สวัสดีครับ หลังจากเขียนคอลัมน์ เจแปนนิดมาได้สองสามเดือน ผมก็เริ่มหมดไอเดียแล้ว และต่อไปนี้ ก็ได้คุยกับทางทีมงานแล้วว่า จะเปลี่ยนแนวทางการเขียนคอลัมน์ หันมาทำในสิ่งที่ชอบอย่างจริงจังดีกว่า นั่นก็คือการรีวิวหนังเอวีทั้งหลาย จากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคับ ประสบการณ์ผมอาจจะยังไม่มากนัก แต่ก็จะพยายามเต็มที่ เตรียมเปิดวาร์ปกันได้ครับ
ครับ ใครเชื่อย่อหน้าที่แล้ว ก็ถือว่ารู้จักตัวตนของผมจริงๆ เอ๊ย ไม่ใช่สิ ก็ถือว่าโดนหลอกในวันเอพริลฟูลแล้ว เรื่องธรรมเนียมวันเอพริลฟูล ที่มักจะมีโจ๊กมาล้อกันเล่นในวันนี้ เอาจริงๆ ก็มีที่มาหลากหลาย รอให้นักเขียนผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์มาเขียน คงจะได้สาระกว่ารอผมสรุป
ส่วนในญี่ปุ่นเอง สมัยผมเรียน วันเอพริลฟูลส่วนใหญ่ก็จะมีมุกตลกล้อกันเล่นในระหว่างเพื่อนๆ กันซะมากกว่า แบบซูเนโอะแกล้งโนบิตะ ไม่ได้มีอะไรใหญ่โตมากนัก ไม่เหมือนกับทางตะวันตก ที่บางทีจริงจังกันขนาดทำสารคดีออกรายการทีวีจนคนเชื่อเลยทีเดียว (ลองดูเรื่อง Flying Penguins ที่ BBC ทำมาหลอกคนสิครับ)
แต่ว่า อะไรต่อมิอะไรก็เปลี่ยนไปเมื่อมีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้น ช่วงหลังๆ นี่แต่ละปีก็มีทั้งบริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่น ทั้งดารานักร้องทั้งหลาย พยายามหามุกวันเอพริลฟูลมาเล่นสนุกกันผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งที่เห็นฮิตที่สุดก็คงเป็นทวิตเตอร์ มีทั้งสร้างสรรค์เรียกเสียงฮา และบางทีก็เล่นเอาคนแตกตื่นกันจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ก็ลองมาดูกันว่า มีอะไรน่าสน ชวนขันกับไอเดียความสร้างสรรค์บ้าง
น้ำดื่มกลิ่นวาซาบิ
น้ำดื่มกลิ่นวาซาบิ จาก ILOHAS น้ำดื่มจากเครือโคคาโคล่า เจ้าดังที่คนไทยหลายคนที่ไปญี่ปุ่นคงเคยได้ลิ้มลองสูตรที่ผสมกลิ่นของผลไม้เข้าไป มีตั้งแต่ส้ม แอปเปิ้ล หรือลูกพีช แล้วแต่ฤดูกาล ซึ่งก็เป็นสินค้าขายดีเพราะให้ความสดชื่น แต่ใครจะคิดว่าจะออกสินค้าใหม่เป็นน้ำดื่มเจือกลิ่นวาซาบิออกมา ถึงจะเป็นเอพริลฟูล แต่เอาจริงๆ ผมก็อยากลองนะครับ
เครื่องอ่านมังงะดัดขนแขน
โคดันฉะ สำนักพิมพ์ดังเจ้าของผลงานมังงะที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง “คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา” ก็ออกสินค้าใหม่ในปี 2014 ตามเทรนก์ Wearable Gadget นั่นคือ Kebo เครื่องอ่านมังงะแบบคาดแขน แล้วจะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดัดขนเราให้เป็นภาพมังงะตามที่บันทึกไว้ น้ำหนักเบาแค่เท่ากับทาโกะยากิลูกเดียวเอง ประหยัดพลังงานดีครับ แถมสะดวกด้วย เห็นว่ารุ่นถัดไปจะเป็นแบบคาดคอ เอาเข้าไปสิ
http://japanese.engadget.com/2014/03/31/au-10-790/
สมาร์ตโฟนประกอบเอง
