ย้อนกลับไปเป็นเด็ก สมัยที่เรายังไม่คิดว่าการเรียนเป็นเรื่องสำคัญเสียเท่าไหร่ ตอนที่คิดว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันหมด พอโตมาแล้วจึงเข้าใจว่าการเริ่มต้น มีพื้นฐานดีตั้งแต่ยังเล็ก ช่วยให้ชีวิตของเราเติบโตไปได้เร็วและไกลกว่าเดิม
อย่างวันนี้ ที่ใครวางแผนจะมีครอบครัวก็หวังอยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนดีๆ ที่ทำให้ลูกเติบโตเรียนรู้ในโรงเรียนที่มีคุณภาพ อย่างโรงเรียน BASIS International School Bangkok ที่มีจุดเด่น 8 เรื่อง น่าดึงดูด ให้ย้อนกลับไปเป็นนักเรียน สมัยวัยเด็กอีกครั้ง
ระบบการเรียนการสอนแบบครู 2 คนและการคัดเลือกบุคลากร
การมีครูสอน 2 คน ย่อมดีกว่า 1 คนอยู่แล้ว เพราะทำให้ครูได้สอนนักเรียนอย่างทั่วถึง แต่ถ้าเพียงแค่นี้อาจไม่ได้พิเศษกว่าโรงเรียนอื่น ที่เบซิสการคัดเลือกครูแต่ละคนมีขั้นตอนการเลือกที่พิเศษและซับซ้อนกว่า เพื่อให้ได้ครูที่เหมาะกับโรงเรียนมากที่สุด
จากจำนวนใบสมัครหลายพันใบ คัดเหลือแค่ 1% โดยครูของเบซิสที่รับเข้ามา เป็นครูที่รักการสอนและมีความเชื่อว่านักเรียนทุกคนจะประสบความสำเร็จได้หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน
โดยการคัดเลือกครูนั้น สำนักงานใหญ่ของเบซิสในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้คัดกรองในขั้นแรก แล้วจะส่งมาให้อาจารย์ใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ย้ายมาจากโรงเรียนเบซิสที่สหรัฐฯ คัดเลือกอีกครั้ง และสุดท้ายจะย้อนกลับไปที่ CEO ในสหรัฐฯ เป็นผู้ตัดสินใจ โดยเบซิสจะคัดสรรครูที่มีความรู้เฉพาะทางและมีเทคนิคในการวางแผนการสอน ที่ทำให้ทุกคนสนใจ สนุก ซึ่งเบซิสมีระบบสนับสนุนการ Training การสอนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสอนของครูกับเครือข่ายครูอาจารย์อีก 38 โรงเรียนทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับและสอดคล้องกับระบบการเรียนการสอนแบบใช้ครู 2 คนในห้องเรียน ซึ่งเป็นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเบซิสเท่านั้น
โดยนักเรียนระดับเกรด 1 เป็นต้นไป จะได้เรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาเฉพาะด้าน (SET: Subject Expert Teacher) ซึ่งเป็นครูต่างชาติที่มีวุฒิการศึกษาเฉพาะทาง เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ พลศึกษา ศิลปศาสตร์ (เช่น จบดุริยางคศิลป์) และสำหรับภาษาศาสตร์จะต้องเป็นเจ้าของภาษาเท่านั้น (ไทย อังกฤษ จีนกลาง) โดยกว่า 90% เป็นครูที่มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทขึ้นไป และยังมีครูผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการเรียนรู้ซึ่งเป็นครูต่างชาติคนที่ 2 ที่อยู่ในห้องเรียนตลอดวัน (LET : Learning Expert Teacher) โดยครู LET จะมีส่วนร่วมในการสอนร่วมกับครู SET ในชั้นเรียนระดับเกรด 1 ถึง 4 เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียนเกิดการเรียนรู้และเข้าใจในรายวิชาเรียนมากที่สุด นอกจากนี้แล้วครู LET ยังเป็นผู้สอน Connection class เพื่อสอนให้นักเรียนรู้จักการนำความรู้จากหลายวิชามาประยุกต์ใช้ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น โครงงานที่เชื่อมโยงวิชา ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และคณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อให้นักเรียนสามารถนำเอาสิ่งที่เรียนไปใช้แก้ไขปัญหาโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ ที่ต้องเล่ายาวและละเอียดแบบนี้เพราะถ้าบอกสั้นๆ ก็จะไม่เข้าใจความพิเศษของการเรียนการสอนที่นี่ เอาจริงๆ แค่เรื่องนี้ก็ทำให้เราอยากกลับไปเรียนแล้ว
