ตลอดการเดินทางด้วยยานยนต์พรีเมียมครั้งนี้ “เรามีความรวดเร็วเป็นคีย์หลักในการแข่งขันในธุรกิจนี้” คุณบิ๊ก – อัครวัชร คงสิริกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ B Autohaus ถ่ายทอดประสบการณ์และวิสัยทัศน์ของการทำงานในวันที่โลกยานยนต์ที่ไดรฟ์เร็วไปข้างหน้าตามยุคสมัยและนวัตกรรมที่โตไวแบบก้าวกระโดด เป็นเรื่องจำเป็นที่คนทำธุรกิจจะต้อง ‘คิดถึง’ และ ‘คิดเผื่อ’ ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
‘เพราะมองลูกค้าเป็นหลัก’ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรีแบรนด์และปรับลุคใหม่ของของธุรกิจรถยนต์ เบนซ์ ออโต้ เซอร์วิส ที่ให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี มาสู่ B Autohaus วิภาวดีรังสิต ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์นำเข้าจากทั่วโลก พร้อมการคิดสร้างสรรค์บริการครบวงจรเพื่อตอบทุกความต้องการรอบด้านของคนรักรถระดับพรีเมียม
เราจึงชวนคุณบิ๊กมาคุยถึงทรรศนะทางธุรกิจและภาพรวมตลาดยานยนต์ ผ่านบทเรียนของประสบการณ์ในยุคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และมองไกลไปจนถึงอนาคต
ภาพรวมธุรกิจปัจจุบันของ B Autohaus
คุณบิ๊ก : ตอนนี้ในธุรกิจของบริษัท เราก็มีบริการหลายอย่าง อย่างแรกที่เห็นเลยคือนำเข้าและจำหน่ายรถหลายยี่ห้อมากทั้งจากญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย นอกจากขายแล้ว เรายังมีศูนย์บริการตามสโลแกนของเราคือ The 360 Degrees of Auto Services เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือ ช่างวิเคราะห์ พร้อมบริการรถทุกยี่ห้อที่เราขายครับ
ถัดมา เรามี Auto Color Lab ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐานที่พึ่งรีแบรนด์ใหม่ และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดแต่งจากต่างประเทศ 2 แบรนด์ครับ แบรนด์แรกจากเยอรมัน คือ TechArt ชุดแต่งสำหรับ Porsche และอีกแบรนด์ก็คือ Rowen ชุดแต่งจากญี่ปุ่นสำหรับรถ Alphard ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย
ในเครือธุรกิจเรายังมี Auto Essence สปารถยนต์ เริ่มตั้งแต่เคลือบแก้ว ไปจนถึงเรื่อง Restoration รถ คือทำความสะอาดภายใน และอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในปีนี้คือ Skinz เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนสีรถยนต์ที่จะมาแทนการทำสีในรูปแบบเดิมๆ เพราะถ้าอยากเปลี่ยนสีรถ ไม่จำเป็นต้องใช้สติ๊กเกอร์แล้ว เราจะใช้เหมือนเป็นสีพ่น แต่พ่นเสร็จแล้วจะกลายเป็นฟิล์มสีติดรถไปเลย และสามารถลอกออกได้เมื่อต้องการเปลี่ยนใหม่ ซึ่งตัวนี้น่าสนใจมากตรงที่เปลี่ยนสีได้ด้วย และยังช่วยปกป้องตัวรถ หรือรอยขีดข่วนก็เข้าไม่ถึงเนื้อสีรถ และ Skinz มีความสามารถในการ Self-healing ได้อีกด้วย
B Autohaus มีการปรับตัวอย่างไรท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการยานยนต์พรีเมียม
