ปาโบล ปิกัสโซ่ หนึ่งในศิลปินเลื่องชื่อแห่งศตวรรษที่ 20 เคยกล่าวเอาไว้ว่า “จุดประสงค์ของศิลปะนั้น แท้จริงแล้วก็คือการชำระล้างเศษฝุ่นผงในชีวิตประจำวันออกไปเสียจากจิตวิญญาณของเรา” จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่ในทุกยุคสมัย แม้สภาพสังคมจะเปลี่ยนขึ้นแปรลงอย่างไร แต่ร่องรอยความรุ่งเรืองของศิลปะก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คงอยู่เหนือกาลเวลาตลอดมา
ทว่าแม้งานศิลปะจะมีความผูกพันใกล้ชิดและแทรกซึมอยู่ในทุกจังหวะการดำเนินชีวิตของผู้คนโดยที่พวกเขาอาจรู้ หรือไม่รู้ แต่ในความคิดของคนอีกจำนวนมาก คำว่า ‘ศิลปะ’ นั้นกลับยังคงถูกกรอบด้วยภาพลักษณ์ของงานจิตรกรรม ประติมากรรม หรือชิ้นงานที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แต่เพียงเท่านั้น
ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้วคำนิยามของศิลปะสามารถตีความออกไปได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมไปถึงชิ้นงานต่างๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองทั้งในด้านสุนทรียภาพและประโยชน์ใช้สอย เหมือนดังเช่น ‘Bao Bao’ กระเป๋ายอดฮิตจากแบรนด์ดังแห่งประเทศญี่ปุ่น Issey Miyake ที่ไม่ได้เพียงตอบโจทย์แค่ในแง่ประโยชน์ใช้งาน หรือรสนิยมทางแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงมิติในด้านศิลปะออกมาได้อย่างเด่นชัด
ไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่คืออีกขั้นของศิลปะ
ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 2000 ปีแรกที่กระเป๋า Bao Bao ถูกแนะนำให้โลกรู้จักภายใต้คอลเลคชั่น ‘Pleats Please Issey Miyake’ มัตสึมุระ ฮิคารุ ผู้ให้กำเนิดเจ้ากระเป๋ายอดฮิตตัวนี้ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงแรงบันดาลใจว่าเขาต้องการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการออกแบบ กระเป๋า Bao Bao จึงมีลักษณะที่ประกอบขึ้นจากรูปร่างพื้นฐานอย่างสามเหลี่ยม โดยใช้วัสดุพอลิเมอร์ที่มีความแข็งแรงทนทาน ทว่ายืดหยุ่นสูง ทำให้ตัวกระเป๋ามีน้ำหนักเบา สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างรูปทรงได้อย่างอิสระ ไม่ยับย่น หรือหักง่ายๆ เหมือนกระเป๋าหนังหรือกระเป๋าที่ถูกหลอมเป็นวัสดุเดียวกันทั้งชิ้น จึงง่ายต่อการดูแลรักษา พกพา และหยิบฉวยใช้งานได้ทุกโอกาส
นอกจากนี้ด้วยการเลือกใช้สีที่ดูเรียบง่าย โมเดิร์น ซุกซ่อนลูกเล่นการสะท้อนแสงสีที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละใบ รับกับรูปทรงที่สะท้อนรสนิยมของโลกสมัยใหม่ออกมาได้อย่างไม่ตกยุค จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่ Bao Bao จะสามารถผลิตสินค้าคอลเลคชั่นต่างๆ ออกมาสร้างความฮือฮาได้อยู่ตลอดเวลา แม้จะผ่านไปกว่า 17 ปีแล้ว ทำให้แม้จะจัดอยู่ในหมวดหมู่สินค้าแฟชั่น แต่คุณค่าของ Bao Bao นั้นเรียกได้ว่าเทียบเท่างานศิลปะแห่งยุคสมัยชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่บ่งบอกเรื่องราว
หลายครั้งหลายคราที่งานสร้างสรรค์ชื่อดังหลายชิ้นมักมีต้นกำเนิดมาจากการได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะต้นแบบในอดีต หรือสร้างขึ้นเพื่อแสดงความคารวะให้กับงานใดงานหนึ่ง อาทิ ภาพยนตร์ Inherent Vice (2014) ที่มีฉากหนึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพ The Last Supper ของลีโอนาร์โด ดา วินชี หรือชื่อเพลง Viva la Vida ที่ Coldplay นำมาจากชื่อภาพวาดของ ฟรีดา คาห์โล โดยการหยิบยกเอาแรงบันดาลใจจากงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งมานั้น แน่นอนว่าศิลปินหรือผู้ออกแบบมักไม่ได้เลือกจะหยิบยกมาแต่เพียงลอยๆ หากไม่ได้เป็นไปเพื่อแสดงความคารวะ หรือความชื่นชอบต่อผลงานต้นแบบแล้ว ก็มักจะเป็นไปเพื่อสะท้อนแนวคิดบางสิ่งบางอย่างที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับผลงานนั้นๆ
