‘ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ’ หลายคนคงโตมากับการได้ยินประโยคนี้ และการมีสุขภาพที่ดีก็คงเป็นเป้าหมายในชีวิตของใครหลายๆ คน
แต่เรื่องของการเจ็บป่วยก็ไม่ต่างกับกาชาปองที่ไม่รู้ว่าแจ็กพอตจะออกที่เราเมื่อไหร่ เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้พอๆ กับการที่เราเมื่อ 3-4 ปีก่อนไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าทั่วโลกจะต้องเผชิญการระบาดของไวรัสที่ชื่อว่า COVID-19 หลายคนอาจไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าต้องเผชิญวิกฤตทั้งทางเศรษฐกิจและทางสุขภาพครั้งสาหัสอย่างคราวนี้
สำหรับพนักงานออฟฟิศอย่างเราๆ ความเจ็บป่วยหรือการติด COVID ไม่ต่างจากฝันร้ายกลางวันแสกๆ ที่ไม่อ่อนโยนกับสุขภาพและเงินในกระเป๋าเลยสักนิด เพราะอย่างนั้นเราจึงควรมีเกราะป้องกันให้ตัวเอง เตรียมพร้อมเผชิญปัญหาสุขภาพ ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคตก็ไม่หวั่น…
ส่วน ‘เกราะ’ ที่ว่านั้นคืออะไร คุณสมบัติไหนขาดไม่ได้ วันนี้เราจะพาไปเลือกชมกัน
เกราะป้องกันสุขภาพคืออะไรยังไงไหนเล่า
เคยได้ยินไหมว่าการซื้อประกันคือการซื้อความเสี่ยง การมีประกันสุขภาพดีๆ จึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันชั้นเยี่ยมให้กับเรา ช่วยคุ้มครองเราจากค่าใช้จ่ายที่จู่โจมกระทันหันอย่างค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย ค่าห้องพัก ค่าบริการต่างๆ ในโรงพยาบาล ปกป้องเราที่แค่ป่วยก็แย่พออยู่แล้วให้ไม่ต้องรู้สึกท้อแท้ตอนเห็นค่าใช้จ่ายจากการรักษา
แม้พนักงานออฟฟิศจะมีสวัสดิการรักษาพยาบาลอยู่บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสวัสดิการเหล่านั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ อีกต่อไป การมีประกันสุขภาพจึงเป็นเหมือนการเสริมเกราะที่แข็งแกร่งขึ้นให้กับตัวเอง บอกเลยว่าช่วยให้ปลอดภัยและอุ่นใจขึ้นเยอะ
ไหนจะสภาพการณ์ตอนนี้ที่ต้องฟาดฟันกับศัตรูอย่าง COVID-19 เผชิญกับปัญหาห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐฯ ไม่เพียงพอกับการรักษา ส่วนค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลเอกชนถึงแม้บางส่วนรัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ก็ไม่เพียงพออยู่ดี การมีประกันสุขภาพเลยเป็นเกราะป้องกันที่ตอบโจทย์
How to เลือกเกราะป้องกันสุขภาพ 01: ปกป้องรอบทิศทาง
สำหรับพนักงานออฟฟิศกินเงินเดือน หรือ First Jobber ที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง การเข้า-ออกโรงพยาบาลทีเรียกได้ว่าขนหน้าแข้งร่วง เลยต้องมีการวางแผนเตรียมพร้อมสู้ศึกสุขภาพที่ยังมาไม่ถึงกันเสียหน่อย
ขั้นแรกต้องเริ่มด้วยการคำนวณรายรับ-ร่ายจ่ายของตัวเอง ว่านอกจากค่าใช้จ่ายจำเป็นเรามีกำลังแค่ไหนสำหรับการจ่ายเบี้ยประกัน หรือก็คือเราไหวที่เท่าไหร่ แล้วลองคำนวณดูว่าหากมีเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน เราต้องการอยู่ห้องแบบไหน ราคาประมาณเท่าไหร่ ต้องการเงินชดเชยรายได้ที่เราไม่ได้ไปทำงานหรือเปล่า
ต่อมาคือเทคนิคการเลือกประกันแบบง่ายๆ ทริคคือการเลือกแบบ ‘เหมาจ่าย’ หรือก็คือประกันครอบจักรวาลที่ครอบคลุมทั้งเรื่องค่ารักษาในวงเงินตามจริง ซึ่งต้องครอบคลุมทั้งค่ารักษาอาการป่วย ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา และค่าบริการในโรงพยาบาล เพื่อเป็นเกราะป้องกันเราจากพลังโจมตีรอบทิศทางของค่าใช้จ่ายในการรักษาให้ครอบคลุมที่สุดนั่นเอง
How to เลือกเกราะป้องกันสุขภาพ 02: ระยะการใช้งานคุ้มครองตลอดชีพที่แท้ทรู
รู้หมือไร่? ประกันสุขภาพในบางแผนให้ความคุ้มครองถึงแค่อายุ 60-65 ปีเท่านั้น แต่ในปัจจุบันที่ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และเทคโนโลยีสุขภาพพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าเฉลี่ยอายุขัยของมนุษย์ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกปีๆ เพราะอย่างนั้นแล้วนอกจากจะเลือกเกราะป้องกันที่คุ้มครองเราได้รอบด้านแล้ว ยังต้องเลือกเกราะที่คุ้มครองเราได้อย่างยาวนานด้วย