คุณบิ๊ก : ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร เรามองลูกค้าเป็นหลัก แล้วเราก็ปรับเปลี่ยนตัวเองตามลูกค้า อย่างเมื่อก่อนเราเป็นตัวแทนจำหน่าย Mercedes Benz มายี่ห้อเดียวตลอดเกือบ 20 ปี จน 10 ปีที่แล้วเราก็เปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ลูกค้าเราในบ้านหนึ่งหลัง เขาไม่ได้ซื้อรถแค่ยี่ห้อเดียว เราเลยเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้นำเข้าอิสระได้หลายยี่ห้อ แล้วก็ดูแลลูกค้าได้แบบ 360 องศา
จะเห็นได้ว่า B Autohaus พยายามเน้นทำบริการหลังการขายมากขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือจากการขายเพียงอย่างเดียว แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แค่ศูนย์ซ่อมแล้ว อย่างเมื่อ 10 ปีก่อน เราเอาชุดแต่งเข้ามา ซึ่งตอนนั้นอาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากเหมือนตอนนี้ แต่ ณ วันนี้สำหรับคนรุ่นใหม่ การแต่งรถหรือการ Tuning กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับพวกเขาแล้ว ธุรกิจจึงเติบโตมากในเรื่องตลาดชุดแต่งรถ
สถานการณ์ธุรกิจนำเข้ารถยนต์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19
คุณบิ๊ก : ถ้าถามว่า ในสถานการณ์โควิดตอนนี้ เราทำอย่างไร? เหมือนเดิมครับ เราเน้น Customer Base เรายังเชื่อว่า เรามีลูกค้าที่กระทบมาก แต่เราก็ยังมีลูกค้าที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องจับกลุ่มตลาดให้ถูก และเน้นไปที่การทำงานของเราที่ตอบกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ อย่างการสต็อกรถยนต์ ซึ่งเกิดจาก Pain Point ที่ว่าโควิดก็กระทบกับโรงงานที่ผลิตรถยนต์ วิธีแก้ไขเราเลยใช้วิธีการสั่งรถมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สต็อกไว้ แล้วถ้าลูกค้าเดินเข้ามาในโชว์รูมก็สามารถออกรถได้เลยจากปกติที่ต้องรอข้ามปี
รวมทั้งในส่วนของเทรนด์รถไฟฟ้า หรือ EV เราก็นำเข้ามาเป็นเจ้าแรกๆ อย่าง Porsche Taycan ที่เป็นรุ่นไฟฟ้าล้วน เราก็เปิดรับจองมาตั้งแต่สองปีก่อน นำเข้ามาขายตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วก็ส่งมอบไปหลายสิบคันแล้ว หรือ Tesla เราก็ยังนำเข้ามาขายเรื่อยๆ ผมคิดว่าเราไม่ได้โฟกัสแค่ที่ยี่ห้อหนึ่งยี่ห้อใด แต่เราเป็น Customer Base สามารถจัดหาและนำเข้ามาให้ลูกค้าได้ทุกยี่ห้อ
อันนี้เป็นเคล็ดลับส่วนหนึ่งหรือไม่ที่ทำให้ B Autohaus เติบโตมาเช่นในทุกวันนี้
คุณบิ๊ก : ถามว่าใช่ไหม ใช่อยู่แล้ว เพราะว่าการที่เรานำรถเข้ามาคันแรกๆ ในเมืองไทย มันทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความทันสมัย รวดเร็ว และยังมีองค์ประกอบอื่นอีก อย่างเช่น เรามีสต็อกพร้อม ลูกค้ามาถึงเราพร้อมส่งมอบเลย ไม่ต้องรอรถนาน หรือบริการหลังการขาย รถที่เราขายทุกวัน เราต้องซ่อมได้ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกคน ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของคำว่า Customer-based จริงๆ
