อิสรภาพไม่ใช่แค่ชื่อถนน แต่คือสภาวะที่ใครหลายคนถามหา โดยเฉพาะในโลกการทำงานที่มักมีคนเปรียบเปรยว่า การเป็นพนักงานประจำไม่ต่างอะไรกับการมีโซ่ตรวนรั้งเสมอ
แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงเหรอ???
เพราะเมื่อโลกเปลี่ยนไป คอนเซปต์การทำงานก็เปลี่ยนตาม ปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่โลกการทำงานแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Generation Flex กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด และมองว่าการทำงานไม่จำเป็นต้องมีเวลา สถานที่ หรือตารางงานแสนเข้มงวดอีกต่อไป
เหมือนที่ IWG Global Workspace Survey บอกว่า 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามยืนยันว่าตนมีประสิทธิภาพในการทำงาน (Productivity) เพิ่มขึ้นจากการทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Working) และนายจ้าง 65% ก็มองการทำงานแบบยืดหยุ่นช่วยให้องค์กรเติบโตเช่นกัน
ชาว Gen Flex จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการทำงานแบบยืดหยุ่นไร้กรอบ ซึ่งเน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพมากกว่ากฎระเบียบ จนเป็นเทรนด์การทำงานที่หลายองค์กรให้การยอมรับ
วันนี้ The MATTER จะพาไปรู้จักวัยรุ่นทรง Gen Flex ให้มากขึ้น พร้อมตัวอย่างการปรับตัวของแพลตฟอร์มคริปโต Bitazza (บิทาซซ่า) อีกหนึ่งองค์กรที่เปลี่ยนสไตล์การทำงานให้เข้ากับยุคสมัยได้ตอบโจทย์ที่สุดตอนนี้
Flat Organization: เมื่อทุกคนเท่ากัน การสื่อสารจึงเท่าเทียม
ใบไม้ยังมีการผลัดใบ ไม่ต่างอะไรกับเจนเนอร์เรชั่นที่มีการเปลี่ยนตาม
ตอนนี้ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านของสังคมในหลากหลายมิติ หนึ่งในนั้นมิติตลาดแรงงานที่ทุกองค์กรกำลังเรียนรู้และปรับตัวแขนงใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานรุ่นใหม่ที่เข้าสู่วัย Generation Flex ซึ่งต้องการโครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมือนเดิม
จากแต่ก่อนที่เราเคยมีลำดับขั้น (Hierarchy) ในองค์กร การเข้าไปคุยกับหัวหน้าเป็นเรื่องยากและท้าทายความกล้าเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบัน Gen Flex กลับต้องการ Flat Organization หรือโครงสร้างองค์กรแบบแนวราบ ที่ทุกคนสามารถสื่อสารกันได้อย่างเท่าเทียม ไร้ซึ่งกำแพงของอายุ เพศ ตำแหน่ง เชื้อชาติ ฯลฯ
แน่นอนว่า Bitazza เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีสไตล์การทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว มีมาตรการ Flat organize ที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมและเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด
นี่จึงเป็นเหตุผลให้ภายใน Bitazza ไร้ซึ่งดราม่าให้พนักงานปวดหัว เล่นคือเล่น งานคืองาน ระหว่างประชุมก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่ ทำให้พนักงานกล้าคิด กล้าพูด และกล้าทำ พร้อมสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคน
Digital Adoption: กระบวนการแบบเก่าหลบไป เมื่อทุกอย่างทำได้บนโลกออนไลน์
นัดคุยกับเจ้านาย ขอเวลาจัดประชุม ฯลฯ
