สำหรับบ้านเราแล้ว การที่สาวๆ วัยทำงานไปปาร์ตี้ดื่มเที่ยวกันเองอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ อย่างตัวผมเองก็อาจจะชินกว่าคนอื่นเขา เพราะเรียนมาในคณะที่ 80% เป็นผู้หญิง แต่ในสังคมที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรเพศชายก็เป็นใหญ่กว่าอย่างญี่ปุ่น การที่หญิงสาววัยทำงานจะไปกินเลี้ยงกันเองโดยไม่มีผู้ชายไปด้วยนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลก และอาจจะดูไม่เหมาะสมนัก แต่เมื่อสังคมเปลี่ยนไป ในที่สุดก็มีปาร์ตี้ของสาวๆ ล้วนๆ เกิดขึ้นเสียที และกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของสังคมญี่ปุ่นที่กลายมาเป็นตลาดใหม่จนชื่อเรียกปาร์ตี้หญิงล้วนในภาษาญี่ปุ่นว่า โจะชิไค กลายเป็นคำยอดนิยมของญี่ปุ่น
ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่า คำว่า ‘โจะชิไค (Joshikai)’ มีความหมายว่าอย่างไรนะครับ คำนี้เป็นการประกอบของคันจิสามตัวคือ 女子会 โดยสองตัวแรก 女子 คือการผสมคันจิของ ผู้หญิง และ เด็ก เข้าด้วยกัน ก็หมายความว่า เด็กสาว นั่นเอง ส่วนคำว่า 会 ก็หมายถึง การพบกันหรือการสังสรรค์สมาคม ซึ่งรวมกันก็คือ การสังสรรค์สมาคมของเด็กสาวนั่นเอง หลายครั้งก็ได้ยินชาวท่าแซะ แซะว่า ชื่อ ‘เด็กสาว’ แต่ส่วนใหญ่ ที่มานั่งดื่มสังสรรค์กันน่ะก็เกินวัยไปแล้ว
แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ
“ผู้หญิงน่ะ อายุเท่าไหร่ก็ยังเป็นเด็กสาวย่ะ”
แล้วทำไมเจ้าโจะชิไค นี่ถึงได้กลายเป็นเรื่องฮิตของสังคมญี่ปุ่นไปได้น่ะเหรอครับ ก็คงอย่างที่บอกไปว่า สภาพสังคมเปลี่ยนไป แต่เดิมสำหรับผู้หญิงแล้ว การไปกินดื่มนั้นก็หมายถึงการไปกินดื่มกันในบริษัท ไปกันในแผนกของตัวเอง ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องมีทั้งนายมีทั้งเพื่อนร่วมงานไปกัน และตามสภาพสังคมการทำงานของญี่ปุ่นแล้วเพศชายก็เป็นใหญ่ในที่ทำงานโดยมาก พอไปกินเลี้ยงกันแบบนี้ แทนที่จะได้รีแลกซ์ให้สบายใจ กลายเป็นว่าหญิงสาวทั้งหลายต้องคอยทำหน้าที่เอนเตอร์เทนนายและพนักงานชายทั้งหลายแทน แถมยังมีความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งทางวาจา (เอาง่ายๆ แค่ถามผู้หญิงว่า “ทำไมยังไม่แต่งงาน” นี่ก็จัดว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศได้แล้วนะครับ) หรือทางกาย อย่างที่ผมเคยเล่าใน เอ๊ะ! เจแปน ไปแล้ว พูดง่ายๆ ก็ยิ่งไปยิ่งปวดหัวนั่นล่ะครับ
ยิ่งไปกว่านั้น ร้านเหล้าอิซาคายะหรือร้านอาหารทั้งหลาย ส่วนใหญ่ก็สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสังคมที่ชายเป็นใหญ่ บรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายจึงไม่ได้เน้นไปเพื่อการบริการสาวๆ เท่าไหร่ และส่วนหนึ่งก็เป็นอคติของสังคมญี่ปุ่นเอง ที่มักจะมองว่า ‘ร้านแบบนี้’ ไม่ค่อยเหมาะกับผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงสาวฉายเดี่ยว ที่แค่ไปนั่งกินร้านราเมงหรือร้านข้าวหน้าเนื้อโยชิโนยะคนเดียวก็ถูกมองว่าแปลกแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าร้านเหล้ายาปลาปิ้งจะเป็นสถานที่แปลกแยกสำหรับหญิงสาวแค่ไหน
