เมื่อนิยามของชีวิตสะดวกสบายในเมืองกรุง คือการเลือกที่พักอาศัยใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า ด้วยเหตุผลเรื่องความสะดวกทั้งเรื่องการสัญจรและการใช้ชีวิต จนกลายเป็นวิถีของคนเมืองปัจจุบัน
หากแต่ท่ามกลางความรวดเร็ว ย่อมตามมาด้วยความเร่งด่วน เร่งรีบ จนสะสมกลายเป็นความตึงเครียด แล้วเราจะใช้ชีวิตบนความรวดเร็วอย่างมีคุณภาพได้อย่างไร? คำตอบคือการได้ออกไปใช้ชีวิตท่ามกลางพลังสีเขียวจากธรรมชาติ ที่ช่วยรีเฟรชชีวิตจากความวุ่นวาย ให้กลายเป็นชีวิตที่ผ่อนคลาย สบายใจ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกวัน คำถามต่อมาจึงเกิดขึ้นว่า แล้วจะมีสักกี่ที่ในกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์คนเมืองได้ครบ ทั้งความสะดวกสบายและไลฟ์สไตล์ใกล้ชิดธรรมชาติในเวลาเดียวกัน?
Asoke for Quality Living
คุณภาพชีวิตที่ดี คือการบริหารเวลาทั้งวันได้อย่างคุ้มค่า สร้างสมดุลในชีวิตการทำงาน การเรียน จนไปถึงชีวิตส่วนตัว จึงไม่แปลกที่นอกจากอโศกจะเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ แล้ว ยังเป็นย่านที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยเพราะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างการเดินทางคมนาคมสาธารณะที่สะดวก และถนนหนทางที่ออกสู่พื้นที่ต่างๆ ของเมืองได้ทุกทิศทาง หากเราสามารถย่นระยะเวลาในการเดินทาง แล้วใช้เวลาเหล่านั้นสร้างความสุขให้ตัวเองและคนที่เรารัก เท่านี้ก็น่าจะเป็นชีวิตในฝันของใครหลายๆ คนเลยล่ะ
มนต์เสน่ห์ของอโศกอีกอย่างนอกเหนือจากความสะดวกสบาย คือความเคลื่อนไหวของพื้นที่ไลฟ์สไตล์ที่เติบโตในเชิงสร้างสรรค์แบบไม่มีวันหยุด ทั้งการเกิดขึ้นของแกลเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ อย่าง g23 แกลเลอรี่ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒซึ่งทำการจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินนานาชาติอยู่เสมอ หรือในตรอกซอกซอยที่มีร้านอาหารและร้านขนมดีไซน์เก๋ให้แวะเวียนเข้ามาเสพความสุขบนจานไปพร้อมกับบรรยากาศดีกลางเมืองใหญ่ เช่น ร้าน Paris Mikki กับขนมสไตล์ฝรั่งเศสขนานแท้ หรือร้าน Baby Bar Bangkok คาเฟ่แห่งใหม่ที่ชวนคุณมาเอ็นจอยอาหารเช้าตลอดวันไปพร้อมกับการดีไซน์ร้านที่ชวนให้ถ่ายรูปได้ทุกมุม
Asoke for Greenery Living
คุณภาพชีวิตที่ดี คือการได้ใกล้ชิดธรรมชาติ หากลองถอยออกมาจากสี่แยกใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของย่านแล้วละก็ จะเห็นว่าแยกอโศกถูกรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวและสวนธรรมชาติหลายแห่งที่ไม่ใช่เพียงสวนสาธารณะเล็กๆ แต่คือพื้นที่ของกิจกรรมที่สร้างแรงกายและแรงใจชั้นดีให้กับชีวิตประจำวัน
