คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ในกลุ่ม B-Segment และ Eco-Car เป็นกลุ่มรถที่คนรุ่นใหม่ต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษ ด้วยปัจจัยของช่วงราคาที่จับต้องได้ และฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งาน
แต่หากก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ได้ รถในกลุ่ม B-Segment นี้ เรียกว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่ามากทีเดียว ซึ่งการที่แบรนด์สักแบรนด์จะพัฒนาให้รถมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้นั้น ต้องมีความพร้อมและความชำนาญในหลายๆ ด้าน และหนึ่งในแบรนด์ที่น่าจับตาที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น MG ที่เพิ่งเปิดตัว ALL NEW MG5 ได้สร้างกระแสอย่างมาก ตั้งแต่ดีไซน์ของรถที่โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน เทคโนโลยีสุดล้ำที่ตอบโจทย์การใช้งานสุดๆ และที่สำคัญคือระบบความปลอดภัยที่จัดเต็ม มั่นใจทุกการขับขี่
มาดูความเหนือกว่าทั้ง 5 ด้านของ ALL NEW MG5 รถใหม่ที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึง แต่จะโดดเด่นยังไง ล้ำกว่าแค่ไหน ลองไปพิสูจน์กัน
ดีไซน์สปอร์ต เท่ โดดเด่นทุกองศา
เรื่องของดีไซน์เปรียบเหมือนด่านแรกที่ทำให้แบรนด์เป็นที่สนใจในตลาด ALL NEW MG5 มีความโดดเด่นตั้งแต่กระจังหน้าแบบ 3 มิติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุด พร้อมตัวถังเพรียวยาวตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน บวกกับการเลือกสีหลักในการโปรโมตด้วยสีเหลืองสะดุดตา ทำให้เกิดกระแสอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ถึงเรื่องความสวยงามของตัวรถภายนอก
มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ 4,675 x 1,842 x 1,480 มิลลิเมตร และระยะความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร ระบบไฟหน้าหลังแบบ LED ที่โฉบเฉี่ยวมีสไตล์ บวกกับล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน เสริมลุคความเป็นรถยนต์สปอร์ตซีดาน สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว
ภายในกว้างขวาง ฟังก์ชันเพียบ
ต่อเนื่องจากดีไซน์ภายนอกที่โดนใจคนรุ่นใหม่ไปแล้ว การออกแบบภายในก็ต้องน่าสนใจไม่แพ้กัน ทำให้ ALL NEW MG5 พิถีพิถันในการออกแบบภายสไตล์สปอร์ตสุดพรีเมียม แต่ไม่ทิ้งจุดเด่นเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร มีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง พร้อมด้วยหลังคาซันรูฟช่วยเพิ่มบรรยากาศในการขับขี่ เบาะหนังทรงสปอร์ต พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางสำหรับที่นั่งคนขับ
แผงคอนโซล 3D Diamond Design หน้าจอแสดงผลการขับขี่อัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว และที่ขาดไม่ได้คือเทคโนโลยีความบันเทิง ด้วยหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ทำงานร่วมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน สามารถควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ ไม่พลาดทุกการติดต่อ นอกจากนั้นความพิเศษที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ คือระบบกรองอากาศ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารที่นั่งข้างหลังอีกด้วย
ทรงตัวเยี่ยม ขับสบายได้ทุกที่
เรื่องของสมรรถนะของเครื่องยนต์ ALL NEW MG5 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ทรงตัวเยี่ยมมั่นใจตลอดการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut เหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam เรียกว่าทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่างตอบโจทย์การใช้งานในเมืองได้แบบสบายๆ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่ด้วย Driver-focus Cockpit คอนโซลกลางที่ถูกออกแบบให้อยู่ในองศาที่เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งคนขับ
ความปลอดภัยเหนือชั้นที่มั่นใจได้
เรื่องระบบความปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญของ ALL NEW MG5 เพราะออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) ดิสก์เบรก 4 ล้อ และ Synchronized Protection System ที่ผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) และระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ เรียกว่าจัดเต็มครบทุกด้าน ส่วนการใช้งานทั่วไปก็มีระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ ส่วนมือใหม่ก็อุ่นใจด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
เทคโนโลยีสุดล้ำ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
อย่างที่รู้กันว่าเทคโนโลยีระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART คือจุดขายของ MG ที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สะดวกสบายและเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ALL NEW MG5 จึงพัฒนาให้ล้ำไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด กุญแจดิจิตอล (Digital Key) ที่สามารถสั่งเปิด-ปิด และสตาร์ทรถผ่านสมาร์ทโฟนได้ รวมถึงเจ้าของรถสามารถส่งกุญแจดิจิทัลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน i-SMART ไม่ใช่แค่ส่งให้แต่ยังกำหนดสิทธิ์ และกำหนดเวลาการใช้งานได้อีกด้วย
และระบบ i-SMART ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Smart Command ระบบสั่งการอัจฉริยะด้วยเสียงภาษาไทย Smart Connect ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ เป็นผู้ช่วยในการขับขี่ทั้งการค้นหาที่พัก ร้านอาหาร รายงานสภาพการจราจร และ Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะที่ทำได้ตั้งแต่ตรวจสอบสถานะของประตูรถ ความผิดปกติจากการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย ล้ำที่สุดคือฟังก์ชัน FIND MY CAR ที่สามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถที่จอดไว้ได้อีกด้วย
สำหรับ ALL NEW MG5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow), สีขาว (Arctic White), สีดำ (Black Knight), สีเงิน (Silver Metallic), สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)
ทั้งหมดนี้คือความเหนือกว่าทั้ง 5 ด้านของ ALL NEW MG5 เรียกได้ว่าให้ทุกอย่างมาแบบจัดเต็มจริงๆ ใครที่อยากเป็นเจ้าของ หรืออยากทดลองขับ สัมผัสคันจริงได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูม MG กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