หลักสูตรเน้นแนวทางการศึกษารอบด้าน
ที่เบซิสหลักสูตรถูกออกแบบมาอย่างครบวงจรและรอบด้าน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนไปถึงเป้าหมายในอนาคตโดยไม่ได้เฉพาะวิชาด้าน STEM เท่านั้น ยังมีการบูรณาการวิชาอื่นๆ ร้อยเรียงอย่างลงตัวให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ผ่านกิจกรรมภายในและนอกห้องเรียน ให้นักเรียนเข้าใจถึงวิชานั้นจริงๆ และยังมีกิจกรรมที่กระตุ้นเรื่องการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบ และการมีจิตสาธารณะ
นอกจากนี้ ยังผสานการเรียนการสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงเกรด 12 เพื่อให้นักเรียนสามารถสื่อสารภาษาไทยและมีความเข้าใจในวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี โดยเบซิสสร้างเรือนไทยทองสิมาวิชชาลัย ที่ออกแบบโดย อาจารย์ตั้น ณัฐกฤต สุนทรีรัตน์ เพื่อสืบทอดเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยให้กับนักเรียน และเป็น Learning Space เพื่อการเรียน การสอนวิชาภาษาไทย จัดกิจกรรมตามประเพณีต่างๆ ของไทย โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนได้เข้าใจในวัฒนธรรมไทยและมีความสามารถในการใช้ภาษาไทย ควบคู่ไปกับการเรียนในระดับสากล
สอนเด็กให้วิเคราะห์เป็นและมี Critical thinking
แค่มีความรู้อย่างเดียวคงไม่พอแต่ต้องมีวิธีคิดวิเคราะห์ เป็นสิ่งที่สำคัญที่เด็กหลายคนขาดไปจนทำให้ยากต่อการสอบแข่งขันในระดับนานาชาติ
ระบบการสอนของโรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ รองรับการสอบเตรียมความพร้อมก่อนอุดมศึกษา หรือ Advanced Placement (AP) ที่มีเนื้อหาความลึกและความหลากหลายถึง 38 วิชา แต่ยังคงมีทางเลือกและความยืดหยุ่น ให้นักเรียนแต่ละคน จึงทำให้นักเรียนที่จบจากที่นี่มีความโดดเด่น เมื่อสมัครเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมทั้งยังเน้นเสริมสร้างการเรียนรู้ให้สมบูรณ์ ด้วย Connections Class โดยนักเรียนจะได้ฝึกวิเคราะห์ปัญหาให้ถูกจุด วิธีการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ผ่านความท้าทายที่ซับซ้อน เพื่อพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ ผ่านรูปแบบของการสื่อสาร ทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งต้องเชื่อมโยงความเข้าใจในวิชาต่างๆ ที่เรียนมาทั้งหมด และครูที่นี่ก็ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียนซึ่งส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และความพยายามหาวิธีการใหม่อย่างสอดคล้อง ทำให้นักเรียนเป็นคนที่มีคุณภาพและไปถึงเป้าหมายของเขา
“Black Box Theater” โรงละครแห่งความสร้างสรรค์
เราอาจเห็นการแสดงละครเวทีของนักเรียนแต่ในหนัง ในการ์ตูนจนชินตา แต่ในโรงเรียนทั่วไปของไทยเองไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ ที่โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ มีโรงละครของตัวเองที่ให้เด็กได้แสดงออก ทำงานด้วยกันและใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังบนเวทีแบล็กบ็อกซ์ มีฟังก์ชัน Tension Grid ออกแบบเพดานด้านบน ที่ขึ้นไปเรียนรู้การจัดแสงไฟบนเวที
โรงละครแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหลายรูปแบบของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นเวทีตรงกลางแล้วรายล้อมไปด้วยผู้ชม หรือจะเปลี่ยนเป็นรันเวย์ เพื่อให้ผู้ชมนั่งขนาบสองข้างของเวทีเป็นงานแฟชั่นโชว์ก็ทำได้ ที่ออกแบบมาพร้อมแบบนี้ก็เพื่อรองรับความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนในทุกมิติ
อ่านข้อนี้แล้วอยากจะลองแคสติ้งไปแสดงโรมิโอแอนด์จูเลียต หรือได้แค่ทำพร็อพก็ยังดีอย่างน้อยก็จะช่วยให้มีความทรงจำดีๆ กับเพื่อนมากขึ้น
Eco-friendly Concept ไม่ได้แค่รู้แต่ต้องรักษ์
ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่พื้นที่สีเขียวน้อยลงไปทุกวันๆ แต่ที่แห่งนี้ได้สร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อให้นักเรียนมีความสุขและผ่อนคลายจากธรรมชาติและต้นไม้ เพื่อสร้างสมดุลทั้งทางกายและใจให้เป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ จึงออกแบบอาคารและพื้นที่ในโรงเรียนแบบ Eco-friendly เช่น
- ระบบปรับอากาศ Pre-cooled fresh air ที่ดึงอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่พื้นที่ภายในของอาคาร
- สระว่ายน้ำในร่มระบบน้ำเกลือ ที่มีการนำความร้อนเหลือทิ้งจากระบบปรับอากาศ มาทำให้ให้สระว่ายน้ำอุ่นขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า
- ระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบหมุนเวียนน้ำ ซึ่งทำให้น้ำใช้แล้วทุกๆ หยด สามารถนำไปใช้ในสวนพืชพรรณได้
- ผิวอาคารที่ช่วยปกป้องความร้อน ประกอบด้วย ฉนวนสามชั้น และผนังที่มีความหนาพิเศษ หลังคา ฝ้าเพดานทั้งหมดมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อน ตลอดจนวัสดุการก่อสร้าง และสี ที่มีความปลอดภัยสูง และหลีกเลี่ยงวัสดุที่มีสารเคมีตกค้าง
- จัดให้ที่จอดรถอยู่ชั้นใต้ดิน เพิ่มพื้นที่สีเขียว และที่จอดรถยังมีเครื่องตรวจวัดแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งจะระบายอากาศเสียออกอัตโนมัติระบบไฟ LED ติดตั้งเซ็นเซอร์เปิด-ปิด อัตโนมัติ ตามการเคลื่อนไหว หรือตามเวลาและสภาพแสงของวัน
- ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติที่สามารถปรับลดปริมาณน้ำได้อัตโนมัติเมื่อมีความชื้นสูง
ซึ่งรายละเอียดพวกนี้นอกจากจะทำให้เด็กมีสุขภาพกายและใจที่ดีแล้ว ยังเป็นตัวอย่างในการออกแบบเพื่อโลกที่สามารถนำมาเรียนรู้ได้และทำได้จริง
อาคารปลอดฝุ่น เรียนแล้วปลอดโปร่ง
จากข้อที่แล้วที่โรงเรียนออกแบบมาอย่างดีแบบ Eco-friendly ที่ใช้ระบบปรับอากาศแบบเติมอากาศเย็นในโรงเรียน นวัตกรรมนี้นอกจากจะทำให้อากาศเย็นสบายแล้ว ยังสามารถลด PM2.5 ได้มากกว่า 90% เป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ระบบนี้แบบเต็มพื้นที่ โดยสามารถแลกเปลี่ยนอากาศ 3-5 รอบต่อชั่วโมงในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะห้องเรียน โรงอาหาร ทางเดินและห้องน้ำนอกจากนี้ยังใส่ระบบกรองอากาศด้วยแผ่นกรองอากาศ รุ่น MERV 13 ซึ่งสามารถกรอง PM10 และ PM2.5 พร้อมทั้งสามารถกรองอนุภาคฝุ่นที่มีขนาด 1-3 ไมครอนได้ดี ซึ่งผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้ว่านักเรียนทุกคนจะปลอดภัยและมีอากาศบริสุทธิ์ภายในอาคารเรียนตลอดวัน
โปรเจกต์ก่อนจบที่นักเรียนทุกคนต้องทำ
สำหรับงานวิจัยเด็กมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายคงรู้จักกันดีว่ามันสำคัญแค่ไหน ถ้าไม่ทำก็ไม่จบ ที่นี่ก็เช่นกันพวกเขาต้องทำโปรเจกต์จบที่เรียกว่า The Senior Project ที่ให้อิสระกับนักเรียนว่าต้องการจะทำโปรเจกต์อะไร ไม่ว่าจะงานวิจัย ฝึกงาน ที่นักเรียนจะได้ไปถึงสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัย หรือจะลงพื้นที่ภาคสนามจริงในต่างประเทศ ตามที่นักเรียนสนใจโดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ
ก่อนที่จะจบปี นักเรียนจะกลับไปที่โรงเรียนและนำเสนอการวิเคราะห์ผลการวิจัยของพวกเขากับครูใหญ่ ครูท่านอื่นๆ ในโรงเรียน เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองและเพื่อนๆ
The Senior Project จึงเป็นโครงการการศึกษาความรู้เฉพาะเรื่องก่อนสำเร็จการศึกษาที่สามารถนำไปต่อยอดในการเลือกคณะ หรือสาขาที่สนใจ เพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย พอมาถึงตรงนี้แล้วก็นึกย้อนไปสมัยเรียนที่กว่าจะรู้จักตัวเองจริงๆ ว่าชอบอะไรก็เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว การที่เด็กได้เรียนรู้จากของจริง คนทำงานจริงๆ ทำให้เขารู้จักตัวเองก่อนที่จะต่อยอดไปอนาคตได้
หลักสูตรอเมริกันที่ได้รับการรับรองถึง 3 หน่วยงาน
เรื่องเล่าสุดท้ายที่เป็นสิ่งสำคัญ ที่พ่อแม่หลายคนมองหาคือมาตรฐานหลักสูตรของโรงเรียนว่าได้รับการการันตีอย่างไรบ้าง ที่นี่ได้รับมาตรฐานหลักสูตรจากสหรัฐอเมริกา โดย Cognia (ชื่อเดิม AdvancEd) ซึ่งเป็นหน่วยงานรับรองคุณภาพการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียน และนักเรียน แบบองค์รวม
ที่มีสมาชิกมากกว่า 36,000 โรงเรียนจาก 85 ประเทศ สถาบัน Cognia ไม่เพียงแต่รับรองคุณภาพมาตรฐานของโรงเรียนว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้เท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของโรงเรียนการเรียนการสอนอย่างไม่หยุดยั้งด้วย
นอกจากนี้สถาบัน Cognia ควบรวมสถาบันรับรองคุณภาพโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาอีก 3 หน่วยงาน ได้แก่ North Central Association Commission on Accreditation and School Improvement (NCA CASI) Northwest Accreditation Commission (NWAC) และ Southern Association of Colleges and Schools Council on Accreditation and School Improvement (SACS CASI) และโรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ ก็ผ่านการรับรองคุณภาพจากทั้ง 3 หน่วยงาน ที่ทำให้มั่นใจถึงคุณภาพของหลักสูตรได้
เรื่องเล่าทั้ง 8 เรื่องของโรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ ทำให้เราย้อนนึกไปถึงอดีตสมัยเรียนที่แม้จะไม่ได้เรียนในโรงเรียนดีๆ แบบนี้ แต่ถ้ามีโอกาสได้เรียนก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีกับอนาคตเราแน่ๆ เพราะที่นี่ไม่ได้ทำให้แค่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่สอนให้เด็กรู้จักตัวเอง รู้จักคิดวิเคราะห์ และได้รับทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่จะติดตัวเขาไปตลอด ถ้าเรากลับกลายเป็นเด็กอีกครั้งได้ก็คงดีไม่น้อย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมและนัดเยี่ ยมชมได้ที่ www.basis.ac.th และ www.facebook.com/basisintbkk