บทบาทของเทคโนโลยีแบบพกพายิ่งเด่นชัดขึ้นมากในยุคการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจำกัดให้ตัวเราต้องอยู่ภายในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง หากแต่การทำงานและการติดต่อสื่อสารยังคงต้องดำเนินอยู่เช่นปกติ การใช้งานโน้ตบุ๊กจึงมีมากกว่าความต้องการในแบบเดิมๆ
วิสัยทัศน์และแนวคิดของ ASUS จึงแปลความต้องการเหล่านี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เน้นเอาประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นตัวตั้ง แล้วจึงสรรหาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งในด้านคุณสมบัติของตัวเครื่อง ความพึงพอใจระหว่างการใช้งาน และการเปิดตัวโน้ตบุ๊ก ASUS ExpertBook B9400CBA ครั้งนี้ ก็มาพร้อมกับการบอกเล่าการเดินทางก้าวต่อไปของ ASUS ที่ต้องการเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของกลุ่มธุรกิจและคนทำงานรุ่นใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เราชวนนั่งจับเข่าคุยกันกับ Mr.Charles Liu Director of ASUS Thailand Commercial Department ในประเด็นสำคัญของ ASUS ตั้งแต่ภาคนโยบาย ลงมาจนถึงตัวผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งทั้งหมดมุ่งเน้นที่ผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
โควิด-19 กับการเติบโตของวงการไอทีที่สวนทาง
คุณ Charles เริ่มต้นเล่าถึงเรื่องราวที่ ASUS ได้เรียนรู้จากวิกฤตโรคระบาดครั้งที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ส่วนผลิตภัณฑ์ และองค์กร
“ส่วนของ Product ในตอนแรกเรามีการคาดไว้ว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์โรคระบาด ความต้องการของเราจะต่ำลง แต่ว่าในทางกลับกันความต้องการของเรากลับสูงขึ้น ซึ่งส่วนนี้เรามีจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำต่อคือ การส่งต่อความต้องการออกไปยังผู้บริโภค เราจึงใช้ระยะเวลาตรงนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางที่จะส่งถึงผู้ใช้งานให้ตรงจุด”
อีกส่วนหนึ่งที่ ASUS ให้ความสำคัญไม่แพ้กับตัวผลิตภัณฑ์เลยก็คือ ภายในองค์กร เพราะจุดเริ่มต้นของการส่งต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจผู้ใช้งาน คือการจัดการภายในองค์กรที่มีความสุข เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และนำไปสู่การสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ควบคู่ไปกับธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่”
ฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของ ASUS ExpertBook B9400CBA โน้ตบุ๊กที่เข้าใจผู้ใช้งาน
การเรียนรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดของ ASUS คือการทำความเข้าใจผู้ใช้งาน และมองไกลถึงความต้องการที่จะมาถึง
“ASUS เรียนรู้มาจากผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้งานของเราเอง เราใช้เวลาอย่างมากนับเป็นศตวรรษเลยทีเดียวในการเรียนรู้ว่าเราจะทำผลิตภัณฑ์ยังไงให้มีความบางเบา และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน” ส่วนนี้คือความต้องการในใจของผู้ใช้งานที่ ASUS ถ่ายทอดออกมาผ่านผลิตภัณฑ์
ในอีกส่วนเรื่องคุณสมบัติและความแข็งแรงซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ “เราเพิ่มเติมในส่วนฟีเจอร์เพื่อการใช้งานในองค์กรเข้าไป ทั้งในส่วนของการกันน้ำ การป้องกันแรงกระแทก รวมทั้งการทดสอบความทนทานของผลิตภัณฑ์จริงว่าสามารถใช้งานได้ในสภาวะแวดล้อมที่หลากหลาย รองรับการตก หล่น ทับ เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งาน”
