ยิ่งกว่าพ.ศ. 2540 ที่เจอต้มยำกุ้ง รอบนี้โดนกันทั้งโลกทุกชนชั้น ชีวิตหลัง COVID-19 ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ไลฟ์สไตล์จากการโดนกักตัวในบ้านกว่า 2 เดือนทำให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม ไม่ว่าจะเทรนด์การใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน, การปลูกต้นไม้ หรือคนหันมาเล่นเซิร์ฟสเก็ตบอร์ดกันทั่วบ้านทั่วเมือง และอีกเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดก็คือ “การบริหารจัดการเงิน”
มาดูกันว่าชีวิตหลัง COVID-19 Gen Y ต้องมีอะไรบ้าง
Gen Y คือผลผลิตของเบบี้บูมเมอร์
คน Gen Y ที่เติบโตมาพร้อมกับความมั่นคงจากคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ได้มอบไว้ให้ไม่ว่าจะบ้านที่รักและรถคันเก่าที่นั่งมาตั้งแต่เด็กจนวัยทำงาน ทำให้ Gen Y ไม่ได้มีเป้าหมายที่ความมั่นคงในชีวิต มีความฝันแบบเดิมที่เรียนจบ ทำงาน แต่งงาน ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่พวกเขาเลือกที่จะเอาเงินไปซื้อประสบการณ์ และความสุขให้ตัวเองก่อน เพราะสภาพเศรษฐกิจ ไม่ได้ทำให้เขาซื้อบ้านได้เหมือนแต่ก่อน
การมีความสุขกับปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการไปถ่ายรูปเก๋ตามคาเฟ่เปิดใหม่ที่ไปครั้งเดียวพอ การซื้อชุดออกกำลังกาย หรือรองเท้าวิ่งจนล้นตู้ หรือว่าการเก็บเงินโดยมีเป้าหมายในการเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ กิจกรรมพวกนี้เป็นการซื้อประสบการณ์ของกลุ่มคน Gen Y ที่เติบโตมากับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่การซื้อบ้านและคอนโดฯ ดูเป็นสิ่งที่จับต้องยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อก็ลองดูราคาค่างวดคอนโดฯ และบ้านในเขตชานเมืองกรุงเทพฯ สิว่าเงินหลักล้านมันคุ้มค่ากับคุณภาพชีวิตที่ได้ไหม นั่นเป็นเหตุผลที่คนรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับความสุขและประสบการณ์ของตัวเองมากกว่าจะมองหาความมั่นคง แต่มันก็มีจุดจบของมันเมื่อทุกคนได้รู้จักกับ COVID-19
Gen Y เปลี่ยนไป เมื่อเจอ COVID-19
COVID-19 ทำให้ทุกคนเห็นว่าความไม่แน่นอนคืออะไร ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในปี 2020 ที่โหดร้ายสุดขีด Gen Y ที่เป็นแรงงานในปัจจุบันเองก็ได้รับผลกระทบเยอะไม่ว่าจะโดนเลย์ออฟ โดนหักเงินเดือน หลายคนต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้หมด
การบริหารเงิน การหารายได้เสริม กลายเป็นเรื่องที่ Gen Y จริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะอบขนม ทำน้ำพริกกากหมู ขายต้นไม้ เทรดหุ้น ซื้อกองทุน ทางไหนที่สามารถเพิ่มเงินในบัญชีได้เอาหมด และทำให้ชีวิตมั่นคงปลอดภัยได้ก็จะทำ
การทำประกันเองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์
นอกจากเงินฝากที่เป็นการออมเงินที่หลายคนมักจะนึกถึงแล้ว ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็เป็นอีกทางเลือกการบริหารเงินที่ให้ความมั่นใจได้มากกว่า เพราะได้ทั้งความคุ้มครองและการออมเงินในรูปแบบของการประกันชีวิต อย่างประกันชีวิต เกนเฟิสต์ 650 (มีเงินปันผล) ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนยุคใหม่และคนที่สนใจหันมาเก็บออมในระยะยาว เพราะเป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่ได้ผลประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับผลตอบแทนคืนทุกปีสูงสุดถึง 5% ของเงินเอาประกันภัย การันตีเงินคืนตลอดอายุสัญญา 650% ของเงินเอาประกันภัย และยังมีโอกาสรับเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญา ทั้งยังชำระเบี้ยระยะสั้นเพียง 6 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 14 ปี
‘มี Gain 1st แล้วดีอย่างไร?’
ให้เห็นภาพง่ายๆ เพราะคนรุ่นใหม่เริ่มมองหาความมั่นคงในชีวิตสไตล์มนุษย์เงินเดือน ถ้าเก็บเงินกับ เกนเฟิสต์ 650 (มีเงินปันผล) วันนี้แค่ 6 ปี เราจะมีประกันชีวิตดูแลถึง 14 ปี จบสัญญาเราก็จะได้รับเงินมาหนึ่งก้อนใหญ่ เช่น ตอนนี้อายุ 30 ปี อีก 14 ปี เรามีเงินก้อนเอาไปทำอย่างอื่น ต่อยอดในสิ่งที่อยากทำต่อไปได้ จะนำไปลงทุน เที่ยว ซื้อของที่อยากได้ หรือนำไปต่อยอดอะไรเพิ่มได้ตอนอายุ 44 เพราะถึงตอนนั้นลูกอาจจะโตจนอยากหาทางส่งไปเรียนต่อต่างประเทศหรือเราไปลงทุนทำธุรกิจเล็กอยู่ต่างจังหวัดก็เข้าท่า
สรุปแล้วนั้น Gen Y อย่างเราในยุคหลัง COVID-19 ต้องวางแผนหาความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น นอกจากสร้างตัวสร้างตนให้อยู่รอดในการทำงานได้แล้ว อาจต้องปรับไลฟ์สไตล์ใหม่ฉลาดในการใช้เงินมากขึ้น การเลือกประกันที่ดี ชีวิตมีแต่ได้ แม้ว่าจะมีวิกฤตการเงินอีกรอบ จะวางแผนทำประกันก็เป็นสิ่งที่ไม่ต้องลังเลใจอีกต่อไป
ประกันชีวิต เกนเฟิสต์ 650 (มีเงินปันผล) มีค่าเบี้ยเท่ากันทุกเพศทุกวัย สมัครไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องตรวจหรือตอบคำถามสุขภาพ สมัครง่ายๆ ได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา รับประกันชีวิตโดยกรุงเทพประกันชีวิต
และสุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนผ่านวิกฤตการเงินที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ให้ได้ทุกคน