นอกจากดูแลรถแล้ว เรามีการทำการประเมินทุกเดือนเลย ในช่วงโควิดหนักๆ คือทำทุกสัปดาห์กับลูกค้าทุกคน เรามีลูกค้ากลุ่ม Repeat and Refer คือซื้อซ้ำและบอกต่อเยอะ สถานการณ์แบบนี้เราก็ยังติดต่อกับลูกค้าอยู่เสมอ นอกจากดูแลรถ เราก็ดูแลไปถึงลูกค้าด้วย
โดยสรุปก็คือ ลูกค้ากลุ่มบนเป็นลูกค้าที่ทันสมัยเสมอครับ เราต้องเร็วมาก ด้วยความที่เราเป็นผู้นำเข้าอิสระ รถบางรุ่นเปิดตัวเดี๋ยวนี้ เราใช้เวลาหนึ่งเดือน รถคันนั้นมาถึงเมืองไทยได้เลย สรุปว่าความรวดเร็วเป็นคีย์หลักในการแข่งขันในธุรกิจนี้
อุปกรณ์ในการทำงานก็มีส่วนช่วยในเรื่องของความรวดเร็วด้วย อย่างโน๊ตบุ๊กที่คุณบิ๊กเลือก ASUS ExpertBook B9400 ตอบกับฟังก์ชั่นการทำงานของคุณบิ๊กอย่างไรบ้าง
คุณบิ๊ก : รถรุ่นใหม่ๆ สมัยนี้ เวลาที่เราสั่งจะต้องเป็นรายคัน ซึ่งเราจะต้องไปทำสเป็กในคอมพิวเตอร์เหมือนกับ Tailor-made เลือกสเป็กได้ทั้งหมดเป็นร้อยอย่าง และแต่ละยี่ห้อก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานจะต้องมีความเร็ว หน้าจอชัด เป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เราเห็นตัวอย่างรถได้ก่อนที่จะมาถึงจริง ถ้าเราไม่เห็นภาพที่สมจริงจากหน้าจอเรา เราจะมองไม่ออกเลยว่าสุดท้ายแล้วมันจะออกมาแบบไหน อย่างเช่นเราจะสั่งรถสีน้ำเงิน น้ำเงินมีทั้งหมด 4-5 เฉด แล้วมันน้ำเงินไหนกันแน่ที่เราต้องการกับตลาดไทย เลยจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูง เพื่อดูสีจากหน้าจอที่ตรงกับสีรถที่มันเกิดขึ้นจริงได้ ก็จะดีมาก
พอจะต้องทำงานกับภาพ Visual ที่จะต้องแม่นยำมากๆ เราเลยต้องการโน๊ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว พร้อมกับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน อย่างตัว ASUS ExpertBook B9400 ที่มี 11th Gen Intel processor ที่ตอบสนองได้เร็ว พร้อมใช้งานในเวลาไม่ถึงวินาที โดยได้รับการรองรับจาก Intel® EVOTM ซึ่งช่วยในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟังก์ชั่นชาร์จเร็ว พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน และการเชื่อมต่อไวไฟดีขึ้นสามเท่าด้วยเทคโนโลยี Intel® Wi-Fi 6 ในตัว
นั่นเปรียบเสมือนว่าเราย้ายห้องทำงานไปได้เรื่อยๆ เราสามารถมีห้องทำงานที่ไหนก็ได้ทุกที่
ฟังก์ชั่นไหนของ ASUS ExpertBook B9400 ที่คุณบิ๊กชื่นชอบหรือถูกใจมากที่สุด
คุณบิ๊ก : ผมว่าเรื่องความเร็ว และน้ำหนักเบา ที่สามารถที่จะพกพาไปทำงานที่ไหนก็ได้ เพราะว่าบางทีเรา WFH แล้วก็ถ้าในช่วงเวลาปกติ มั่นใจเลยว่าผมก็ต้องเอาคอมพิวเตอร์ไปต่างประเทศ บางทีก็ต้องถือขึ้นเครื่อง ผมว่าเรื่องการพกพา และดีไซน์ที่มันต้องสวย บางเบา ขอบจอบาง และทนทาน ก็เป็นอะไรที่สำคัญเช่นกันครับ
โน้ตบุ๊กตัวนี้เลยเป็นโน๊ตบุ๊กสำหรับธุรกิจที่เน้นทั้งเรื่องความปลอดภัยและการพกพาไปทำงานที่ไหนก็ได้ อย่างถ้าออกไปประชุมข้างนอก ASUS ExpertBook B9400 ตัวนี้ก็มีฟังก์ชั่น AI Noise-Canceling ตัดเสียงรวบกวนจากภายนอก ช่วยให้จดจ่อกับการประชุมได้มีประสิทธิภาพขึ้น
ในมุมมองของการเป็นนักธุรกิจ โน๊ตบุ๊ก ASUS ExpertBook B9400 ช่วยให้การทำงานระดับองค์กรมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างไรบ้าง