สำหรับโน้ตบุ๊ก ASUS ExpertBook B9400CBA รุ่นเรือธงของการเปิดตัวในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของรุ่น B9 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับตลาดโน้ตบุ๊กพรีเมียมสำหรับกลุ่มผู้บริหาร โดยเน้นที่ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความบางที่ 1.4 เซนติเมตร เบาเพียง 1 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานได้ถึง 16 ชั่วโมง และสามารถชาร์จจาก 0%-60% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 50 นาที ตอบโจทย์การพกพาอย่างสะดวกสบาย พร้อมกับฮาร์ดแวร์ที่ตอบความต้องการสูงสุด
ในแง่ของการใช้งานโดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัย เริ่มต้นตั้งล็อกอินเข้าใช้งานเครื่องได้ด้วย IR Camera ที่สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแสง และ TPM รองรับเวอร์ชัน 2.0 ที่ต้องเข้ารหัสข้อมูลก่อนบันทึกลงพื้นที่จัดเก็บ กรณีเครื่องหายจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลยังอยู่ และไม่สามารถทำสำเนาออกนอกเครื่องได้
อีกไฮไลต์ของ B9 คือ Proximity Sensor ที่คอยจับการใช้งานที่อยู่ตรงหน้าเครื่อง เพื่อการล็อกอินเข้าใช้งานที่รวดเร็ว หรือการปรับเข้าสู่ Standby Mode ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่อง ทั้งประหยัดพลังงาน และช่วยในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งรองรับการทำงานแบบ Hybrid Working ด้วย AI Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และทำงานร่วมกับ IR Camera เพื่อให้ภาพเห็นชัดในทุกสภาพแสง เพื่อให้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้เป็น Hybrid Working Solution อย่างแท้จริง
ทิศทางในอนาคตของ ASUS ในประเทศไทย
ความต้องการของผู้บริโภคเดินทางไปพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี นี่เองเป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้ ASUS ต้องขยายตัวเพื่อให้รองรับความต้องการของผู้คนในหลากหลายภาคส่วน “ตลาดปัจจุบันอยู่ในส่วนภาครัฐและตลาดการศึกษา ตอนนี้เราก็เลยมีแผนการที่จะขยายตลาดของเราออกไปในส่วนของ SMEs และองค์กร ซึ่งเหมือนกับเป็น Blue Ocean หรือมหาสมุทรที่เราจะต้องก้าวไปถึงให้ได้”
เพราะจุดแข็งของ ASUS เริ่มต้นมาจากการเป็นผู้ผลิตเมนบอร์ด ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาจึงเป็นการเตรียมความพร้อมในส่วนของบริการและโซลูชั่น เพื่อตอบผู้บริโภคในส่วนงานองค์กรซึ่งเป้าหมายในปี 2023 ที่จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10% และถัดไปที่ 15% และ 20% ตามลำดับ “เหล่านี้เราไม่ได้เพียงคาดการณ์ไว้ แต่เราทำงานอย่างหนักเพื่อให้เป้าหมายนี้เป็นจริง”
“ตลอดสองปีครึ่งที่ผ่านมา พวกเราได้เรียนรู้มากมายครับความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าของเราเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับตลาดคอมเมอร์เชียล เราจึงภูมิใจนำเสนอบริการหลังการขาย ทั้ง ASUS Expert Care พร้อมทีมงานคอลเซนเตอร์ที่พร้อมช่วยเหลือท่านทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง, ประกันอุบัติเหตุ (Perfect warranty) 1 ปี, สายด่วน VIP สำหรับลูกค้าองค์กรของเรา สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าแบบครบวงจร ให้ลูกค้าได้โฟกัสกับการทำงานได้เต็มที่ และปล่อยเรื่องการดูแลอุปกรณ์ไอทีให้เป็นหน้าที่ของเรา”
“เราให้คำมั่นว่า ลูกค้า ASUS สามารถอุ่นใจว่าอุปกรณ์ของเราจะทำงานได้อย่างดีที่สุดและพร้อมช่วยการทำงานลูกค้าในองค์กรธุรกิจได้ทุกเมื่อ” คุณ Charles ทิ้งท้าย
เรียนรู้เพิ่มเติม : https://th.asus.click/sTIj6m