รู้หรือไม่ว่า ชาว Gen Z คือหนึ่งในเจนที่เข้าใจและตื่นตัวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่น้อยไปกว่าเจนไหนๆ
จากผลสำรวจของ Faunalytics และ The Good Growth ในปี 2025 พบว่ากว่า 93% ของ Gen Z ชาวอเมริกันและเอเชีย รวมถึงไทยด้วย กังวลเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และเชื่อว่าผลกระทบจากภาวะโลกร้อน จะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของพวกเขาในอนาคตเป็นอย่างมาก
แนวคิดเรื่อง Sustainability หรือความยั่งยืน ที่อาจดูเป็นเรื่องไกลตัวของหลายคน กลายเป็นสิ่งที่ Gen Z ให้ความสำคัญอย่างมาก สะท้อนให้เห็นผ่านการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติ ลดการใช้พลาสติก ให้ความสำคัญกับการรีไซเคิลและอัพไซเคิล รวมไปถึงสนับสนุนแบรนด์ธุรกิจที่มีแนวคิดความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ทำให้โครงการ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา และในปีนี้ก็ได้เดินทางมาถึงปีที่ 5 แล้ว มาลองสำรวจความน่าสนใจของโครงการ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ชาว Gen Z กลายเป็นผู้กล้านักรีไซเคิลที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้น

จุดเริ่มต้นโครงการ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky
ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง เป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อม โคคา-โคล่า จึงได้สนับสนุน Trash Lucky สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมารีไซเคิล ด้วยการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานแล้ว ซึ่งสามารถ เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม แล้วเกิดเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่สะอาดปลอดภัยได้ จนออกมาเป็นโครงการ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 แล้ว

เจาะกลุ่มเป้าหมายชาว Gen Z มุ่งเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค
เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ประสบความสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมา คือการร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรในการตั้งจุดรับวัสดุรีไซเคิลกว่า 80 จุด พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง กระตุ้นให้เปลี่ยนพฤติกรรมการแยกขยะ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้เข้าร่วมโครงการ ด้วยการมอบโชคใหญ่เป็นของรางวัลมากมาย แถมในปีที่ 5 นี้ ยังเน้นดึงดูดให้กลุ่ม Gen Z ที่กำลังสนใจประเด็นความยั่งยืนมาลงมือรีไซเคิลผ่านการจัดกิจกรรมโรดโชว์และเวิร์กช็อปให้ความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลในหลากหลายมหาวิทยาลัย แถมยังมีการเพิ่มของรางวัลโดนใจ Gen Z มากขึ้น ทั้งแกดเจ็ตต่างๆ และทองคำ รวมถึงผู้เข้าร่วมรีไซเคิลจะได้รับทันที โค้ดส่วนลด LINE MAN Food 30% มูลค่าสูงสุด 100 บาท

ขยายจุดรับวัสดุรีไซเคิลกว่า 80 จุด แยกง่าย แลกสะดวก
การรีไซเคิลต้องไม่ใช่เรื่องยากและต้องเข้าถึงได้ง่าย “โค้ก” จึงเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรรีเทลมากมาย เพื่อขยายจุดรับวัสดุรีไซเคิลให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าส่ง “แม็คโคร” และผู้นำธุรกิจค้าปลีก “โลตัส” เดอะมอลล์ กรุ๊ป บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต พร้อมทั้งขยายความร่วมมือและในปีนี้ยังได้พันธมิตรรีเทลใหม่อย่าง ท็อปส์ (TOPS) และ GO WHOLESALE อำนวยความสะดวกสบายให้กับทุกคน ด้วยการเพิ่มจุดรับวัสดุรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี โดยในปีนี้ได้ขยายจุดรับให้มีมากกว่า 80 จุด ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภูเก็ต สงขลา รวมถึงสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ในภาคใต้ แบ่งเป็นถังธรรมดาและถัง Smart bin สามารถเดินทางมาส่งด้วยตัวเองตามจุดรับวัสดุรีไซเคิลใกล้บ้าน
สามารถเช็กจุดรับวัสดุรีไซเคิลได้ที่
https://www.google.com/maps/d/u/0/viewer?mid=1xs6N9JCPQZ8HvVIfM0HlIyFO1I2iB-RU&ll=13.720127362147489%2C100.52641752128271&z=11

ประสานความร่วมมือของพันธมิตรนักรีไซเคิล
ไม่เพียงการปลุกพลังของชาว Gen Z ให้หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเท่านั้น โคคา-โคล่า ยังเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับผู้รีไซเคิลชั้นนำ ส่งต่อวัสดุรีไซเคิลที่ผ่านการคัดแยก ไม่ว่าจะเป็น ขวดพลาสติก PET ทั้งหมดจะส่งต่อไปให้ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เพื่อรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล rPET ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สะอาดปลอดภัยได้อีกครั้ง กระป๋องอะลูมิเนียม จะส่งไปยัง บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด เพื่อนำไปรีไซเคิลในระบบ Closed Loop ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ สามารถลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และพลังงานในการผลิตเมื่อเทียบกับการผลิตจากวัตถุดิบใหม่ โดยเงินที่ได้จากการรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมจะนำไปบริจาคให้กับ มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อีกด้วย

สะสมแต้มแลกของรางวัลมากมาย
จุดเด่นสำคัญของโครงการ คือระบบการสะสมแต้ม เพียงแค่รีไซเคิล แล้วแลกเป็นคะแนนสะสม เพื่อนำไปลุ้นเป็นของรางวัลสุดพิเศษ โดยจะมีทั้งของรางวัลประจำเดือนและรางวัลจากการแลกแต้มรวมกว่า 6,000 รางวัล มูลค่าทั้งหมดรวมกว่า 2 ล้านบาท ทั้ง แกดเจ็ตและทองคำ และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงรางวัลใหญ่ที่สุดอย่าง รถยนต์ไฟฟ้า อีกด้วย โดยในปีนี้ พิเศษ! ทุกการรีไซเคิล รับไปเลย โค้ดส่วนลดจาก LINE MAN Food 30% มูลค่าสูงสุด 100 บาท 1 คน/1 สิทธิ์/เดือน โดยโครงการมีระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 เปลี่ยนการแยกขยะรีไซเคิลให้กลายเป็นเรื่องสนุกและมีเป้าหมายมากยิ่งขึ้น พิเศษสุด! ปีนี้ โคคา-โคล่า ยังจัดเตรียมกิจกรรม Meet & Greet กับศิลปินคนโปรดของใครหลายคน เอาใจแฟนๆ คนรุ่นใหม่กันสุดๆ เพียงร่วมรีไซเคิลแล้วไปรอแลกรับสิทธิ์เข้าร่วมงานกันได้เลย รอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็วๆ นี้ทาง Coca-Cola Thailand Facebook Page
ดูรายละเอียดการใช้แต้มแลกของรางวัลได้ที่ https://trashlucky.com/recycleme/

แลกจริง แจกจริง ช่วยโลกได้จริง
วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วที่สามารถนำมาร่วมรีไซเคิลกับโครงการได้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ พลาสติก โลหะ แก้ว และกระดาษ สามารถนำมาแลกเป็นคะแนนสะสมได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 ระยะเวลารวมทั้งหมด 6 เดือน ทั้งสะดวกแถมได้แต้มไปแลกของรางวัลด้วย จะส่งวัสดุรีไซเคิลของแบรนด์ใดก็ได้

แยกวัสดุรีไซเคิล ตามประเภท
ก่อนจะนำวัสดุไปรีไซเคิล เริ่มต้นการแยกแบบถูกต้อง ด้วยการแบ่งตามประเภทของแต่ละวัสดุให้อยู่ในถุงเดียวกัน เช่น อะลูมิเนียม แก้ว และกระดาษ อย่างละ 1 ถุง ส่วนพลาสติกมีหลายประเภท จำเป็นต้องแยกแต่ละประเภทให้อยู่ในถุงเดียวกัน เช่น ขวดพลาสติกใส PET, กล่องอาหารพลาสติก PP หรือขวดแชมพูขวดน้ำยา HDPE โดยสามารถสังเกตประเภทของพลาสติกง่ายๆ เพียงแค่ดูสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์ หลังจากนั้นก็สามารถนำถุงย่อยทั้งหมดใส่รวมในถุงใหญ่ใบเดียวกัน พร้อมกับเขียนชื่อ-นามสกุล และ Trash Lucky ID เพื่อสะสมแต้ม แล้วนำไปใส่ลงในถัง ณ จุดรับวัสดุรีไซเคิลของ Trash Lucky ได้เลย

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
1. ลงทะเบียนผ่านทาง LINE official account: @trashlucky ซึ่งจะได้รับรหัสสมาชิก (Trash Lucky ID) ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแยกวัสดุรีไซเคิล พลาสติก โลหะ แก้ว และกระดาษ ของแบรนด์ใดก็ได้ บรรจุใส่ถุงหรือกล่องโดยติดชื่อ หรือ รหัสสมาชิก (Trash Lucky ID)
2. คัดแยกขยะรีไซเคิลตามประเภท โดยไม่รวมขยะประเภทต่างๆ เข้าด้วยกัน
3. ส่งขยะรีไซเคิลเพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถส่งได้ 3 วิธี
– วิธีที่ 1 นำไปส่งที่จุดรับวัสดุรีไซเคิลรวมกว่า 80 จุด ณ จุดรับวัสดุรีไซเคิลของพันธมิตร คือ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 11 สาขา, ห้างสรรพสินค้า โลตัส 15 สาขา, สถานีบริการน้ำมันเชลล์ 29 สาขา, เดอะมอลล์ 4 สาขา, ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต 1 จุด, ท็อปส์ 6 สาขา, GO WHOLESALE 5 สาขา และมหาวิทยาลัย 11 แห่ง โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://trashlucky.com/recycleme/
– วิธีที่ 2 ส่งวัสดุรีไซเคิลผ่านบริการขนส่งพัสดุมาที่ Trash Lucky Warehouse 496 ซอยสาธุประดิษฐ์ 49 และออฟฟิศ แขวงดินแดง
– วิธีที่ 3 เรียกใช้บริการเก็บวัสดุรีไซเคิลของ Trash Lucky โดยสอบถามค่าบริการได้ที่ LINE ID @trashlucky
4. รับแต้มคะแนนตามน้ำหนักขยะที่ส่งไปรีไซเคิล โดยสามารถใช้แต้มสะสมแลกสิทธิ์ลุ้นรางวัล
แยกขยะเริ่มได้ ง่ายนิดเดียว! ส่งสะดวก ได้ลุ้นรางวัลใหญ่ จะพลาดได้ยังไง เหล่าผู้กล้าเจนซีนักรีไซเคิล มาร่วมรีไซเคิลด้วยกันเถอะ!
Writer: Wichapol Polpitakchai
Graphic Designer: Rojjanaon Yailaibang
อ้างอิงข้อมูลจาก https://faunalytics.org/exploring-gen-zs-attitudes-towards-animals-and-the-environment/