สีผิว เชื้อชาติ เพศ อายุ ความเชื่อ อาชีพ ไม่ว่าโลกนี้จะมีความแตกต่างหลากหลายมากมายแค่ไหน แต่ทุกความแตกต่างคือความสวยงามเสมอ
แน่นอนว่าปัจจุบันเราตระหนักถึงการมีอยู่ของความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งความแตกต่างหลากหลายนี่เองที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย เพราะความแตกต่างเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกมีพลังอันสร้างสรรค์ ทำให้เราค้นเจอไอเดียใหม่ๆ นวัตกรรมเจ๋งๆ หรือนำพาให้เราไปเจอทางออกของปัญหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้าหากนี่คือยุคของความหลากหลาย The MATTER ขอยกตัวอย่างความแตกต่างที่เกิดขึ้นเพื่อสะท้อนภาพของสังคมในทุกมิติ แต่ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะเต็มไปด้วยความหลากหลายมากเพียงไร ยังมีเรื่องเล็กๆ อยู่เรื่องหนึ่งที่เราทุกคนต้องการอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน… นั่นคือเลือกทานอาหารที่มีคุณภาพดี
ความหลากหลายนำไปสู่ชีวิตที่ดี
โลกของเราตระหนักเรื่องความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมมากขึ้น หากโฟกัสลงมาเพียงแค่ในสังคมไทย เรามักเห็นการพูดคุยถึงประเด็นความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีผิว เชื้อชาติ เพศ อายุ ความเชื่อ หรืออาชีพมากขึ้น โดยเฉพาะในโลกสังคมออนไลน์ สิ่งนี่แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยเองกำลังให้ความสำคัญและกำลังตื่นตัวกับเรื่องนี้เฉกเช่นเดียวกับคนทั่วโลก
แล้วความหลากหลาย..นี่มันสำคัญยังไง?
ความแตกต่างหลากหลายไม่ใช่ความแปลกแยก ความแตกต่างหลากหลายไม่ใช่แค่เรื่อง เชื้อชาติ ศาสนา ศีลธรรม สิทธิมนุษยชน เพศ ความเชื่อต่างๆ แต่นี่คือประตูนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ที่เกิดจากมุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่างของแต่ละคน ตามมาด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่หรือสินค้าสุดเจ๋ง (Productivity)
ความแตกต่างของเชื้อชาติ คือ ความแตกต่างที่กลมเกลียว
ด้วยในปัจจุบันโลกใบนี้จะเล็กลงจนเราสามารถติดต่อสื่อสารกันหรือรับรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนอีกซีกโลกอย่างง่ายดาย ผ่านเทคโนโลยีอันทันสมัย โดยเฉพาะในยุคออนไลน์ที่เปิดพื้นที่ให้คนต่างชาติพันธุ์กันมามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน และสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองทางวัฒนธรรมได้อย่างรวดเร็วกว่าอดีต
เมื่อโลกไร้พรมแดนขนาดนี้แล้ว การโอบรับความการหลากหลายและการไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความต่างทางเชื้อชาติ กายภาพ เผ่าพันธุ์ สีผิว ภาษา เพศ อายุ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้โลกเท่าเทียมและน่าอยู่มากขึ้น ท้ายที่สุดโลกจะเกิดสันติสุข เกิดการยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกันภายใต้ความหลากหลายด้านเชื้อชาติ (Multiracial Principles)
อายุเป็นเพียงแค่สายลมผ่านพัดไป เธออย่าคิดมากได้ไหม?
ใครว่าอายุมากขึ้นทำได้แค่อยู่บ้านเฉยๆ หรือรอให้ลูกหลานเลี้ยง ไม่จริงเสมอไป แม้ความต่างทางอายุจะทำให้เราคิดว่าผู้สูงวัยมีความสามารถไม่เทียบเท่ากับคนในช่วงวัยอื่นๆ แต่งานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับผู้สูงวัยในปี 2017-2018 และถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ The Journals of Gerontology ระบุว่าผู้สูงวัยในประเทศฟินแลนด์มีความสามารถทางร่างกายและการคิดวิเคราะห์ในหลายๆ ด้าน สูงกว่าผู้สูงวัยเมื่อ 28 ปีที่แล้ว!
ผลการวิจัยที่สะท้อนถึงความเข้าใจเกี่ยวกับผู้สูงวัยในโลกปัจจุบันว่ามีความ ‘เยาว์วัยลง’ กว่าในอดีต โดยเฉพาะในแง่ขององค์กร การมีความหลากหลายทางอายุนั่นอาจช่วยส่งผลให้องค์กรยืนหยัดในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น เพราะประสบการณ์และชั่วโมงบินในการทำงาน อาจก่อให้เกิดมุมมองที่แตกต่างจนพัฒนากลายเป็นความสนุกหรือมีไอเดียเจ๋งๆ ก็เป็นได้
ดังนั้นในยุคที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ ความแตกต่างหลากหลายทางอายุ (Age Diversity) จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญและถูกพูดถึงอย่างมาก และเราไม่อาจใช้ ‘อายุ’ เป็นเกณฑ์ตัดสินว่าบุคคลนั้นควรทำหรือไม่ทำอะไรอีกต่อไป เพราะอายุอาจเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ เหมือนดั่งประโยคสุดคลาสสิกที่เคยกล่าวไว้ ที่สำคัญเรากำลังอยู่ยุคของความแตกต่างหลากหลายแล้วนะ!
ทุกตัวตนมีความหมาย บนโลกแห่งความหลากหลายทางเพศ
ความหลากหลายทางเพศไม่ใช่หัวข้อใหม่ที่เพิ่งถูกพูดถึงในศตวรรษนี้ เพราะปัจจุบันเรื่องเพศมีความหลากหลาย ลื่นไหล และเปิดกว้างเป็นอย่างมาก
ข้อมูลในปี 2019 จาก LGBT Capital บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินที่ให้บริการกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะได้ทำการสำรวจและศึกษาประชากรกลุ่ม LGBT ระบุว่าจำนวนประชากร LGBT ทั่วโลกมีทั้งหมดประมาณ 371 ล้านคน
ในขณะที่ประเทศไทยนั่นพบว่ามีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่อายุมากกว่า 15 ปี เป็นลำดับที่ 7 ของเอเชีย โดยมีจำนวนประมาณ 3.6 ล้านคน หรือมีสัดส่วนราว 5% ของประชากรไทย สิ่งนี้สะท้อนว่าโลกในปัจจุบันเราทุกคนสามารถเปิดเผยความเป็นตัวตนได้มากขึ้น และประตูแห่งความหลากหลายกำลังค่อยๆ เปิดกว้าง ไปจนถึงการเรียกร้องถึงสิทธิเพื่อความเท่าเทียม โดยไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ตาม
เมื่อโลกหลากหลาย ทุกอาชีพก็มีความหมายทันที
เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ก่อให้เกิดอาชีพใหม่ๆ มากมาย จนเป็นที่ต้องการในหลายภาคธุรกิจ
แต่ไม่ว่าอาชีพไหนต่างก็มีหน้าที่ในการบริหารจัดการและมีความรับผิดชอบในสถานะที่ต่างกันขึ้นอยู่เฉพาะกับบทบาทของแต่ละคน ความหลากหลายทลายกรอบและค่านิยามเดิมๆ ที่เคยถูกวางเอาไว้และยึดใช้กันมานาน ปัจจุบันจึงเราไม่อาจใช้เกณฑ์ใดๆ เป็นตัวตัดสินว่าใครควรหรือไม่ควรทำงานอะไรอีกต่อไปแล้ว อาชีพในฝันของเด็กยุคใหม่แปรเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ มุมมองใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ช่วยเพิ่มการมองเห็นโอกาสในการหยิบความชอบมาทำเป็นอาชีพที่ใช่ โดยไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวที่ใช้ชี้วัดว่าอาชีพใดดีกว่า สำคัญกว่า หรือใช้มันตัดสินสถานะทางสังคมของกันและกัน
ความสนใจที่ต่างกัน ช่วยจุดประกายความสร้างสรรค์ได้!
หลายคนเคยคิดว่าโลกจะสงบสุขได้ ก็ต่อเมื่อทุกคนคิดเหมือนกัน แต่เมื่อโตขึ้นพบว่าไม่จริงเสมอไป
บางคนชอบฟังเพลงแนวร็อค บางคนชอบแต่งตัวสีสันสดใส บางคนชอบทานอาหารรสจัดจ้าน ทั้งหมดเป็นความต่างเฉพาะตัวที่บ่งบอกว่าเราเป็นใคร เราสนใจอะไร และเราพึงพอใจแบบไหนยกตัวอย่างง่ายๆ แม้เรากับคนรักหรือเพื่อนซี้มีความชอบที่ต่างกัน แต่ทำไมเราถึงอยู่ด้วยกันได้? นั่นเป็นเพราะการเคารพและประนีประนอมซึ่งกันและกัน เพียงแค่นี้ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ลงตัวมากขึ้น แม้เราจะมีความสนใจไม่เหมือนกันก็ตาม
ดังนั้นความแตกต่างทางด้านความสนใจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งแนวเพลง แฟชั่น งานดิเรก รสชาติอาหาร จะเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะพัฒนาสังคมเราให้มีความน่าอยู่ ก่อให้เกิดเป็นพลังสร้างสรรค์ ลองคิดดูว่า..ถ้าโลกนี้มีแต่ผู้คนที่คิดและชื่นชอบเหมือนกันไปหมด โลกอาจจะไม่สนุกก็ได้นะ
ความเข้าใจเท่านั้นที่ทำให้เราเดินหน้ากันต่อ
โลกใบนี้เต็มไปด้วยความแตกต่างและหลากหลาย สิ่งที่จำเป็นที่สุดเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมคือ ‘ความเข้าใจ’
จิตวิทยาเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ (Human Behaviour) บอกไว้ว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจ มีความรู้สึก จึงทำให้มนุษย์แสดงความคิดและกริยาที่ต่างกันออกไปเมื่อต้องเผชิญต่อสิ่งเร้าต่างๆ ยิ่งเราทุกคนเกิดมาจากต่างครอบครัว ต่างความเชื่อ ต่างวิถีชีวิต เราจึงมีความสลับซับซ้อนเกินกว่าจะนำประสบการณ์ของเราไปตัดสินผู้อื่นได้
หากบอกว่าความแตกต่างคือความงดงาม การเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันน่าเป็นทางออกที่สวยงามที่สุด เพื่อให้เราทุกคนเดินหน้าไปด้วยกันต่อ ซึ่งเหล่ามนุษย์มี Empathy หรือความเข้าใจคนอื่นถึงความคิด อารมณ์ หรือความรู้สึกของอีกฝ่ายโดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจะนำพาโลกไปสู่การพัฒนาและสร้างเรื่องราวดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อไป
Betagro พร้อมซัพพอร์ตทุกความต่าง
หัวใจที่เรายึดถือ คือ ‘ความแตกต่างจะขับเคลื่อนให้เราไปสู่คุณภาพ’ เมื่อสังคมไทยเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งเรื่องเชื้อชาติ เพศ อายุ ไลฟ์สไตล์ หรือเรื่องเล็กๆ อย่างรสชาติอาหาร แล้วเหตุใดเล่าเราจึงจะไม่โอบรับความหลากหลายนี้เอาไว้? เพราะไม่ว่าเราจะต่างกันอย่างไร เราเชื่อเสมอว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการคืออาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย
นี่จึงเป็นที่มาของแคมเปญ ‘Connect all the differences with Betagro quality ชีวิตแตกต่าง แต่เรื่องอาหารวางใจมาตรฐานเบทาโกร’ เพราะไม่ว่าคุณจะชื่นชอบแนวเพลงแบบไหน อายุเท่าไร ชอบแต่งตัวจัดจ้านหรือไม่ ประกอบอาชีพอะไร สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้แน่นอน คือ ‘มาตรฐานที่เท่าเทียมในทุกผลิตภัณฑ์’ ที่เราตั้งใจส่งถึงมือผู้บริโภคทุกคน โดยไม่สนว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม
เบทาโกร Smart food, Good life : ใส่ใจเพื่อชีวิตที่ดีด้วย มาตรฐาน BQM (Betagro Quality Management)
นับเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่เบทาโกรใส่ใจทุกกระบวนการผลิต เพื่อส่งออกอาหารที่มีคุณภาพดีไปถึงมือทุกคนในสังคมไทย
ในวันที่โลกยุคใหม่ทุกคนสามารถที่จะแตกต่างและหลากหลายเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น เบทาโกรยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอาหารคุณภาพให้กับทุกคนมั่นใจ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Smart food, Good life’ ด้วยมาตรฐาน Betagro Quality Management (BQM) ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารตลอดทุกวัน 24/7 โดยทำงานตรวจสอบ ติดตาม และควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานอาหารระดับสากล ภายใต้ 5 องค์กรกอบหลัก ดังนี้
● ความปลอดภัยด้านอาหาร
● คุณภาพอาหาร
● สวัสดิภาพสัตว์
● บริการที่ดี
● ความรับผิดชอบต่อสังคม
ดังนั้นไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมีความชอบแบบไหนก็ตาม สามารถมั่นใจไร้กังวลได้ทุกวัน ทุกเวลา
เบทาโกรเชื่อว่าอาหารที่ดี ปลอดภัย ไม่เพียงแต่ทำให้คุณสุขภาพดีแข็งแรง แต่มันยังสามารถเชื่อมทุกคนให้เข้าหากันผ่านรสชาติแสนอร่อยและเชื่อมทุกความแตกต่างผ่านมื้ออาหารคุณภาพได้ด้วยมาตรฐานเดียวที่ไม่ต่างกันแน่นอน
Content by Rachaneekorn Sriphawattana
Illustration by Yanin Jomwong
อ้างอิงข้อมูลจาก