นอกเหนือจากความบันเทิงแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เกมมอบให้กับผู้เล่น ก็คือประสบการณ์บางอย่างซึ่งก็มักจะจำลองมาจากโลกความเป็นจริง
อย่างเกมแข่งรถที่มอบประสบการณ์ความเร็วสูงซึ่งเราไม่อาจทดลองบนท้องถนนทั่วไปได้นั้น ก็มักจะจำลองเบื้องหลังก่อนลงสนามแข่ง ว่าความเร็วที่เห็น สมรรถนะที่เป็น เกิดขึ้นได้อย่างไร ผ่านการเลือกรถยนต์คู่ใจในเกม พร้อมเปิดโอกาสให้ปรับแต่งรูปทรง สี และชิ้นส่วนเครื่องยนต์
เมื่อผ่านการเล่นไปสักพัก ผู้เล่นก็จะพบว่ารถยนต์แต่ละคันนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ เช่น รถคันใหญ่ควบคุมง่าย แต่ก็แลกมาด้วยความเร็วสูงสุด รถสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมีอัตราเร่งความเร็วสูง ก็ต้องพะวงกับการบังคับควบคุมมากกว่าปกติ หรือแม้แต่การเปลี่ยนยาง ปรับโช๊คอัพ ก็ยังส่งผลต่อสมรรถนะของรถยนต์ไม่มากก็น้อย
นอกจากนั้นเกมแข่งรถบางเกมก็เปิดโอกาสให้เราซื้อไอเท็มพิเศษ เช่น ซื้อเทอร์โบมาติดตั้งเพิ่มความซิ่ง หรือเก็บไอเท็มลับระหว่างทางอย่างไนตรัสเพื่อเร่งเครื่องยนต์แบบสุดขีดจำกัดได้ด้วย
ซึ่งก็เช่นกัน ไอเท็มเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มีผลต่อการขับขี่ และชัยชนะในสนามแข่งทั้งสิ้น
แล้วการขับรถในชีวิตจริงล่ะ? อะไรคือ ‘ไอเท็มลับ’ ที่ช่วยให้รถของเราแสดงศักยภาพได้ดีกว่าเดิม
จริงอยู่ว่าการขับรถในชีวิตประจำวันของพวกเรา คงไม่ถึงกับต้องปรับแต่งอะไรมากเท่ากับรถยนต์สำหรับแข่งขัน ขอแค่เพียงไอเท็มที่ช่วยให้รถยนต์ของเราแสดงสมรรถนะได้เต็มที่คุ้มค่า หรือหากเติมพลังให้ทำงานได้ดีกว่าเดิม ก็ถือเป็นกำไรแล้ว
ทว่าหนึ่งในไอเท็มชิ้นสำคัญที่คนขับรถต้องจ่ายเงินซื้อแทบทุกสัปดาห์อย่าง ‘น้ำมัน’ นั้น กลับเป็นไอเท็มที่เราไม่ค่อยได้ใช้เวลาเลือกอย่างถี่ถ้วนเท่าไหร่ เอาแค่เติมให้ถูกชนิดก็พอ หากขับผ่านปั๊มไหนก็ไปเติมที่นั่น
ทั้งๆ ที่หากลองสังเกตดูจะพบว่า น้ำมันแต่ละชนิด แต่ละสูตรนั้น ให้ผลตอบสนองต่อการขับขี่ไม่เหมือนกัน หรือถ้าว่ากันง่ายๆ น้ำมันก็คงเหมือนอาหารที่เราบริโภค ถึงแม้จะเป็นชนิดอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าอาหารจานนั้นคุณภาพไม่ดี ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ดีไม่ดีจะยิ่งทำให้ร่างกายแย่ลงด้วยซ้ำ
‘ไอเท็ม’ ในเกมสามารถแยกแยะระดับคุณภาพด้วยสายตาได้ บ้างก็มีแถบแสดงค่าความสามารถให้ดูเสร็จสรรพ แต่น้ำมันคุณภาพที่พร้อมจะพาให้รถยนต์พุ่งทะยานไปได้ในชีวิตจริง มองเพียงผิวเผินอาจยากเกินไปที่จะแยกแยะ เพราะความพิเศษนั้นซ่อนอยู่ในระดับโมเลกุลเลยทีเดียว
