แม้กระแสตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ดูเหมือนไม่กี่ปีมานี้ ธุรกิจต่างๆ พยายามปรับตัวเป็นธุรกิจสีเขียวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในบ้านเราที่กระตือรือร้นเป็นพิเศษ หนำซ้ำยังมีกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือด้านนี้อย่างจริงๆ จังๆ เสียที
ขณะที่ภาคธุรกิจก็มิได้นิ่งนอนใจ หลายแบรนด์ก็ปั้นแคมเปญหรือสินค้ารักษ์โลกออกมา ด้วยความหวังว่าจะเป็นส่วนเล็กๆ ในการขับเคลื่อนโลกสีเขียวและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งทำได้ด้วยการเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวเอง
ท่ามกลางกระแสรักษ์โลกที่เกิดขึ้นทั่วโลกตอนนี้ หากเรายังไม่เริ่มเปลี่ยน แล้วเราจะเหลืออะไรเพื่ออนาคตของเรากันล่ะ?
ไม่ใช่โลกร้อนธรรมดา แต่ร้อนระดับวิกฤติแล้ว
นับตั้งแต่สารคดีเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน An Inconvenient Truth (2006) ออกฉาย คำว่า สภาวะโลกร้อน (Global Warming) และ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นจนเกิดกระแสตื่นตัวอยู่ระยะหนึ่ง
น่าเสียดายที่มันยังส่งผลกระทบไม่แรงพอ เพราะล่าสุดในปี 2019 นี้ สภาวะโลกร้อนได้ทวีความรุนแรงเกินกว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศธรรมดา เมื่อสื่อใหญ่อย่าง The Guardian เลิกใช้คำว่า เปลี่ยนแปลง (Change) และบอกว่ามัน วิกฤติ (Crisis) หนำซ้ำยังรุนแรงจนกู่ไม่กลับแล้วด้วย
ในเมื่อทุกคนล้วนอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ เราจึงมีส่วนร่วมและได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ปัญหาโลกร้อนจึงไม่ใช่ปัญหาที่ไกลตัวอีกต่อไป ฉะนั้นปัญหานี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
การตื่นตัวทั่วโลกที่ธุรกิจไทยต้องตระหนัก
จะว่าไปแล้วภาคธุรกิจมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งการเป็นผู้สร้างผลกระทบและผู้ที่ได้รับผลกระทบ นับตั้งแต่การผลิตสินค้า การขนส่ง ไปจนถึงการใช้งานทั้งในด้านอุปโภคบริโภค ล้วนสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สอดคล้องกับงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature ว่า อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมนั่นเอง
ท่ามกลางกระแสตื่นตัวทั่วโลก ภาคธุรกิจจึงหันมาสร้างแคมเปญและสร้างสรรค์สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ยกตัวอย่างแบรนด์สินค้าระดับโลกหลายๆ แบรนด์ เริ่มประกาศว่าจะใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2025 กันแล้ว
เช่นเดียวกับประเทศไทย บรรดาแบรนด์สินค้าต่างๆ ก็ตื่นตัวไม่แพ้กัน ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เริ่มรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550 หรือผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศก็ประกาศว่าในปี 2568 บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดจะต้องนำมาใช้ซ้ำ-ใช้ใหม่-ย่อยสลายได้ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกต้องตระหนักและปรับตัวเพื่อโลกของเรา
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
ธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ควรตระหนักอยู่เสมอว่าทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น เราจึงควรแสดงความรับผิดชอบ และต้องพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรตนเองเช่นเดียวกับ “Epson” ที่ใส่ใจในการช่วยแก้ปัญหานี้เช่นกัน ด้วยเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจจากเอปสัน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานภายใต้แนวคิด “The Ecological Choice” หรือการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดนั่นเอง
ในฐานะเจ้าของธุรกิจหรือบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจ การเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากผีเสื้อกระพือปีกยังสะเทือนถึงดวงดาว การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดการเกิดมลพิษ หรือแม้แต่การเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยตอบโจทย์ในการรักษ์โลก สร้างความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
Epson เครื่องพิมพ์ที่ตอบโจทย์เพื่อทุกองค์กร
เอปสันได้พัฒนาเครื่องพิมพ์เพื่อการใช้งานในองค์กร ช่วยสร้างความยั่งยืนทั้งทางธุรกิจและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน ด้วยเทคโนโลยีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วไปได้ถึง 85% การออกแบบตัวเครื่อง การใช้อะไหล่และวัสดุสิ้นเปลืองที่น้อยลงกว่า 59% ที่สำคัญคือการใช้งานเครื่องพิมพ์ยังลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้น้อยกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ถึง 85%*
นอกจากนี้ เอปสันยังพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูงผลิตงานพิมพ์ออกมาได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ ช่วยลดขั้นตอนการพิมพ์ เครื่องพิมพ์มาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย ทั้งการพิมพ์ คัดลอก สแกน ฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบการจัดการผู้ใช้งาน ที่ช่วยตรวจสอบผู้ใช้งานและปริมาณงานพิมพ์พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังตอบโจทย์ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หากองค์กรใดกำลังมองหาเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจตัวใหม่อยู่ “Epson” จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เพราะการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจสีเขียว เริ่มต้นได้จากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในวันนี้เพื่อรักษาโลกของเราให้ยั่งยืนในอนาคต สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.epson.co.th/ecologicalchoice
อ้างอิงข้อมูลจาก
*ดูรายละเอียดผลการทดสอบเพิ่มเติมที่ https://www.epson.co.th/ecologicalchoice
https://www.theguardian.com/environment/2019/oct/16/guardian-language-changes-climate-environment
https://foodtank.com/news/2019/08/rethinking-food-packaging-may-address-the-plastic-crisis/
https://www.prachachat.net/spinoff/spinoff-featured/news-260028