งเป็นอิทธิพลมาจากทั้งดารา นักแสดง นางแบบ และป๊อบสตาร์ในยุคนั้น
สำหรับคนที่เคยได้ใช้เวลาช่วงวัยรุ่นอยู่ในยุค Y2K ก็อาจจะบอกว่าตอนนั้นไม่เห็นจะได้แต่งแบบนี้เลย นึกย้อนไปก็นึกออกแค่อายแชโดว์สีฟ้า การเขียนคิ้วบางเฉียบเหมือนเส้นหมี่ ทรงผมที่ย้อนกลับไปดูรูปแล้วเขินไม่รู้จะเขินยังไง กับเสื้อผ้าที่ดูไม่มีอะไรเข้ากันเลย
ใช่แล้ว การกลับมาของการแต่งตัวสไตล์ Y2K ครั้งนี้เป็นการหยิบเอาสไตล์ของป๊อบสตาร์มาคิดใหม่ทำใหม่เล็กน้อยให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งเราจะเห็นว่าส่วนประกอบที่เด่นที่สุดของการกลับมาในครั้งนี้คือกางเกงเอวต่ำ เบบี้ที มินิสเกิร์ต สายกางเกงชั้นใน และเครื่องประดับรูปผีเสื้อ
การกลับมาของ Y2K นั้นเริ่มจากการแต่งตัวของ Dua Lipa ศิลปินที่เป็นดั่งผู้นำแฟชั่นของวัยรุ่น หรือ Bella Hadid นางแบบที่จุดประกายเทรนด์ใหม่อยู่เสมอ รวมไปถึงดาราดังอีกหลายคน เริ่มจากเทรนด์กางเกงเอวต่ำ ที่มาพร้อมกับการดึงสายชั้นในให้ขึ้นโชว์บริเวณเอวสูง หรือเสื้อเบบี้ทีที่เป็นเสื้อครอปตัวเล็กจิ๋วรัดรูปที่ปรากฏบ่อยมากในซีรีส์ Euphoria (2019) จนหลายคนอยากตามหามาใส่ แม้แต่ศิลปินทางเอเชียเองก็เช่นกัน Jennie เองก็เป็นผู้ปลุกกระแสเสื้อคาร์ดิแกนแบบผูกหน้าและกางเกงเอวต่ำให้กลับมาอีกครั้ง
แต่ Y2K ก็เป็นแฟชั่นที่น่าตั้งคำถาม
ทั้งกางเกงเอวต่ำ สายชุดชั้นใน และเสื้อผ้ารัดรูปที่เป็นจุดเด่นของการแต่งตัวสไตล์ Y2K นั้นก็เกิดเป็นคำถามในสังคมขึ้นว่า หรือเสื้อผ้าเหล่านี้จะจำกัดอยู่แค่เด็กวัยรุ่นที่มีหุ่นผอมบางเท่านั้น เมื่อมองให้ดี ก็พบว่าป๊อบสตาร์ในอดีตล้วนมีร่างกายผอมเพรียว และหญิงสาวในยุคนั้นล้วนยกให้ร่างกายผอมเพรียวเป็นร่างกายในฝัน แถมแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ Y2K มักใช้นางแบบเป็นเด็กสาวอายุ 13-16 ปีเท่านั้น ซึ่งร่างกายของพวกเธอยังไม่ได้เติบโตเต็มที่ แต่กลุ่มลูกค้าที่แบรนด์ต้องการจะขายนั้นกลับเป็นหญิงสาวที่ร่างกายเติบโตเต็มที่แล้ว และใครก็ตามที่ไม่ได้เอวบางร่างน้อยก็จะถูกกีดกันออกจากการแต่งตัวสไตล์ Y2K
Jessica Blair ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นได้ออกมากพูดถึงอดีตอันเลวร้ายของแฟชั่นในยุค Y2K เอาไว้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ใส่เสื้อผ้าใหญ่กว่าไซส์ 2 (เทียบเท่าไซส์ S ของบ้านเรา) จะถูกกีดกันออกจากแฟชั่นแบบนี้ในทันที ไม่มีใครทำเสื้อผ้าสไตล์ Y2K แบบพลัสไซส์ในยุคนั้น และถึงจะทำก็ทำออกมาเป็นเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยสวยโดดเด่นมากนัก โดยเฉพาะกับยีนส์เอวต่ำที่ทุกคนในยุคนั้นมองว่าต้องเป็นคนผอมเท่านั้นถึงจะใส่แล้วสวย ถ้าเป็นคนอ้วนใส่แล้วก็จะถูกมองแบบขยาดเลย