หากเป็นออฟฟิศแบบเดิมๆ การจะทำสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา หลายขั้นตอน และใช้เอกสารวุ่นวายสารพัด แต่สำหรับชาว Gen Flex แล้วที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี ทำให้พวกเขามองว่ากระบวนการเหล่านั้นสามารถทดแทนด้วยโลกออนไลน์หมดเลย
การรับเทคโนโลยีเข้ามาใช้ (Digital Adoption) จึงเป็นอีกเทรนด์ในการทำงานแบบยืดหยุ่นที่หลายองค์กรให้ความสนใจ พนักงานจึงไม่จำเป็นตอกบัตรหรือสแกนนิ้วเข้าออกเป็นหลักฐาน หรือการปรึกษากับทีมบริหารก็ไม่ต้องเดินไปเคาะหน้าห้องอีกต่อไป เมื่อเราสามารถทักข้อความผ่าน Slack หรือเดินเข้าไปคุยในพื้นที่เสมือนอย่าง Gather ได้เลย
ทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายๆ บนโลกออนไลน์ เหมือนที่ Bitazza น้อมรับเทคโนโลยีมาใช้ในทุกกระบวนการ เพื่อประหยัดเวลาและพลังงานของพนักงานนั่นเอง
Sense of Ownership: เพราะทุกคนคือ CEO
เคยไหมที่เห็นพนักงานบางคนทำหน้าที่ไปวันๆ ไม่สนใจอะไรนอกจากความรับผิดชอบตามหน้าที่งาน (Task) ของตัวเอง ไม่แม้กระทั่งรู้สึกดีใจเมื่อประสบความสำเร็จ หรือไม่รู้สึกเสียใจหากงานล้มเหลว ปัญหานี้เกิดจากพนักงานขาดความเป็นเจ้าของ (Sense of Ownership) ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาตัวเอง และเป็นปัจจัยที่หลายองค์กรนำมาตัดสินว่า พนักงานคนใดมีศักยภาพในการเติบโตมากกว่ากัน
ทั้งนี้ ความเป็นเจ้าของเกิดขึ้นจากความเชื่อมั่น (Trust) และการสื่อสารภายในทีม (Communication) โดยเฉพาะพนักงานรุ่นใหม่ Gen Flex จะโฟกัสกับงานที่ถืออยู่ได้เต็มที่ เมื่อพวกเขารู้ว่ามีคนคอยสนับสนุน ให้คำปรึกษา และพร้อมร่วมมือร่วมใจทำงานตลอดเวลา
Bitazza ก็เช่นกัน เราเชื่อว่าทุกคนคือเจ้าของบริษัท เป็นทั้ง CEO CMO CTO CPO หรืออื่นๆ พนักงานจึงไม่จำเป็นต้องทำแค่หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้คิดรอบด้านและลงมือทำจริง สามารถสร้างสรรค์โปรเจกต์ใหม่ๆ เพื่อปลดล็อกสกิลของตัวเอง และยกระดับงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด
Remote Working 100%: องค์กรไม่ใช่สถานที่ แต่คือพนักงาน
ช่วง COVID-19 ซีซั่น 1 ที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ทำให้หลายบริษัทเร่งปรับนโยบายเป็นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เป็นหลัก ทว่ามีงานวิจัยหลายสำนักบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การทำงาน WFH ทำให้เส้นแบ่งระหว่างพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ทำงานพร่าเรือนหายไป จนทำให้พนักงานอาจรู้สึกโดดเดี่ยว เครียด และขาดแรงบันดาลใจ
Remote Working หรือการทำงานทางไกลจึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจากการทำงานที่บ้าน เป็นการทำงานที่ไหนก็ได้ (Work From Anywhere) แทน พูดง่ายๆ คือทำงานได้ทุกที่ ทุกมุมโลก ทุก Time Zone ใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปทะเล แอ่วเหนือ ล่องใต้ หรือไปทำงานต่างประเทศก็ยังได้ เป็นรูปแบบการทำงานที่ให้อิสระทุกคนเต็มที่
นโยบายนี้จึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ให้อยู่กับองค์กรมากที่สุด เหมือนรายงานของ The Deloitte Global 2022 ที่บอกว่า 75% ของคนรุ่นใหม่ในกลุ่มประชากรโลกชอบการทำงานแบบ Remote Work เพราะช่วยลดค่าใช้จ่าย มีเวลาสำหรับกิจกรรมอื่นและครอบครัวมากขึ้น และประมาณ 20% จะปฏิเสธการทำงาน หากงานนั้นๆ ไม่ได้สอดคล้องกับคุณค่าในชีวิต
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ Bitazza เลือกการทำงานแบบ Remote Working 100% ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทหรืออยู่แต่ที่บ้านอย่างเดียว สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ พนักงานทุกคนสามารถนัดเจอกันข้างนอกก็ได้ หรือเจอกันในพื้นที่ออนไลน์ก็ดี ส่งผลให้พนักงานเกิดความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตที่ดี (Work Life Integration) เพียงแค่จัดตารางเวลาชีวิตและงานให้ลงตัวก็พอ
Bitazza: ฉีกทุกกฎการทำงาน ด้วยการเป็นองค์กรที่ทำงานอย่างอิสระอย่างแท้จริง
ถึงแม้อุตสาหกรรมคริปโตใน SEA จะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว จนเป็นสมรภูมิแข่งขันระหว่างประเทศที่ดุเดือดเข้มข้นในตอนนี้ แต่การปรับสไตล์การทำงานแบบยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับความต้องการของ Gen Flex ทำให้ Bitazza กลายเป็นแพลตฟอร์มคริปโตที่เติบโตเร็วในภูมิภาคเอเชียภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
เพราะการทำงานแบบเดิมนั้นไม่ตอบโจทย์แรงงานรุ่นใหม่อีกต่อไป Bitazza เองก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปตามพนักงานในทุกองค์ประกอบ คือ
● People – เมื่อพนักงานทุกคน ทุกฝ่าย ทุกตำแหน่ง สามารถสื่อสารกันได้ในทุกเรื่อง พร้อมช่วงเวลาสังสรรด้วยกันแบบไร้ลำดับขั้น
● Process – ทุกกระบวนการทำได้บนโลกออนไลน์ ตั้งแต่ การสื่อสาร นัดประชุม ไร้ซึ่งขั้นตอนเอกสารให้วุ่นวายแบบเดิม
● Performance – เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร งานทุกอย่างจึงเป็นการปลดล็อคศักยภาพของตัวเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด
● Place – ทำงานที่ไหนก็ได้แบบ 100% เพื่อสร้างความสอดคล้องระหว่างชีวิตและการงานอย่างสมดุล
ทั้งหมดนี้คือวัฒนธรรมองค์กรของ Bitazza ที่ค่อยๆ เรียนรู้และปรับเปลี่ยนไปตามพนักงาน Gen Flex เกิดเป็นโลกการทำงานที่แตกต่างแต่ลงตัว ที่ไม่ว่าองค์กรไหนก็สามารถสร้างขึ้นได้เหมือนเดิม
ขอแค่องค์กรเพียงเปิดใจรับฟังความต้องการของพนักงาน เหมือนที่ CEO ของ IWG บอกว่า “อำนาจกำลังเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ ภาคส่วน นายจ้างไม่ใช่คนที่มีอำนาจกำหนดรูปแบบการทำงานในทุกวันนี้อีกต่อไป แต่คือกลุ่มคนทำงาน Generation Flex จะเป็นผู้ตัดสิน” นั่นเอง
ฉะนั้นหากใครอยากจะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงบนโลกของคริปโตไปจนถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน มาร่วมเป็นทีม Bitazza ได้เลยที่นี่ content.bitazza.com/careers-at-bitazza
*สื่อนี้จัดทำขึ้นและเผยเเพร่โดย The MATTER ซึ่งถูกจ้างโดย บริษัท บิทาซซ่า จำกัด
*บุคคลในรูปเป็นบุคลากรของ บริษัท บิทาซซ่า จำกัด
Writer: Sahatorn Petvirojchai
Graphic Designer: Yanin Jomwong
อ้างอิงจาก
work.iwgplc.com
smallbusiness.chron.com
th.hrnote.asia 1
wtwco.com
th.hrnote.asia 2
deloitte.com