คุณบิ๊ก : อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับการทำงานสายธุรกิจก็เป็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่ง ASUS ExpertBook B9400 ก็ตอบความปลอดภัยทางธุรกิจตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงซอฟท์แวร์ อย่าง Webcam Shield การปลดล็อคด้วยใบหน้า IR Camera หรือแสกนลายนิ้วมือ ก็ตอบเรื่องความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี
จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจมายาวนาน ผ่านการรีแบรนด์และเพิ่มบริการที่ตอบความต้องการของลูกค้ามาตลอด เราใช้ประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยในการมองธุรกิจระยะยาวต่อไปถึงอนาคตได้อย่างไรบ้าง
คุณบิ๊ก : จริงๆ ก็กลับไปที่เดิม ที่ผมบอกว่ามันเป็นธุรกิจ Customer-based คือเราศึกษาจากลูกค้า ว่าในช่วงชีวิตที่ลูกค้าซื้อรถคันหนึ่ง เขาจะไปไหนบ้าง เราก็คิดไปตามเส้นทางการใช้งานของลูกค้าเลย ผมว่ามันเป็นการคิดจากลูกค้าต้องการอะไร แล้วเราก็ตามเขาไปมากกว่า ไปจนถึงการเปิดสาขาที่ลุมพินี ที่ตอบโจทย์ความสะดวกให้กับลูกค้าที่อยู่ในเมือง ทั้งหมดคือแนวคิดที่ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
มองทิศทางของธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรือศูนย์บริการด้านยานยนต์ในประเทศไทยอย่างไรบ้าง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
คุณบิ๊ก : สิ่งที่ต้องรู้เลยว่าโลกเปลี่ยนเร็วขึ้นมาก บริษัทรถยนต์ที่ดีมากใน 10 ปีที่แล้ว อาจจะไม่ดีใน 10 ปีข้างหน้า ฉะนั้นการเป็นผู้นำเข้าอิสระ เราบอกเลยว่าเราปิดความเสี่ยงตรงนั้นทันที เราสามารถเลือกได้ที่จะนำรถเข้ามาเฉพาะยี่ห้อที่ลูกค้าต้องการ อย่างเช่นว่า Benz ประกาศ ภายในไม่เกิน 10 ปีนี้จะหยุดผลิตรถเครื่องยนต์สันดาป เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหมด แล้วรถยนต์ไฟฟ้ามียี่ห้ออะไรบ้าง ณ วันนั้นเราก็ต้องมาไขคำตอบกันว่า ไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตาม เราก็นำเข้ามาให้ลูกค้าได้ ยี่ห้ออะไรที่ลูกค้าไม่ต้องการ เราก็ไม่ต้องนำเข้ามา มันก็คือเป็นการเปิดโอกาสและปิดความเสี่ยงไปในตัวด้วยครับ
ตอบแบบสั้นๆ ก็คือว่าธุรกิจนำเข้าอิสระยังไปได้อีกไกลไหม ไปได้อีกไกลอยู่แล้ว เพราะว่าเราใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นเป้าหมายหลัก ถ้าเราไม่ได้หลงประเด็นจากความต้องการของลูกค้า เราก็ไม่หลงทางอยู่แล้ว
พบกับ ASUS ExpertBook B9400 พร้อมสมรรถนะที่ตอบความต้องการรอบด้านนักธุรกิจ
ตั้งแต่เรื่องความปลอดภัย ประสบการณ์ใช้งานสมจริง ประสิทธิภาพรวดเร็ว และดีไซน์บางเบา พกพาง่าย คล่องตัว
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกชมได้ที่ https://bit.ly/3utRGvv
พร้อมกับแพลตฟอร์ม Intel® EvoTM รับรองการใช้งานที่ลงตัว ที่ https://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/products/systems-devices/laptops/evo.html