นอกจากนี้ นิตยสารสำหรับวัยรุ่นก็มักจะพูดถึงหุ่นผอมเพรียวสไตล์ป๊อบสตาร์ ถ้ามองย้อนกลับไป ใครที่เป็นวัยรุ่นทันนิตยสารเหล่านั้นน่าจะจำได้ว่าคอลัมน์เกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อใส่กางเกงเอวต่ำให้สวยนั้นมีมากเพียงใด คอลัมน์เหล่านั้นแนะนำวิธีการกินอาหาร และออกกำลังกายที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะผ่านนักโภชนาการหรือเทรนเนอร์มา ทำให้โรคคลั่งผอมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในหมู่เด็กสาววัยรุ่นในยุคนั้น
การกลับมาครั้งนี้ มีอะไรที่เปลี่ยนไป
ถึงแม้จะมีเรื่องของการกีดกันและทัศนคติของแบรนด์ที่ไม่ดีในอดีต แต่ปัจจุบันเมื่อเด็กวัยรุ่นเริ่มปลุกกระแสแฟชั่นนี้ขึ้นมา พวกเขาไม่ได้แค่ทำให้สไตล์การแต่งตัวเมื่อ 20 ปีที่แล้วมีสีสันขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความที่พวกเขาโตมากับการเคลื่อนไหวทางสังคมและการสนับสนุนให้ผู้คนรักร่างกายตัวเอง ก็ได้ทำให้เรื่องไม่ดีของเมื่อ 20 ปีที่แล้วจางหายไปด้วย
แบรนด์เสื้อผ้าในยุค Y2K ที่เคยผลิตออกมาแค่ไซส์สำหรับคนรูปร่างผอมเท่านั้นก็หันมาผลิตไซส์ที่หลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมร่างกายทุกแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะมีร่างกายแบบไหน ทุกคนก็สามารถสนุกไปกับการแต่งตัวสไตล์ Y2K ได้โดยไม่มีสื่อที่คอยกรอกหูว่าจะต้องผอมเพรียวบางเท่านั้นถึงจะแต่งออกมาได้สวย
นอกจากในเรื่องของทัศนคติที่มีต่อรูปร่างแล้ว พวกเขายังตระหนักถึงความยั่งยืน ทำให้เกิดกระแสการ ‘ขุดตู้เสื้อผ้า’ และ ‘คุ้ยของมือสอง’ ขึ้นมา ยังมีรายงานอีกว่าคำว่า Y2K ถูกค้นหาผ่านเว็บไซต์ส่งต่อของมือสองอย่าง Depop ในสหรัฐฯ บ่อยมากขึ้น และผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 1 ใน 3 เป็นผู้อยู่ในช่วงอายุ 16-24 ปี การขุดตู้เสื้อผ้าและการคุ้ยของมือสองทำให้ได้ใส่เสื้อผ้าจากยุค Y2K โดยแท้จริง ที่ไม่ใช่การผลิตขึ้นใหม่
เพราะสไตล์การแต่งตัวนี้ย้อนกลับไปแค่เพียง 20 ปีเท่านั้นเอง บางทีตู้เสื้อผ้าหลังเก่าอาจมีเสื้อสมัยเด็กที่สามารถนำมาใส่เป็นเบบี้ทีได้ในตอนนี้ กางเกงยีนเอวต่ำที่ถูกพับเก็บไว้ในซอกใดซอกหนึ่งของบ้านอย่างไม่ไยดีก็ถูกนำกลับมาใส่ได้อีกครั้งโดยไม่ต้องหาซื้อใหม่ กระเป๋าทรงบาแกตต์ที่เคยเป็นของแม่มาก่อนก็กลับมาสร้างเสียงกรี๊ดในหมู่เพื่อนได้ว่าไปหามาจากไหน
รักร่างกายของตัวเอง แต่งตัวให้สนุก ไม่มีอะไรจะหยุดเราได้ ถ้าเราอยากจะแต่งตัว ก็แต่งเลย
อ้างอิงข้อมูลจาก
Illustration by Kodchakorn Thammachart