อันนี้เป็นการร่วมงานกันระหว่าง au ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เจ้าใหญ่ กับ DeAgostini บริษัทที่ชอบขายของแบบ ขายชิ้นส่วนทีละชิ้น มาพร้อมกับนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น พอซื้อครบเซ็ตก็จะประกอบสิ่งนั้นได้สมบูรณ์ ที่ผ่านมาก็มีหลายอย่างตั้งแต่รถจำลอง หุ่นอัจฉริยะ Robi ไปจนถึง Millennium Falcon ขอพี่ฮัน โซโล ซึ่งข้อเสียคือ ต้องรอนิตยสารออกมาแล้วค่อยได้ทีละชิ้นไป ซึ่งพอมาร่วมงานกับ au ก็สร้างความพีคระดับ World Class นั่นคือ สมาร์ตโฟนที่ประกอบด้วยตัวเองได้ แค่รอสะสมชิ้นส่วนไปเรื่อยๆ 10 ปี ก็ได้สมาร์ตโฟนไว้ใช้ ทันใจชาวบ้านเขาแล้ว โวะ
ยานบิน USO
ถ้าร่วมฮากันแค่สองบริษัทนี่ยังไม่หนำใจ ก็เอาสามไปเลย งานนี้เข้าใจแท๊กทีมกันครับ NISSAN ผู้ผลิตรถยนต์ ร่วมกับ NISSIN หรือ นิชชิน ที่เราคุ้นเลย ร่วมกันพัฒนายานบินชนิดใหม่ แล้วไปปรากฏตัวที่บริษัท NISSEN บริษัทขายของออนไลน์เจ้าใหญ่ มากันสามเจ้าที่ชื่อคล้ายๆ กันเลย (ดีไม่มีบริษัทชื่อ NISSUN กับ NISSON อีก) ที่ชอบมากคือ ตรงชื่อของยานบิน ใช้ชื่อว่า USO ล้อเลียน UFO ชื่อยากิโซบะสำเร็จรูปชื่อดังของบริษัท NISSIN เอง แต่ประเด็นคือ USO อ่านว่า อุโซะ แปลว่า เรื่องโกหกนั่นเอง
นอกจากนี้ก็มีแบบเอาฮาแบบ KENKO ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นมายองเนสสีรุ้ง SUBWAY ญี่ปุ่น ออกข้าวหน้าซับเวย์มาแทนแซนด์วิช และ MOS Burger ก็ออกแมมมอสเบอเกอร์มาขาย เป็นกิมมิคเอาฮาสร้างเสียงหัวเราะและยังได้ PR ของบริษัทต่างๆ อีกด้วย แต่บางทีมุกโกหกเหล่านี้ก็นำไปสู่สินค้าใหม่ๆ ได้จริง ไม่ต้องมองไปไหนไกลครับ เกม Pokemon Go ที่พวกเรา (เคย) ติดกันงอมแงมนี่ก็มาจากไอเดียในวันเอพริลฟูล โดย Google Japan เล่นมุกว่าได้เพิ่มฟังชั่นจับโปเกมอนลงในแอพ Google Maps พอคนฮือฮามากๆ พวกเขาก็มองเห็นเป็นโอกาสเปิดตลาดใหม่อย่างจริงจัง เลยได้พัฒนาจนกลายมาเป็นเกมจริงๆ นี่ล่ะครับ
ส่วนของบริษัทที่ผมชอบมากสุดในปีก่อนก็คือ เจ้า Gudetama ไข่ขี้เกียจ ออกมาบอกว่าจะออกจากบริษัท Sanrio นี่ล่ะครับ เอ้อ ขี้เกียจดีจริงๆ
ส่วนของคนดังในญี่ปุ่น ก็มีเล่นมุกกันหลากหลายนะครับ แต่ความเสี่ยงอย่างหนึ่งคือ ถ้าเล่นมุกแรงเกินไป หรือมีความเป็นไปได้สูงมากไปก็เกิดดราม่าได้ง่ายเช่นกัน เช่น Kago Ai อดีตวง Morning Musume ออกมาบอกว่าจะเลิกเล่นทวิตเตอร์ แฟนคลับก็คลั่งสิครับ หรือบางคนก็เล่นมุกว่ามีแฟนแล้ว แต่งงานแล้ว จริงๆ มีลูกแล้วแต่ซ่อนไว้ แบบนี้ใครเห็นทีแรกก็คงตกใจก่อนล่ะครับ บางคนก็เล่นมุกว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ กลายเป็นข่าวทีวีไปแทนซะงั้น ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับเซนส์ของคนด้วย อย่างที่ผมว่าเล่นพอน่ารักก็เช่น Shinoda Mariko อดีตวง AKB48 ที่ออกมาประกาศว่า มีลูกอายุ 8 ขวบ กับ 1 ขวบ ขอโทษที่ปิดไว้นะคะ แล้วก็อัพรูปตัวเองกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ หรืออย่าง Darenogare Akemi ดาราสาวลูกครึ่ง ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ฮาล์ฟ ก็ประกาศว่า จริงๆ แล้ว ฉันเป็นนิวฮาล์ฟ หรือกระเทยที่แปลงเพศแล้ว นะจ๊ะ อันนี้ใครก็คงแยกออกล่ะครับ