ไฮไลต์ของพื้นที่ธรรมชาติในย่านอโศกอยู่ที่สวนเบญจกิติ หรือสวนสาธารณะที่อยู่ข้างศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่เนื้อที่ 130 ไร่ ที่พรั่งพร้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติทั้งจากร่มไม้และบึงน้ำ และล่าสุดสวนแห่งนี้กำลังจะเติบโตขึ้นกลายเป็นสวนป่าเบญจกิติ บนเนื้อที่ 450 ไร่ เพื่อกิจกรรมนันทนาการและศูนย์กลางการเรียนรู้หลายแขนงสำหรับทุกคน และที่ลืมไม่ได้เลย คือสวนลุมพินี สวนสาธารณะแห่งแรกของเมืองไทย พื้นที่ศูนย์กลางของคนรักสุขภาพที่คึกคักตลอดทั้งวัน
Asoke for Active Living
จากการเติบโตของสวนสาธารณะใจกลางย่านอโศก มาพร้อมกับการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านกิจกรรมเพื่อสุขภาพหลากหลาย โดยเฉพาะการเริ่มต้นของ BIKE ROUTE เส้นทางจักรยานเพื่อสุขภาพและการเดินทางของเมือง ผ่านเส้นทางที่เชื่อมต่อทั้ง 2 สวนนี้ เข้าด้วยกัน เริ่มจากสวนลุมพินี เชื่อมต่อด้วยเส้นทางจักรยานลอยฟ้าไปยังสวนเบญจกิติ โดยมีซอยสุขุมวิทซอย 10 ที่เชื่อมเส้นทางสายนี้เข้าสู่ถนนสุขุมวิท ใจกลางอโศกต่อไป
นอกจากเส้นทางจักรยานแล้ว สวนทั้งหมดยังจัดการพื้นที่สำหรับกีฬาหลากหลายประเภท โดยเฉพาะเส้นทางวิ่งสำหรับนักวิ่ง ทั้งนักวิ่งเพื่อสุขภาพและเส้นทางซ้อมวิ่งสำหรับนักวิ่งมืออาชีพ รวมทั้งในสวนป่าเบญจกิติที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังมีการจัดสรรพื้นที่สำหรับกีฬาฟุตบอล บาสเกตบอล เทนนิส ตะกร้อ เปตอง และลานอเนกประสงค์อีกด้วย
Living in Asoke
ชีวิตทันสมัยในย่านอโศกสำหรับคนยุคใหม่ที่ใส่ใจทั้งชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ของตัวเองไปพร้อมๆ กัน พร้อมให้สัมผัสที่ FYNN Asoke คอนโดมิเนียมเพื่อชีวิตคุณภาพ ด้วยทำเลใจกลางอโศกที่ใกล้กับการคมนาคมสาธารณะหลักของกรุงเทพฯ ศูนย์กลางของออฟฟิศ สถานศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาลระดับสากล แหล่งแฮงก์เอ๊าต์สำหรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เชื่อมเมืองให้ชิดธรรมชาติกับพื้นที่สีเขียวพื้นที่หลักใจกลางกรุง
คุณภาพชีวิตที่ดียังสร้างขึ้นได้จากสาธารณูปโภคภายในโครงการที่ตอบความต้องการของคนรักสุขภาพ และการออกกำลังกาย ทั้งสระว่ายน้ำกึ่งมาตรฐานโอลิมปิกความยาว 25 เมตร ฟิตเนสเลาจ์ขนาด 200 ตารางเมตร ล็อกเกอร์จักรยาน สวนดาดฟ้าพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร และที่สำคัญคือ ต้นจามจุรีอายุกว่า 60 ปีบนพื้นที่ที่ยังคงเก็บรักษาไว้เป็นร่มเงาไม้ขนาดใหญ่ของโครงการ
FYNN Asoke คอนโดใหม่ใจกลางอโศก พรีเซลล์วันที่ 19-20 มกราคมนี้
ราคาเริ่มต้นเพียง 4.5 ล้านบาท พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 300,000 บาท
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ที่ http://bit.ly/2SUXuLt หรือโทร. 092-201-9999