ถ้าพูดถึงคำว่า ‘สารเคมี’ ในมุมมองของคนทั่วไปอาจรู้สึกเป็นลบและเป็นขั้วตรงข้ามกับการรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ถ้ามองในเรื่องของคุณสมบัติและการใช้ประโยชน์จริงๆ สารเคมีล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญในการดำรงชีวิตของเรา
ตั้งแต่ด้านการแพทย์ สิ่งที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค หรือการบำบัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมเอง ก็จำเป็นต้องใช้สารเคมีทั้งสิ้น รวมไปถึงสเกลที่ใหญ่มากขึ้นอย่างการผลิตไฟฟ้า ก็จำเป็นต้องมีสารเคมีในการบำบัดน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าอีกด้วย
The MATTER จึงอยากจะชวนไปสำรวจเบื้องหลังของงานด้านเคมีของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กับ อภิชาติ พานิชการ ผู้อำนวยการฝ่ายเคมี ที่จะเปลี่ยนมุมมองต่อการใช้สารเคมีในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
การรับรู้ของคนทั่วไป เกี่ยวกับเรื่องของสารเคมีเป็นอย่างไร
ผู้คนมักเข้าใจว่าสารเคมีเป็นสิ่งที่อันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะหากใช้งานอย่างถูกต้อง เหมาะสม สารเคมีจะถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ เช่น ยาที่เรากินเพื่อรักษาโรค การบำบัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงของใช้รอบๆ ตัว เช่น น้ำยาซักผ้า แชมพูสระผม สิ่งเหล่านี้ต่างผลิตขึ้นจากสารเคมีทั้งสิ้น
ทำไมจึงต้องสื่อสารถึงความสำคัญของเรื่องสารเคมีกับการผลิตไฟฟ้าให้คนทั่วไปเข้าใจมากขึ้น
เพราะหลายคนอาจจะคิดว่าการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้ามีมลพิษ อะไรก็ตามที่ปล่อยออกมาจากโรงไฟฟ้าดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี โดยเฉพาะน้ำที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำ ซึ่งแท้จริงแล้ว น้ำที่เรานำไปเข้ากระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วปล่อยออกมานั้น ได้ผ่านกระบวนการบำบัดมาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีความเป็นกรด ไม่มีโลหะหนัก ไม่มีสารพิษใดๆ เจือปน ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จริง เพราะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะปล่อยสู่ธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีไอน้ำที่ปล่อยออกจากโรงไฟฟ้าที่ผู้คนมักเข้าใจผิดว่า มีลักษณะเหมือนควันที่เป็นมลพิษ ซึ่งที่แท้จริงแล้ว สิ่งที่เรามองเห็น คือ ไอน้ำที่เกิดจากการระบายความร้อนของหอหล่อเย็น ปราศจากมลพิษเช่นกัน
สารเคมีกับการผลิตไฟฟ้า เกี่ยวข้องกันอย่างไร
สารเคมีเป็นหนึ่งในหัวใจที่สำคัญในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า เพราะจะช่วยปรับแต่งคุณภาพ “น้ำ” ที่ใช้เป็นตัวแปรสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยน้ำทั้งหมดที่ใช้ในโรงไฟฟ้า เป็นน้ำดิบที่ได้จากธรรมชาติ จึงต้องผ่านกระบวนการปรับแต่งคุณภาพน้ำ ทั้งการกำจัดความขุ่น ตะกอน โลหะหนัก และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ จนได้น้ำบริสุทธิ์ไร้สารเจือปน เพื่อส่งเข้าโรงไฟฟ้าต่อไป ซึ่งน้ำที่มีความบริสุทธิ์นั้น จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าไม่เกิดปัญหาขัดข้อง เช่น ปัญหาจากตะกรันหรือตะกอนบนอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า ซึ่งหากจะเปรียบเทียบน้ำในระบบผลิตไฟฟ้า ก็เหมือนกับเลือดในร่างกายเรา ถ้าไม่มีการดูแลที่ดี อวัยวะต่างๆ ซึ่งหมายถึง ระบบอุปกรณ์โรงไฟฟ้าก็จะทำงานไม่ได้ งานด้านเคมีก็เหมือนผู้ทำหน้าที่ดูแลเลือดเหล่านี้ เหตุที่งานเคมีมีความสำคัญมาก เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้ามีอย่างต่อเนื่อง น้ำจึงจำเป็นต้องสะอาด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ที่นำมาซึ่งการหยุดการเดินเครื่อง เคมีจึงมีความสำคัญและมีบทบาทในเรื่องของการผลิตไฟฟ้า
บทบาทของงานบริการด้านเคมีของ กฟผ. มีหน้าที่อะไรบ้าง
บทบาทของส่วนเคมีจะมีอยู่หลักๆ 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนที่หนึ่งคือเรามีนักเคมีที่อยู่ประจำโรงไฟฟ้า ดูระบบการผลิตที่โรงไฟฟ้า ไม่ให้เกิดปัญหาในการผลิต ตั้งแต่นำน้ำเข้ามา ตรวจสอบและทำน้ำให้บริสุทธิ์ ส่วนที่สองก็คือเรื่องของการจัดหาสารเคมี ซึ่งมีการพัฒนาสูตรเคมีภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ EGATreat ที่สามารถผลิตสูตรตามความต้องการใช้งานของแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศได้ ส่วนที่สาม คือ ส่วนของการวิเคราะห์น้ำ น้ำมัน และน้ำทิ้ง ให้ได้ตามมาตรฐาน โดยมีศูนย์ปฏิบัติการทดสอบเคมี อยู่ที่สำนักงาน กฟผ. ไทรน้อย ที่มีเครื่องมือชั้นสูงและห้องปฏิบัติการระดับมาตรฐานสากล ที่สามารถวิเคราะห์ด้านเคมีครอบคลุมงานทุกประเภทได้ ซึ่ง 3 ส่วนนี้ เราเปิดให้บริการกับหน่วยงานภายนอกอย่างครบวงจรอีกด้วย
อยากให้ขยายความถึงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่งานบริการด้านเคมีของ กฟผ. ให้ความสำคัญ
เรามีการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอด อย่างในส่วนของมวลสารที่ปล่อยออกไปจากปล่องของโรงไฟฟ้า เราก็สามารถที่จะวัดได้ว่ามีฝุ่นเกินไหม มีสารอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่า ทั้งหมดต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนด้านน้ำทิ้ง เราก็มีกฎหมายตามกระทรวงอุตสาหกรรมดูแลอยู่แล้ว มีการตรวจวัดตามกฎหมายทุกประการ แม้ว่าจะเป็นการใช้สารเคมีกับน้ำ แต่เป็นการใช้สารเคมีเพื่อบำบัดให้สะอาด ซึ่งถือว่าเป็นสารเคมีพื้นฐานที่ไม่ได้เป็นอันตราย แล้วก่อนที่เราจะปล่อยออกไปก็มีการบำบัดให้สะอาดอีกครั้ง
นวัตกรรมและความก้าวหน้าของเคมีโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทุกวันนี้เป็นอย่างไร
งานด้านเคมีของเราได้ปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้สามารถติดตามคุณภาพน้ำแบบ Realtime ผ่านแอปพลิเคชันและการแจ้งเตือนทางมือถือได้ ซึ่งส่งข้อมูลให้เรารับรู้และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว หรือการพัฒนางานด้านการเลือกใช้สารเคมีกับโรงไฟฟ้า โดยหน่วยงาน R&D ที่ออกแบบสูตรเคมีภัณฑ์ที่ใช้งานเฉพาะกับโรงไฟฟ้าและคุณภาพของแหล่งน้ำนั้นๆ และยังมีงานวิจัยร่วมกับสถาบันต่างๆ และมหาวิทยาลัย เพื่อนำวัตถุดิบสารชีวภาพในไทย เช่น เปลือกกุ้ง เปลือกหอย สังเคราะห์ให้เป็นสารเคมีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการใช้งานสารเคมีจากต่างประเทศ นอกจากนั้นปัจจุบันในด้านงานวิเคราะห์ ก็มีเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน ซึ่งเครื่องมือหรือการทดสอบบางรายการ เราสามารถดำเนินการได้เพียงที่เดียวในไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย
มองว่าอะไรเป็นจุดเด่นที่ทำงานเคมีของ กฟผ. สามารถต่อยอดไปยังส่วนงานอื่นๆ ได้
นอกจากการดูแลการผลิตของโรงไฟฟ้าแล้ว จุดเด่นอีกอย่างของเราคืองานวิเคราะห์และจัดหาสารเคมีให้กับทางโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ระบบของการผลิตไฟฟ้า หรือระบบต่างๆ ของอุตสาหกรรมเป็นไปด้วยดี ไม่ขัดข้อง ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่เราก็สามารถทำได้อย่างครอบคลุม ฉะนั้นในเรื่องของความเชี่ยวชาญเคมีโรงไฟฟ้า เราถือว่ามีความเชี่ยวชาญยืนหนึ่ง
แล้วในส่วนงานด้านสังคม งานด้านเคมีได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมา ช่วงที่เจลแอลกอฮอล์ขาดแคลน เรามองว่าฝ่ายเคมีมีองค์ความรู้การผสมเคมีเพื่อใช้งานอยู่แล้ว ฉะนั้นเจลแอลกอฮอล์หรือตัวสเปรย์แอลกอฮอลล์ก็ไม่ยากมากเกินความสามารถของเราในการผสมและผลิต ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนวัตถุดิบจากพันธมิตร ได้แก่ กลุ่มบริษัทมิตรผล ที่บริจาคเอทานอลจากอ้อยมาเป็นวัตถุดิบ โดยสนับสนุนมาตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน รวมแล้วกว่า 55,000 ลิตร จึงนำมาสู่โครงการผลิตเจลแอลกอฮอล์และสเปรย์แอลกอฮอล์ เพื่อแจกจ่ายไปทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบขวดเล็ก ขวดกลาง และแกลลอน รวมกว่า 3 แสนขวด โดยใช้ความรู้ความสามารถด้านเคมี การแพทย์ ร่วมกับจิตอาสา และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ปฏิบัติงานของ กฟผ. เอง ยังได้ร่วมกันคิดค้นเครื่องบรรจุเจลแอลกอฮอล์ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการบรรจุ ทำให้สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากในเวลาที่รวดเร็วมาก
งานบริการด้านเคมีของ กฟผ. มีแผนงานในอนาคตอย่างไร
เรากำลังขยายธุรกิจเคมีให้ออกไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น เพราะหลายอุตสาหกรรมล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ทั้งอุตสาหกรรมผลิตอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีระบบบำบัดน้ำ ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำที่มีความบริสุทธิ์คล้ายกับโรงไฟฟ้า และเรามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเครื่องมือ ห้องปฏิบัติการที่มีคุณภาพสูง เราจึงขยายงานการบริการด้านเคมีให้ครอบคลุมทุกงานบริการในประเทศไทย อีกทั้งยังเจาะกลุ่มประเทศ CLMV หรือประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งเขาก็เริ่มพัฒนาเช่นกัน ทั้งในเรื่องของทั้งการสร้างโรงไฟฟ้าเอง หรือการเปิดประเทศให้มีอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น