หลังโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มาเป็นเวลาราวสองปี เรื่องของ ‘สุขภาพ’ กลายมาเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจ
เห็นได้จากเทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ ซึ่งรวมไปถึงการเข้ารับบริการทางการแพทย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกกว่า Telemedicine ก็มีการขยายตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หนึ่งในนั้นคือบริการ ‘AIA Telemedicine’ บริการพบแพทย์ออนไลน์แบบครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “ทรู เฮลท์” โดยความร่วมมือของ เอไอเอ ประเทศไทย และพันธมิตรด้านดิจิทัลอย่างทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านสุขภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในยุคโควิด-19
เราจึงชวน นพ.ประมุกข์ ทรงจักรแก้ว รักษาการหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ 1 และผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ เอไอเอ ประเทศไทย และ ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด มาพูดคุยกันถึง เทรนด์การแพทย์ในยุคนี้ และความมุ่งหวังที่อยากจะเห็นคนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น
ทำความรู้จักกับ Telemedicine
Telemedicine หรือภาษาไทยเรียกว่าโทรเวชกรรม คือการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้ผู้ป่วยได้เข้ารับบริการทางการแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสามารถทำได้ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาเดินทางได้มาก ด้านนพ.ประมุกข์ก็มองว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในวงการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโควิด-19 ที่การมาโรงพยาบาลจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก
“ทางเอไอเอได้มีการพัฒนา Telemedicine ตั้งแต่ช่วงเมษายนปีที่แล้ว โดยเป็นในรูปแบบของ Virtual COVID-19 Clinic ซึ่งจะให้คำปรึกษาโรคที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 จากนั้นก็พัฒนาเป็น Online Doctor Consultation ที่เปิดโอกาสให้ปรึกษาได้ทุกโรค นอกจากนั้น ในปีที่ผ่านมายังได้เปิดตัวบริการเรียกร้องสินไหมผู้ป่วยนอก (OPD) ผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อช่วยคนไข้ที่เป็นโรคเรื้อรังหรือมีโรคประจำตัว อย่างเช่น โรคเบาหวาน ความดัน หรือไขมันในเลือดสูง ที่จำเป็นต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ให้ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล และสามารถใช้บริการการเรียกร้องสินไหมผู้ป่วยนอกผ่านทางโทรศัพท์ หรือ Telemedicine ซึ่งสามารถเรียกร้องสินไหมผู้ป่วยนอกได้เสมือนการไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
นพ.ประมุกข์เล่าว่าการที่เอไอเอพยายามพัฒนา Telemedicine ก็เพราะว่า เอไอเอมีพันธกิจที่อยากให้คนไทยและคนทั่วทั้งภูมิภาคมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น หรือ ‘HEALTHIER, LONGER, BETTER LIVES’ ดังนั้นจึงมีการคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ
“ไม่ว่าจะเป็นโครงการ AIA Vitality ที่เป็นตัวช่วยให้ลูกค้าได้เริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งเรื่องของการทานอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อสนับสนุนให้เขามีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน นอกจากนี้เราก็ยังมองว่า Telemedicine ตอบโจทย์ในแง่ของการต่อยอดให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ภายใต้ข้อจำกัดของสถานการณ์โควิด-19 ครับ”
ยกระดับประสบการณ์ด้านสุขภาพ เอาใจไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