ซึ่งอีกหนึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Bao Bao ที่หลายคนอาจยังไม่ค่อยรู้ก็คือ ที่มาของแรงบันดาลใจที่ มัตสึมุระ ฮิคารุ ใช้ในการออกแบบกระเป๋านั้น ได้มาจากรูปแบบสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Guggenheim Bilbao ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบิลบาโอ แคว้นบาสก์ ประเทศสเปน และได้รับการออกแบบโดย แฟรงก์ เกห์รี สถาปนิกรางวัลพริตซ์เกอร์ ชาวอเมริกา-แคนาดา ตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วทั้งโลก ให้เป็นหนึ่งในการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญแห่งยุค จึงไม่น่าแปลกใจที่การสร้างสรรค์กระเป๋า Bao Bao จะดำเนินรอยตามจุดมุ่งหมายในการสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการแฟชั่นยุคปัจจุบัน
ไม่ใช่ชิ้นงานในแกลอรี่ แต่คือศิลปะที่สามารถพกติดตัวได้
แม้จะชื่นชอบภาพโมนาลิซ่า แต่ใครเล่าจะสามารถเป็นเจ้าของ แม้จะโปรดปรานรูปปั้นเดวิด แต่ใครเล่าจะสามารถครอบครองเอามาไว้ใกล้ตาได้ นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่เราต่างก็รู้ดีว่างานศิลปะที่แขวงเรียงรายอยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ แม้จะสวยงาม และชุบชูใจเราได้มากแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะสามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้ หรือต่อให้มีเงินถุงเงินถัง สามารถประมูลชิ้นงานเหล่านั้นมาเก็บไว้ในครอบครองได้ แต่ใครกันเล่าจะถือรูปวาดสีน้ำมันติดตัวออกไปชื่นชมนอกบ้าน หรือหิ้วรูปประติมากรรมปั้นออกไปอวดเพื่อนร่วมออฟฟิศ
เช่นนั้นแล้วการมี Bao Bao ใบโปรดไว้ในครอบครอง จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การมีกระเป๋าไว้ใส่ของ แต่ยังเป็นเสมือนการลงทุนไปกับงานศิลปะ ซึ่งไม่เพียงให้คุณค่าในแง่ความสวยงาม หรือประโยชน์ใช้สอยเท่านั้น ทว่ายังช่วยพกพาเอารสนิยมดีๆ ติดตัวเราไปด้วยทุกที่ พร้อมฟังก์ชั่นที่ตอบรับกับทุกจังหวะชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานที่ต้องการกระเป๋าดีไซน์เรียบหรู สามารถแมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลาย, วันท่องเที่ยว ซึ่งต้องการกระเป๋าที่คล่องตัว เปลี่ยนรูปทรงได้ตามโอกาส ไม่หักพับ เป็นรอยได้ง่าย, วันชิลล์ๆ ที่คิดจะพกพากล้องตัวโปรด หรือสมุดวาดภาพเล่มโตออกไปเดินเล่น ก็สามารถบรรจุลงกระเป๋าสุดยืดหยุ่นได้แบบไร้ปัญหา, วันปาร์ตี้ ที่สามารถปลดปล่อยตัวเองได้สุดเหวี่ยง ไม่ต้องห่วงว่ากระเป๋าจะเลอะหรือเป็นรอย เพราะดูแลง่ายแค่ล้างรอยเปื้อนแล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด หรือกระทั่งเป็นกระเป๋าคู่ใจในวันที่เราอยากไปเดินชมงานศิลปะจริงๆ ในแกลอรีก็ตาม
มาสัมผัสกับงานศิลปะของแท้ที่จะติดตัวคุณไปทุกที่ได้แล้วที่ #BAOBAOANYWHERE Let’s go anywhere bag!
LINE : @baobaoanywhere
FB : facebook.com/baobaoanywhere
IG : instagram.com/baobaoanywhere
Shop : baobaoanywhere.com