เชื่อว่าคนไม่น้อยนิยมการซื้อกับข้าวนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการไปนั่งกินที่ร้านหรือซื้อกลับมากินที่บ้าน ก็ล้วนแต่นับเป็นการซื้อข้าวกลับมากินที่บ้านทั้งนั้น
เราเข้าใจดีและไม่ว่ากันหรอก เพราะเราก็ซื้อกับข้าวจากเจ้าที่วางใจในรสมือได้กลับมากินที่บ้านบ่อยๆเหมือนกัน แต่ต่อมาความช่างสงสัยปนรักโลกของคุณพิม—จันทร์จิรา เหลารัตนา ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์ Hako เริ่มกระทำการ “เอ๊ะ” ขึ้น เมื่อเธอได้มองไปที่ถุงพลาสติกและกล่องโฟมที่ใส่กับข้าว พลางคิดว่า
“ไอ้ที่ใส่กับข้าวมามันก็พลาสติกนี่ ถ้าเราจะลดพลาสติกลงสักชิ้นเพื่อโลกใบนี้ได้มันก็น่าจะดีนะ”
นั่นแหละจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Hako แบรนด์ที่นิยามตัวเองว่าเป็นแบรนด์เครื่องครัวรักษ์โลกหรือ Eco-friendly kitchenware
ด้วยพื้นฐานกิจการครอบครัวของคุณพิมที่ทำธุรกิจแม่พิมพ์ชึ้นรูปพลาสติกและซิลิโคนเป็นทุนเดิม คุณพิมจึงเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ว่า หากธุรกิจการขึ้นพิมพ์รูปซิลิโคนต่างๆ เหล่านี้ เธอสามารถนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจพิมพ์ซิลิโคนเครื่องครัวรักษ์โลก เพื่อการลดใช้พลาสติกและลดขยะก็น่าจะเข้าที
ว่าแล้วเธอจึงเริ่มลงมือคิดไอเดีย วางคอนเซ็ปต์และทำแบรนด์ Hako ขึ้นมา ด้วยความหวังเล็กๆ ว่า หากเราสามารถลดการใช้ขยะพลาสติกกับเรื่องใกล้ๆ ตัวได้ เช่น เรื่องการถุงพลาสติกในการใส่อาหารกลับบ้านจากการซื้อกับข้าว หรือการห่อกับข้าวกลับจากร้านอาหาร เมื่อเราทานไม่หมด เพียงเท่านี้ขยะพลาสติกก็ลดลงไปนิดหนึ่งได้แล้ว
จริงอยู่ที่ว่า การลดพลาสติกจากการห่อกับข้าวกลับบ้านมันช่างเล็กน้อยเสียจริง แต่สิ่งย่ิงใหญ่มหาศาลล้วนแล้วแต่เกิดจากส่วนเล็กส่วนน้อยมาร้อยเรียงต่อกันมิใช่หรือ
ถัดจากกล่องข้าวสีสันน่ารักที่ลดการใช้พลาสติกที่ได้รับเสียงตอบรับที่อบอุ่นจากลูกค้า คุณพิมเริ่มทำสินค้าชิ้นต่อไปที่เกี่ยวกับเรื่องของใช้เครื่องครัว เช่น ถาดน้ำแข็งและฝาปิด ที่ลวดลายและสีสันก็ยังคงความน่ารัก น่าใช้อยู่เหมือนเดิม
เราถามคุณพิมว่า สิ่งที่คุณพิมได้รับจากการทำธุรกิจนี้คืออะไร ด้วยใจที่คาดหวังว่าคุณพิมคงตอบอะไรสักอย่างที่ทำให้เรารู้สึกอมยิ้มในความคิดที่จะช่วยกันรักโลก แต่คุณพิมกลับตอบบางอย่างที่เพิ่มเติมจากความรักโลกนั้น ซึ่งทำให้เราอมยิ้มได้เช่นกัน แต่มันค่อนข้างเหนือความคาดหมาย
“พิมคงเป็นคนไม่ค่อยได้มีสังคมมากเท่าไหร่ก่อนหน้านี้ แต่พอมาทำแบรนด์นี้ เหมือนเราได้มีสายสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น ลูกค้าซื้อกล่องข้าวพิมไป แล้วเขาถ่ายรูปกลับมาให้พิมดูว่าเขาเอากล่องข้าวเราไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ เขาเอาไปใส่ข้าวกินจริงๆ ตอนกลางวัน พิมเห็นแล้วพิมดีใจนะ เหมือนเราได้มีสายสัมพันธ์กับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ เรา ผ่านกล่องข้าว ผ่านของใช้ในครัวพวกนี้”
แค่ได้กินข้าวอร่อยๆ ก็มีความสุขแล้ว แต่ถ้าได้รู้ว่าตัวเองได้กินของอร่อยด้วยพร้อมไปกับการได้ช่วยโลกลดขยะแบบอ้อมๆ ด้วย แถมยังมีเพื่อนๆ ที่คิดเหมือนกับเราอีกมากมายหลายคนเพราะเขาก็แพคข้าวมากินในกล่องข้าวที่สามารถล้างแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ เราคงจะมีความสุขในทุกมื้ออาหารที่เราได้กิน (และได้ลดขยะพลาสติกไปพร้อมๆกันเลยนะ) คุณว่าไหม?