สิ่งสำคัญของบริการ Telemedicine คือระบบออนไลน์ที่ต้องสะดวกและรวดเร็ว เอไอเอจึงจับมือกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของทั้งสองบริษัท
“เริ่มต้นจากการที่เอไอเอและทรู ดิจิทัล กรุ๊ป มองไปในทิศทางเดียวกันว่า เราจะทำยังไงให้คนไทยมีสุขภาพดีขึ้นร่วมกันได้ ซึ่งทรูมี DNA ในการเชื่อมต่อคนจากเทคโนโลยี ตั้งแต่ยุค 3G, 4G มาจนถึง 5G นี่ก็เป็นอีกโซลูชันหนึ่งที่เราเชื่อมต่อคนไทยให้เข้าถึงคุณหมอได้ง่ายมากขึ้น ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ซึ่งสามารถเชื่อมต่อคุณหมอกว่า 350 ท่าน ผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 สาขา ทำให้การดูแลรักษาง่ายขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงในการเดินทางไปโรงพยาบาล” ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เล่าให้ฟังถึงการร่วมมือกันของพันธมิตรด้านสุขภาพและดิจิทัล
สิ่งสำคัญคือทางทรูเชื่อมต่อกับผู้บริโภคที่ถือกรมธรรม์ของเอไอเอจนถึงจุดที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายก่อน หรือสามารถเช็กสิทธิ์ผ่านแพลตฟอร์มได้เลย
“เราเอาผู้บริโภคของเราเป็นตัวตั้ง อยากจะทำให้เขามีสุขภาพที่ดีที่สุด ไม่ต้องมากังวลว่าจะเบิกได้ไหม เอกสารจะส่งไปไหน สิ่งไหนครอบคลุมหรือไม่ครอบคลุมบ้าง”
พบหมอได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน AIA iService และ True HEALTH
“สำหรับลูกค้า AIA สามารถเข้าใช้บริการ Telemedicine ผ่านทางแอปพลิเคชัน AIA iService โดยเลือกที่บริการสุขภาพ และกด Telemedicine จากนั้นจึงกดลงทะเบียนเพื่อนัดพบแพทย์ผ่านแอปฯ True HEALTH ได้ทันทีครับ” นพ.ประมุกข์เล่าขั้นตอนการเข้ารับบริการง่ายๆ ให้เราฟัง พร้อมให้ความเห็นว่า ปัจจุบันลูกค้าต้องการการบริการเฉพาะบุคคล และได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว Telemedicine จึงตอบโจทย์ในแง่ที่ว่าผู้ใช้สามารถเลือกเวลา เลือกแพทย์ และทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดทางสถานที่
ดร.อดิภัทรเล่าว่าบริการ Telemedicine ของ True HEALTH ได้คัดสรรแพทย์จากโรงพยาบาลมีชื่อเสียง มีประสบการณ์ และสามารถใช้เทคโนโลยีในการให้คำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่อายุรกรรม มะเร็ง จิตวิทยา ไปจนถึงแพทย์แผนจีนและแผนไทย
แม้ Telemedicine จะไม่สามารถให้คำปรึกษาได้ครอบคลุมทุกโรคเทียบเท่ากับการไปโรงพยาบาล แต่สิ่งที่ True HEALTH กำลังพยายามทำคือ O2O (Offline to Online หรือ Online to Offline) คือการใช้ระบบดิจิทัลและโลจิสติกส์เข้ามาสนับสนุน เช่น แทนที่จะไปต่อแถวที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อรอตรวจเลือด ก็สามารถไปศูนย์สุขภาพหรือคลินิกใกล้บ้านแทนได้ แล้วให้ข้อมูลต่างๆ ถูกส่งไปในระบบ เพื่อที่แพทย์สามารถอ่านผลและวิเคราะห์การรักษาได้โดยผ่านช่องทางออนไลน์ ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงในการเดินทางได้ ซึ่งสิ่งนี้ยังเป็นขั้นตอนที่ต้องพัฒนากันต่อไป
อนาคตการแพทย์ในยุคโควิด-19
แม้จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่สิ่งที่ดร.อดิภัทรอยากจะพัฒนาให้เกิดกับ True HEALTH มากที่สุดคือการทำระบบแจ้งเตือน เพราะเขาเชื่อว่าการดูแลรักษาเชิงป้องกันเริ่มต้นจากสิ่งที่ง่ายที่สุด และหลายๆ ครั้งเป็นสิ่งที่เรามักมองข้ามไป เช่น การฉีดวัคซีน การทานวิตามิน การเลือกทานอาหารและยาที่ถูกต้อง
ด้านนพ.ประมุกข์ก็เชื่อว่าในอนาคตเทคโนโลยี Telemedicine จะถูกนำมาใช้มากขึ้น ในการประเมินอาการ คัดกรองผู้ป่วย และทำให้มีความใกล้เคียงกับการเดินทางไปโรงพยาบาลด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันว่าเอไอเอจะมุ่งมั่นพัฒนาเรื่องการบริการ การใช้เทคโนโลยี การใช้ดิจิทัล รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามพันธกิจ ‘HEALTHIER, LONGER, BETTER LIVES – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ อย่างแน่นอน