เราไม่อาจรู้เลยว่าเราจะเผชิญกับปัญหาสุขภาพเมื่อไหร่ ในอีกมุมหนึ่งเราก็ไม่อาจแน่ใจว่าเราจะมีชีวิตยืนยาวแค่ไหน ประกันสุขภาพอย่าง BLA Happy Health จึงช่วยเกลี่ยความสมดุลระหว่างสองข้อนี้ ด้วยการเป็นประกันฯ ที่สามารถต่ออายุคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลยาวนานสูงสุดถึงอายุ 99 ปี
นอกจากนี้ แบบประกัน BLA Happy Health ยังสบายใจเรื่องการต่ออายุสัญญาได้ เนื่องจากแบบประกันนี้มีการกำหนดเงื่อนไขการต่ออายุตามมาตรฐานประกันสุขภาพใหม่ของคปภ. ที่ระบุอย่างชัดเจนว่าบริษัทจะต้องห้ามปฏิเสธการต่ออายุสัญญา ยกเว้นในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีการแถลงข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือเรียกร้องผลประโยชน์เกินความจำเป็นทางการแพทย์เท่านั้น
How to เลือกเกราะป้องกันสุขภาพ 03: ปกป้องเราได้ทุกที่ ทุกเวลา
ชุดเกราะที่ดีคือชุดเกราะที่สามารถปกป้องเราได้ทุกที่ เช่นเดียวกับการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะเมื่อต้องพักค้างคืนยิ่งเป็นเรื่องต้องคิดหนัก BLA Happy Health จึงมีอีกหนึ่งคุณสมบัติที่คงจะถูกใจหลายๆ คน นั่นคือการครอบคลุมห้องพักเดี่ยวมาตรฐานของทุกโรงพยาบาล ให้เราเลือกสรรได้ตามความสะดวกกายสบายใจของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่โรงพยาบาลไหนๆ ก็เข้าพักห้องเดี่ยวมาตรฐานได้เลยโดยไม่จำกัดราคา จ่ายผลประโยชน์ตามจริง (สูงสุดไม่เกินค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานของโรงพยาบาล) ไม่ต้องจ่ายค่าห้องส่วนเกิน และยังสามารถเลือกรับเงินชดเชยรายวันได้อีกด้วยในกรณีที่ไม่เบิกเคลมจาก BLA Happy Health (เฉพาะแผนที่ไม่มีความรับผิดส่วนแรก)
นอกจากจะพร้อมเข้าพักรักษาในห้องเดี่ยวมาตรฐานของทุกโรงพยาบาลแล้ว เกราะอย่าง BLA Happy Health ยังปกป้องได้มากกว่าด้วยผลประโยชน์รวมสูงสุดถึงห้าล้านบาทต่อครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้งและผลประโยชน์สูงสุดต่อปี ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่พัฒนาไม่หยุดยั้ง ค่ารักษาที่เพิ่มสูงขึ้นตามก็ทำให้ความคุ้มครองแบบเดิมๆ ไม่เพียงพออีกต่อไป ผลประโยชน์สูงสุดถึงห้าล้านบาทต่อครั้งที่ BLA Happy Health มีให้จึงนับได้ว่าตอบโจทย์ เป็นเกราะปกป้องเราได้ทุกที่ ทุกเวลา ของจริง!
Tips: ปรับเกราะให้ขนาดพอเหมาะกับตัว
ชุดเกราะต้องเลือกให้พอดีตัวถึงจะดี เหมือนที่ประกันสุขภาพก็ควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพราะการเจ็บป่วยแต่ละครั้งแม้จะเป็นอาการเดียวกัน แต่ค่ารักษาพยาบาลไม่ได้เท่ากันเสมอไป
BLA Happy Health คือเกราะป้องกันที่ยืดหยุ่นให้เราสามารถดีไซน์การปกป้องที่ตอบโจทย์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการครอบคลุมค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน การเลือกรับผลประโยชน์เป็นเงินชดเชยรายวันได้ในกรณีที่ไม่เบิกเคลม หรือแม้แต่การกำหนดความรับผิดส่วนแรกเพื่อจ่ายเบี้ยประกันที่ถูกลงสำหรับคนที่มีสวัสดิการสุขภาพอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น แผน 5 ล้านบาท แบบมีความรับผิดส่วนแรก 1 แสนบาท เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงปีละ 3,268 บาท สำหรับเพศหญิง อายุ 30 ปี
พอเหมาะพอดีกับพนักงานออฟฟิศที่มีสวัสดิการสุขภาพและต้องการซื้อประกันเพิ่มเติม โดยที่ไม่จำเป็นต้องแบกรับเบี้ยประกันสูงๆ เสมอไป แค่นี้เราก็อัปเกรดชีวิตให้ดีขึ้นไปอีกได้ เพราะมีเกราะป้องกันสุขภาพชั้นดีอย่าง BLA Happy Health จาก กรุงเทพประกันชีวิต
สำหรับผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต คลิก! https://www.bangkoklife.com/th/products/detail/227 หรือ ติดต่อตัวแทนประกันชีวิตบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต
Content by Treerak Wongrattanasopon
Illustration by Krittaporn Tochan