อย่าง ‘เทครอน’ นวัตกรรมล่าสุดที่ คาลเท็กซ์ คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ก็ถือเป็นความพิเศษที่ว่า ด้วยความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันการเกิดคราบสกปรกบนชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์อย่างวาล์วไอดี และกำจัดสิ่งสกปรกที่เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำ เมื่อเครื่องยนต์สะอาด ก็จะเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ดีและสมบูรณ์ ปล่อยไอเสียน้อย เพิ่มอัตราการตอบสนองการเร่งเครื่องยนต์ และประหยัดน้ำมันอีกด้วย
ถามว่าคุ้มยังไง ก็เปรียบเทียบได้จากผลการทดลอง Local Fuel Test ซึ่งพบว่า ถ้าเติมน้ำมันเบนซินเต็มถัง 100 % เท่ากัน น้ำมันคาลเท็กซ์เทครอนจะพารถยนต์ของเราไปได้ไกลถึง 104.6 % เรียกว่าเสียเงินเท่าเดิม แต่ไปได้ไกลกว่า*
แม้จะเป็นแบรนด์น้ำมันซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประเทศชั้นนำ 29 ประเทศทั่วโลก มุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีและมีคุณภาพในประเทศไทยมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ แต่คาลเท็กซ์ก็ยังอยากชวนให้คนรักรถมาทดลองใช้ด้วยตัวเองอยู่ดี จึงเกิดเป็นโครงการ ‘Caltex VR Drive’ ที่เปิดโอกาสให้คนรักรถได้สัมผัสกับ Techron Experience
เสียงเครื่องยนต์ที่เคยดังกลับเบาลง ทั้งตอนเร่งเครื่องและจอดนิ่ง ทำความเร็วได้ดีโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งมากเท่าเดิม และน้ำมันลดลงค่อนข้างช้าเมื่อใช้ความเร็วคงที่ คือประสบการณ์ที่เรา—คนใช้รถเป็นประจำทุกวัน—พอจะสัมผัสได้หลังจากทดลองเติมน้ำมันคาลเท็กซ์เทครอน
ส่วนผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม ‘Caltex VR Drive’ ท่านอื่นๆ ก็คงพบกับประสบการณ์พิเศษไม่แตกต่างกัน เพราะหลังจากที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเติมน้ำมันคาลเท็กซ์จนครบ 4 ถัง และรายงานผลลัพธ์ตามด้านล่างนี้
เมื่อผนวกเข้ากับที่คาลเท็กซ์จะบริจาคเงิน 20 สตางค์ต่อระยะทางทุกๆ 1 กิโลเมตร สมทบทุนซื้อรองเท้าให้น้องๆ ที่ภาคเหนือ ระยะทางของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 304,139 กิโลเมตร จึงเปลี่ยนเป็นรองเท้า 406 คู่ โดยคาลเท็กซ์สมทบเพิ่มอีกเป็น 2 เท่า กลายเป็นรองเท้า 800 คู่ มอบให้กับน้องๆ จากโรงเรียนไร่ส้มวิทยา จ.เชียงใหม่
ความพิเศษเหล่านี้ก็คงเหมือนการได้ไอเท็มพิเศษในเกม เฉพาะคนที่ลองใช้ด้วยตัวเองเท่านั้น ที่รู้ว่ามันพิเศษอย่างไร
*ทดสอบ โดย รถ Toyota Altis ปี 2017 ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2018 ณ.วงแหวนรอบนอกสุพรรณบุรี
ที่ความเร็วคงที่ 80 Km/H โดยบริษัท Fine Day creation
มาดูกัน! น้ำมันคุณภาพต้องเป็นแบบไหน และดีต่อรถของคุณอย่างไร???#Caltexthailand #Caltex #น้ำมันคาลเท็กซ์ #คาลเท็กซ์สถานีน้ำมันคุณภาพราคาประหยัดกว่า #คาลเท็กซ์ #มั่นใจไปไกลกว่า #คาลเท็กซ์เทครอน
Posted by Caltex Thailand on Sunday, January 27, 2019