แต่ของแบบนี้ ใครไวกว่าก็ฉวยโอกาสได้ครับ เมื่อบริษัท Moteroza ที่บริหารแฟรนไชส์อิซาคายะเจ้าใหญ่ ‘Wara Wara’ มองเห็นว่ามีตลาดใหม่ที่ยังไม่มีใครสน เขาก็เริ่มออกแบบเมนูสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะ แล้วก็โปรโมตในชื่อว่า ‘Wara Wara Joshikai’ เอาใจสาวๆ เพื่อที่จะได้มานั่งกินดื่มที่ร้านโดยไม่ต้องสนใจผู้ชาย และรายการอาหารก็เหมาะสมกับรสนิยมของสาวๆ มากกว่า ซึ่งการตลาดตรงนี้ กลายเป็นการเจาะถูกจุด ทำให้การกินดื่มและมาระบายความเครียดกันเองในหมู่สาวๆ กลายเป็นเรื่องฮิต บวกกับอิทธิพลจากซีรีส์เรื่องดังจากอเมริกา Sex and the City ที่ทำให้ปาร์ตี้สังสรรค์กันในหมู่สาวๆ ฟังดูเป็นเรื่องเก๋ไก๋ เห็นแล้วใครก็อยากจะเลียนแบบ ซึ่งจากแรงหนุนทั้งสองด้าน ก็ทำให้คำว่า โจะชิไค กลายเป็นหนึ่งใน 10 คำยอดนิยมแห่งปี 2008 ไปเลยทีเดียว และตลาดใหม่ก็จุดติดเรียบร้อยแล้วครับ
ซึ่งตั้งแต่ฮิตมา ก็มีร้านอาหารและอิซาคายะหลายต่อหลายร้าน พยายามโปรโมตเมนูและห้องที่ออกแบบมาสำหรับการจัดปาร์ตี้ของสาวๆ โดยเฉพาะ กลายเป็นตลาดที่ทำเงินได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาวๆ เองก็ชอบใจ เพราะจะได้ทำอะไรตามใจ เมาท์กันได้เพลิน และได้แต่งตัวสวยๆ มาประชันกัน โดยไม่ต้องแคร์ภาพลักษณ์ต่อหน้าผู้ชายอีกด้วย เรียกได้ว่าได้เฮฮากันเต็มที่
และตลอดช่วงเกือบ 10 ปี ที่โจะชิไคเป็นที่นิยม บวกกับกระแสการใช้ Social Network Software เพื่อโชว์ ‘ชีวิตดี๊ดี’ ทำให้โจะชิไคยิ่งพัฒนาไปไกลกว่าเดิม จากเดิมที่แค่ต้องการพื้นที่กินดื่มของตัวเองเฉยๆ ปัจจุบันยังเป็นการจัดปาร์ตี้สนุกสนานเพื่อหลุดไปจากความซ้ำซากจำเจในชีวิตประจำวัน และสามารถถ่ายภาพเก๋ๆ อวดคนอีกด้วย ซึ่งก็มีตั้งแต่ ‘โจะชิไคปิกนิก’ ที่ไปจัดปิกนิกกันตามสวยสาธารณะสวยๆ งามๆ เอ้อ อันนี้จัดว่าดูดี ยังไม่แหวกมาก แต่บางคนก็จริงจังกันขนาดที่ เป็นโจะชิไคที่เน้นการถ่ายภาพ โดยแต่งตัวแฟนซีกัน มากินดื่มในเซ็ตที่เตรียมไว้ถ่ายภาพ แล้วมีตากล้องคอยถ่ายภาพให้ด้วย แน่นอนว่ามีบริษัทเตรียมพร้อมให้บริการครับ (คิดถึงร้านถ่ายรูปที่สยามแต่ก่อนจัง)
ถ้าเท่านั้นยังไม่หนำใจ ไม่เก๋พอ ยุคนี้ก็มีบริการให้เช่ารถลิมูซีนเพื่อจัดโจะชิไคโดยเฉพาะครับ ดื่มไป นั่งรถเก๋ๆ ที่ข้างในตบแต่งอย่างหรูหรา หรือไม่ก็แต่งแบบเป็นคลับเล็กๆ มีแชมเปญทาวเวอร์ มีคาราโอเกะให้ร้อง ให้บรรยากาศชาวไฮโซ หนีไปจากชีวิตประจำวันได้ดีเหลือเกินครับ แต่ถ้าเพื่อนเยอะไป ลิมูซีนคันเดียวไม่พอ ก็มีบริการให้เช่า ‘ลอนดอนบัส’ หรือรถบัสสองชั้นจัดโจะชิไคโดยเฉพาะเลยก็มี ซึ่งก็ได้ปาร์ตี้กันที่ชั้นสองอย่างเต็มที่ รับได้ถึง 26 คนเลยทีเดียว กินดื่มไป ชมวิวจากชั้นสองของรถไป เพลินสิครับ ล่าสุดเห็นว่า เริ่มไปนิยมสระว่ายน้ำตอนกลางคืนกันอีก วู้ว
นอกจากนี้ ยังมีการจัดโจะชิไคในโรงแรมด้วย ซึ่งแต่เดิมก็ฮิตโรงแรมหรูหรากัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีงบพอ ปัจจุบัน กลายเป็นว่า ‘โรงแรมม่านรูด หรือเลิฟโฮเทล’ (อ่านได้ใน Japan Did #ขายของหนักมาก) เป็นที่นิยมในการจัดโจะชิไค เพราะนอกจากจะตกแต่งได้หรูหราในราคาแสนถูกแล้ว หลายครั้งห้องก็ตกแต่งอย่างแฟนตาซีและมีอ่างจากุซซี่อีกด้วย สาวๆ ได้ใส่บิกินี่มากินดื่มสังสรรค์กันอย่างเพลิดเพลิน
ปัจจุบัน เลิฟโฮเทลเขาก็รู้ว่านี่เป็นตลาดใหม่
เลยลงทุนกับการเสิร์ฟอาหารอร่อยๆ ไม่ใช่กินกันตายแบบแต่ก่อน
จนกลายมาเป็นเทรนด์ฮิตอีกครับ
ฟังดูเหมือนจะดี สาวๆ ได้ปาร์ตี้สังสรรค์กันในหมู่ซิส จนเป็นที่นิยม แต่ในมุมกลับ ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีเสมอ อย่างในละครญี่ปุ่นที่กำลังฉายในตอนนี้เรื่อง ‘Tokyo Tarareba Musume’ (ออริจินอลเป็นมังงะ) ก็พูดถึงเหล่าสาวๆ กลุ่ม Tarareba ที่หมายความว่า ‘วันๆ เอาแต่พูดว่า ถ้าตอนนั้น… ก็คง… หรือ ถ้า… ก็คง… แต่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจริงจัง’ (tara และ reba เป็นรูปแบบการผันคำกริยา ในความหมายความ ‘ถ้า…’ แต่ที่เรียก tarareba ก็เป็นการล้อเล่นกับคำพ้องเสียงเมนูอาหาร) ซึ่งตัวเอกทั้งสาม วันๆ ก็เอาแต่จัดโจะชิไคกันสามคน และพูดถึงเรื่อง What If… ไปวันๆ ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเป็นชิ้นเป็นอัน จนดูเหมือนว่า โจะชิไค จะเป็นแค่ที่ปลอบใจกันเองไปวันๆ เท่านั้น
และเอาเข้าจริงๆ ไม่ใช่แค่ในละครเท่านั้น แต่ไปอ่านความเห็นของสาวๆ ญี่ปุ่น หลายต่อหลายครั้งที่โจะชิไค ก็ไม่ใช่สิ่งน่าพิสมัยนัก เพราะอย่างตัวละครที่สุดท้ายก็เป็นแค่การมานั่งคุย บ่น นินทากันไป ไม่ได้เกิดผลอะไร ไปก็เสียเงินเสียเวลาเปล่า นอกจากนี้หลายต่อหลายครั้ง การไปปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่กันก็กลายเป็นการเพิ่มความเครียดไปอีกแบบ จะใส่เสื้อผ้าแบบเดิมซ้ำไปมาก็จะโดนเมาท์ได้ ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มที่สมาชิกมีทั้งคนโสด คนแต่งงานแล้ว คนมีลูกแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ต้องคอยระวังว่าจะไม่พูดอะไรกระทบจิตใจคนอื่น ตามสไตล์คนญี่ปุ่น แถมยิ่งถ้าเป็นโจะชิไคในหมู่สาวๆ ที่ทำงานบริษัทเดียวกันแล้ว ก็ไม่แคล้วที่จะเกิด Power Harassment ข่มกันตามลำดับสูงต่ำในออฟฟิศ ชวนให้เหนื่อยใจเพิ่มเข้าไปอีก จนกลายเป็นว่า ต้องมีกระทู้ ‘ปฏิเสธโจะชิไคยังไง ให้ดูสวยๆ’ ให้มานั่งอ่านกันเลย
ฟังดูแล้ว ชายหนุ่มวัยรุ่น (ตอนปลาย) อย่างผมก็เหนื่อยใจแทนนะครับ จากที่สาวๆ ได้พบกับแซงจัวรี่ใหม่เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจ ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าเหนื่อยเหมือนเดิม แต่ทว่า ตราบเท่าที่ ‘ตลาดใหม่’ นี้ยังสามารถขาย และทำเงินให้กับธุรกิจต่างๆ ได้ เราก็คงจะได้เห็นโจะชิไคกันต่อไปเรื่อยๆ นั่นล่ะครับ เพราะสาวๆ เอง ก็คงอยากมีสถานที่ที่ได้เป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องสนใจสายตาของผู้ชายเหมือนกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก