วันนี้เราจะพามารู้จักกับ Bitazza แพลตฟอร์มของคนไทยที่เพิ่งเปิดตัว Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0 ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวการออกแบบโครงสร้างของระบบเศรษฐศาสตร์ของเหรียญ เพื่อช่วยลดความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมไปกับการสร้างความยั่งยืนของระบบนิเวศ ด้วยการพัฒนาให้เกิดการใช้งานได้จริง
บล็อคเชน เทคโนโลยีที่ช่วยให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
อย่างที่เรารู้กันดีว่า เทคโนโลยีบล็อคเชนนั้นถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ได้มากกว่าการเงินในรูปแบบที่ต้องพึ่งตัวกลางแบบดั้งเดิม
ด้วยเงื่อนไขการทำธุรกรรมที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ รวดเร็วกว่า แถมค่าธรรมเนียมยังถูกกว่ามาก
ทำให้หลายคนและองค์กรหลายแห่งในโลกสนใจ หันมาลงทุนและพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีนี้ให้มีการใช้งานในวงรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เพราะบล็อกเชนไม่ได้เป็นเพียงเหรียญคริปโตและการซื้อขายเพื่อกำไรเท่านั้น แต่สามารถต่อยอดไปได้อีกมาก
ซึ่งนี่ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ Bitazza ทำการศึกษาและค้นคว้าวิธีการสร้างระบบนิเวศที่มุ่งเน้นไปที่การใช้งานจริง และมีเสถียรภาพสูง
เพื่อที่จะสร้างระบบนิเวศการเงินแห่งอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมา ด้วยเป้าหมายที่จะส่งเสริมอิสรภาพทางการเงินให้แก่ผู้คนไปทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีบล็อคเชนนั่นเอง
แล้ว Bitazza คือใคร ?
ต้องบอกว่า Bitazza นั้นคือหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และบริการทางการเงินผ่านเทคโนโลยีบล็อคเชน ของประเทศไทย
ที่ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว อีกทั้งยังมีอัตราการเติบโตในการใช้งานแบบก้าวกระโดดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยวอลุ่มการซื้อขายในแพลตฟอร์มนั้นอยู่ระหว่างหลักพันล้านหรือหลักหมื่นล้านบาทต่อวัน และมีผู้เปิดบัญชีบนแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 800,000 บัญชี
เสถียรภาพและระบบนิเวศที่ยั่งยืน คือหัวใจสำคัญของ Bitazza
เพื่อที่จะสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ยั่งยืนนั้น ทางทีมงานของ Bitazza ได้วิเคราะห์กรณีศึกษาและข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม เพื่อนำกลับมาพัฒนาระบบนิเวศของตนเอง
ด้วยการใช้ 2 โทเคนหลักอย่าง “BTZ” และ “USDF” โดย Freedomverse ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบเศรษฐกิจที่มีทั้งการใช้งานเพื่อสินค้าและบริการ และการนำกลับมาแจกจ่าย ควบคู่ไปกับกลไกที่สร้างประโยชน์ในระยะยาว
ซึ่งเหรียญ “USDF” นั้นจะเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ถูกคงมูลค่าด้วยเงินเฟียต (Fiat) แบบ 100%
โดยที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกนำเงินสดหรือสเตเบิลคอยน์ ในสกุลเงินที่ได้รับการคัดเลือกจาก Bitazza Global มาแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงิน USDF ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างจากการค้ำประกันด้วยเงินจริงๆ
ตัวอย่างเช่น การฝากเงินสกุล BUSD หรือ USDC เข้าบัญชีดูแลผลประโยชน์ (Escrow Account) ผ่านตัว Freedomverse เพื่อที่จะแลกเป็น USDF
ซึ่งนี่ทำให้ USDF เป็นเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่มีการควบคุมมูลค่าอ้างอิง โดยการมีหลักทรัพย์ค้ำประกันตัวมันเอง เพื่อป้องกันการเกิดความผันผวน
จากนั้น เราก็จะสามารถนำตัว USDF นี้ไปใช้งานผ่านทางผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Freedomverse เช่นใช้เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการ หรือรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ผ่านทาง Freedom Wallet
ส่วนเหรียญ “BTZ” นั้น เป็น Utility Token ของแพลตฟอร์ม Bitazza ที่จะช่วยให้ผู้ถือเหรียญและผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย ด้วยการสะสมเพื่อไต่ระดับ Bitazza Levels รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ เช่น ได้เข้าร่วมงานพบปะพูดคุยเรื่อง ไวท์เปเปอร์ 2.0 กับทีมผู้บริหารอย่างใกล้ชิด ได้รับสิทธิ์ท่องโลก Metaverse ที่ Bitazza VIP Virturl Branch แพลตฟอร์มคริปโตบนโลกเสมือนจริงสาขาแรกของเอเชีย
นอกจากสิทธิพิเศษแล้ว ยังมีการวางสเตกฝาก BTZ ไว้กับแพลตฟอร์มเพื่อรับผลตอบแทน โดยในแคมเปญแรก Bitazzaให้ APY สูงถึง 40%
บัตร Freedom Card ที่ทาง Bitazza ได้จับมือกับผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลกอย่าง Visa เพื่อเป็นช่องทางการชำระเงินที่เข้าถึงได้ทั่วโลก และ Freedom Wallet ที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการผ่านร้านค้าและธุรกิจชั้นนำ โดยมี BTZ เป็นพลังงานไหลเวียนทั่วทั้งระบบนิเวศ
ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่บริการในระยะเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายโครงการที่น่าสนใจอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาและเตรียมจะเปิดตัวในอนาคต
นอกจากนี้แล้ว ทางแพลตฟอร์มยังมีแผนที่จะจัดตั้งองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ หรือ “DAO” เพื่อให้ผู้ที่ถือเหรียญ BTZ มีสิทธิ์ในกำหนดทิศทางการบริหารและกลยุทธ์ธุรกิจของแพลตฟอร์มอีกด้วย
โดยกลไกของเหรียญ BTZ ตัวนี้ ถือว่าน่าสนใจตรงที่ว่า แทนที่จะมีระบบในการรับซื้อคืนเพื่อมาเบิร์นหรือการเผาทำลายเหรียญแบบหลายๆ แพลตฟอร์ม
ทางทีมงาน Bitazza เลือกที่จะสร้างความต้องการที่แท้จริง โดยการใช้รายได้ส่วนหนึ่งซื้อเหรียญคืนแล้วนำไปสร้างประโยชน์ต่อ แทนการเผาทำลายเหรียญ
ด้วยการนำมาจ่ายในการสนับสนุนให้แก่ผู้ที่สร้างและทำประโยชน์ให้กับระบบนิเวศ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนกว่า
ทำให้ในระยะยาวนั้น ตัวเหรียญ BTZ จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่มาช่วยในการคงความต้องการให้กับ USDF ผ่านการใช้งานในระบบจริงๆ นั่นเอง
Local go Global : Bitazza Global กับการขยายแพลตฟอร์มไปทั่วโลก
ต้องบอกว่า Bitazza นั้นไม่ได้มองแค่การยกระดับการให้บริการทางการเงินแก่ผู้ใช้งานภายในประเทศเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่กำลังพัฒนาและขยายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยเป้าหมายของ Bitazza นั้นมี 2 ระดับ
1. คือการเข้าไปบุกเบิกเพื่อที่จะเป็นผู้นำ ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา อย่างกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกาใต้
2. การเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีกฎหมายทางด้านคริปโตเคอร์เรนซีรองรับ อย่าง โปรตุเกส และสเปน เพื่อแข่งขันในตลาดที่มีศักยภาพระดับโลก
ทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของแพลตฟอร์ม Bitazza ที่กำลังจะ Go Global ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่มีเสถียรภาพและยั่งยืน ผ่านตัว “BTZ” และ “USDF” ที่มีการใช้งานในเศรษฐกิจตัวจริงสนับสนุนนั่นเอง
สำหรับใครที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูล Bitazza Global ไวท์เปเปอร์ 2.0 เพิ่มเติมได้ที่
ฉบับภาษาไทย : https://bit.ly/FBTH_TH_WHITEPAPER2
ฉบับภาษาอังกฤษ : https://bit.ly/FBTH_EN_WHITEPAPER2
คำเตือน : การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน