คำว่า Sustainability หรือ ความยั่งยืน อาจเป็นคำที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในแวดวงธุรกิจในช่วงหลายปีมานี้ เพราะเป็นแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างสมดุลทั้งในแง่เศรษฐกิจขององค์กร สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสังคมอีกด้วย ทำให้การสร้างความยั่งยืน ไม่ใช่การสร้างแคมเปญ CSR ที่ทำแล้วจบไป แต่เป็นการใช้ความยั่งยืนให้กลายเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาว
Epson ผู้ผลิตเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์และโปรเจกเตอร์อันดับหนึ่งของโลกจากประเทศญี่ปุ่น คือหนึ่งในองค์กรที่ยึดปรัชญาความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติกับการเปิดตัวแคมเปญ ‘Be Cool’ นวัตกรรมใหม่ที่นำเสนอโซลูชันเพื่อการพิมพ์ โดยไม่ใช้ความร้อน ทำให้สามารถประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกด้วย
เพราะปัจจุบัน แบรนด์ที่สามารถเอาชนะใจผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้ ไม่ใช่แค่ผลิตสินค้าคุณภาพดีและบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาเพื่อสังคมอย่างจริงจัง อย่างที่ Epson ทำได้สำเร็จ
ความใส่ใจที่มีมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ก่อนที่ Epson จะเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องพิมพ์และโปรเจกเตอร์อันดับหนึ่งของโลก ได้เริ่มต้นจากการเป็นโรงงานผลิตนาฬิกาข้อมือ เมื่อทศวรรษที่ 1940 ก่อนจะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มเทคโนโลยีที่หลากหลายและมีสำนักงานสาขากระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งสิ่งที่ต้องกล่าวถึงเป็นพิเศษ คือบริษัทมีเป้าหมายด้าน CSR อย่างชัดเจนตั้งแต่แรก โดยเริ่มจากความพยายามรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมรอบทะเลสาบซูวะ ในจังหวัดนากาโน่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทให้สะอาดและมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ก่อนจะเติบโตขึ้นและกลายเป็นบริษัทแรกของโลก ที่ประกาศว่าจะกำจัดสาร CFC ที่ทำลายชั้นโอโซนออกจากกระบวนการผลิตทั้งหมด ก่อนที่จะประสบความสำเร็จตามที่ประกาศไว้ในปี 1993 และต่อมาในปี 2004 บริษัทก็ได้เข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และได้ประกาศให้การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ เรียกว่าเป็นความตั้งใจของบริษัทที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว
ทราบกันดีว่าหนึ่งในทางออกของการรักษาสิ่งแวดล้อม คือการลดใช้ทรัพยากรให้มากที่สุด ทำให้การรณรงค์ลดใช้กระดาษ และหันไปใช้ไฟล์ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ขณะเดียวกันในภาคธุรกิจ การใช้กระดาษยังคงมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง Epson ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับโลก จึงได้นำปรัชญาความยั่งยืนมาปรับใช้ ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนงานด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนบรรจุและการขนส่ง ซึ่งทุกกระบวนการล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ลูกค้าสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจได้นั่นเอง
Be Cool นวัตกรรมใหม่ของงานพิมพ์ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน Epson ยังคงพัฒนานวัตกรรมมากมายที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้คนและสร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยเปิดตัวแคมเปญ ‘Be Cool’ ที่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ของงานพิมพ์ที่สามารถรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี Heat-Free ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการพิมพ์ ช่วยให้ประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วไปถึง 85% พร้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 85% และสำคัญที่สุด เนื่องจากไม่มีการใช้ความร้อน ทำให้มีชิ้นส่วนหรืออะไหล่ภายในตัวเครื่องที่น้อยกว่า ช่วยลดการใช้ชิ้นส่วนได้มากถึง 59% เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบบปกติ
เท่านั้นยังไม่พอ Epson ยังออกแบบเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่มีนวัตกรรมช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดมากขึ้น อย่างเช่น เครื่องพิมพ์กลุ่ม EcoTank ที่มาพร้อมกับแท็งค์หมึกความจุสูง รองรับการพิมพ์ในปริมาณมาก ไม่ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์เหมือนการใช้ตลับหมึกหรือโทนเนอร์ ช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ให้ประสิทธิภาพสูง แถมยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก หรือจะเป็นเครื่องพิมพ์กลุ่ม WorkForce Pro และ WorkForce Enterprise ที่ให้ความเร็วการพิมพ์สูงสุดถึง 100 หน้าต่อนาที มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยในการจัดชุดกระดาษและเย็บเล่มอีกด้วย
ความน่าใจคือ Epson ยังมีแผนพัฒนาและนำเสนอระบบรีไซเคิลกระดาษแบบแห้งหรือ Epson PaperLab ให้กับทุกสำนักงาน ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่สามารถนำกระดาษที่ใช้แล้ว นำมาย่อยสลายและขึ้นรูปให้กลับมาเป็นกระดาษใหม่ได้ เป็นหนึ่งในโซลูชันการรีไซเคิลกระดาษที่ผู้ใช้งานสามารถทำเองได้ เรียกว่าเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างครบวงจร
ต่อยอดความยั่งยืน ให้มากกว่านวัตกรรม
นอกเหนือจากเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่คิดมาเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแล้ว Epson ยังได้แสดงออกถึงจุดยืนในการสนับสนุนความยั่งยืน ผ่านกิจกรรม CSR ตาม SDGs ขององค์การสหประชาชาติมาโดยตลอดอีกด้วย โดยได้แสดงความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สิทธิมนุษยชน การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายของบุคลากรในที่ทำงาน การใช้ทรัพยากรที่คำนึงถึงความยั่งยืนในกระบวนการซัพพลายเชนทั้งหมด
อย่างในไทย Epson ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของ Life on Land โดยร่วมกับมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรม Wheel for Wild ปั่นพิทักษ์ป่าขึ้น โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องพิมพ์ Heat-Free เพื่อใช้ในการพิมพ์ประกาศนียบัตรจากทางมูลนิธิฯ โดย Epson จะร่วมสมทบทุน 30 บาท ต่อทุก 1 ใบประกาศนียบัตรที่ถูกพิมพ์ออกมา มอบให้กับมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปใช้ในการรณรงค์ป้องกันการสูญพันธุ์ของสัตว์และพรรณพืชหายากในประเทศไทยได้ต่อไป
ความตั้งใจของ Epson ในการสร้างความยั่งยืนได้เป็นผลสำเร็จ ยืนยันได้จากเหรียญแพลตทินัมด้านความยั่งยืนที่ EcoVadis บริษัทจัดอันดับองค์กรด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในแบบองค์รวม มอบให้ในปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ประเมินองค์กรธุรกิจมากกว่า 75,000 บริษัท จาก 200 อุตสาหกรรม ใน 160 ประเทศทั่วโลก โดย Epson ได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มองค์กรที่ได้คะแนนสูงสุด ซึ่งมีเพียง 1% ในอุตสาหกรรมการผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงที่สามารถสร้างผลงาน CSR ได้ประสบผลสำเร็จ
“ภารกิจของเอปสันคือการสร้างความไว้วางใจให้กับทุกภาคส่วน ด้วยการเติบโตของธุรกิจ ความสำเร็จในการดำเนินงาน และพันธกิจเพื่อการสร้างโลกที่ดีขึ้น วิสัยทัศน์สู่ความยั่งยืนในอนาคตของเรา ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะลดการก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอน โดยมุ่งให้ความรู้กับสาธารณชน พร้อมทำงานร่วมกับเยาวชน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนต่อไป” ซิ่ว จิน เกียด ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาค เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงภารกิจของ Epson ในการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
Content by Wichapol Polpitakchai
Illustration by Waragorn Keeranan