ใครๆ ก็บอกว่าประเทศไทยมีเพียงแค่สองฤดูคือร้อนกับร้อนมากกก (ลากเสียง)
เพียงแค่อุณหภูมิเฉลี่ยของบ้านเราในปีนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเขาคาดคะเนไว้อยู่ที่ 35-36 องศาเซลเซียส แต่ถ้าเป็นช่วงพีคๆ อย่างช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเมษายน อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 42-43 องศาเซลเซียส! เพียงแค่นึกเหงื่อก็แทบแตกเต็มหน้าผากแล้ว
อุณหภูมิความร้อนระดับนั้นย่อมไม่ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวันแน่ๆ ผู้คนในบ้านเราส่วนมาก มักจะเลือกทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ภายในร่มอยู่เสมอ (นอกเสียจากไม่มีทางเลือกจริงๆ อ่ะนะ) ซึ่งภายในร่มที่ว่าก็จำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่าง ‘แอร์’ หรือเครื่องปรับอากาศคอยปรับอุณหภูมิให้เย็นลง ชีวิตถึงจะดำเนินต่อไปได้อย่างเย็นสบายราบรื่น เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่สร้างคณูประการแก่มนุษย์เราเป็นอย่างมาก
ลองไปดูว่าอุณหภูมิที่เย็นลง นอกจากจะทำให้เราสบายตัวเหงื่อไม่แตกแล้ว แอร์ยังทำให้ชีวิตเราดีขึ้นในด้านไหนๆ ได้อีกบ้าง
แอร์ทำให้เราไม่หัวร้อน
อากาศร้อนทำให้คนเราเป็นบ้า คือความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเรื่องของอากาศส่งผลต่ออารมณ์ของมนุษย์เราเป็นอย่างมาก ลองสังเกตง่ายๆ เมื่อใดที่เรากำลังหัวร้อนโมโหกับเรื่องอะไรสักอย่าง อุณหภูมิของร่างกายของเราจะสูงขึ้นไปตามอารมณ์ หัวใจจะเต้นแรงผิดปกติ เหงื่อจะเริ่มออก เพราะร่างกายจะพยายามขับความร้อนออกจากร่างกายเพื่อรักษาความเย็นของร่างกายให้ปกติไว้
ข่าวการทะเลาะเบาะแว้งชกต่อยตีกันตามท้องถนนที่เห็นกันในคลิปออนไลน์ ส่วนหนึ่งจะโทษอากาศที่ร้อนเกินไปก็ยังได้ แต่เมื่อใดที่อุณหภูมิภายนอกเย็นสบาย อารมณ์ก็จะดีตามไปด้วย ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยที่เหมาะกับร่างกายและอารมณ์ของมนุษย์มากที่สุดคือ 25 องศาเซลเซียสหรืออุณหภูมิในห้องแอร์นั่นเอง จึงไม่แปลกที่สถานที่ที่มีคนเยอะๆ มักจะมีการตั้งอุณหภูมิไว้ที่ระดับนี้อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าเริ่มจะหัวร้อน รีบหาห้องแอร์เย็นๆ ดับร้อนทั้งใจและกายโดยด่วน
แอร์ทำให้เราสุขภาพดี
ถ้าจะบอกว่าแอร์ช่วยให้สุขภาพดีแบบตรงๆ หลายคนอาจสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง แต่ถ้าบอกว่าแอร์เกี่ยวข้องกับคุณภาพการนอนหลับที่ส่งผลต่อสุขภาพก็น่าจะเห็นภาพกันมากขึ้น Dr. Christopher Winter ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับจาก Charlottesville Neurology & Sleep Medicine ยืนยันว่าอุณหภูมิที่เหมาะแก่การนอนหลับมากที่สุดจะอยู่ที่ 15-20 องศาเซลเซียส เพราะถ้าร้อนหรือเย็นจนเกินไป ร่างกายจะต้องใช้พลังงานเพื่อปรับอุณภูมิภายในให้เหมาะสม ส่งผลให้ตอนนอนรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายตัว หรือหนักถึงขั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน ถ้าทุกคืนของการนอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า เมลาโทนิน มากขึ้น มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติ anti-aging แบบไม่ต้องกินอาหารเสริม แถมช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงอีกด้วย เพราะฉะนั้นเปิดแอร์ให้เย็นพอดี ได้นอนหลับสบายพอเหมาะ สุขภาพก็ดีตามแน่นอน
แอร์ช่วยให้เราทำงานได้เวิร์กขึ้น
เคยสงสัยไหม ว่าทำไมงานศิลปะดีๆ หรืองานออกแบบระดับโลกในอดีตถึงได้เกิดขึ้นในประเทศแถบยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ว่าคนแถบเอเชียบ้านเราฉลาดน้อยกว่า แต่เป็นเพราะสภาพภูมิอากาศของบ้านเขาที่เย็นสบาย เหมาะแก่การคิดสร้างสรรค์อะไรได้ดีกว่านั่นเอง มีผลศึกษาจาก Cornell University ได้ทดสอบอุณหภูมิห้องกับบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา ปรากฏว่าอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสคือระดับอุณหภูมิที่เอื้อต่อความ productivity และ creativity มากที่สุด
ดังนั้นออฟฟิศทำงานทุกแห่งจึงต้องมีแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับเบสิคที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ในเมื่อมีนวัตกรรมของแอร์ที่ช่วยให้ไม่ว่าที่ไหนก็มีอุณหภูมิห้องที่เหมาะแก่การทำงานขนาดนี้แล้วล่ะก็ จะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
แอร์ทำให้ชีวิตดีในวันหยุด
เกิดเป็นคนไทยช่างน่าเศร้าใจ เพราะถึงวันหยุดยาวหน้าร้อนทั้งที แต่วันที่อากาศดีๆ จนออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้านได้แบบชิลล์ๆ นั้นช่างน้อยนัก เราจึงได้แต่หลบร้อนเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเสียส่วนใหญ่ แถมการอยู่ในบ้านจะเปิดพัดลมอย่างเดียวก็ไม่น่าจะรอด ต้องพึ่งพาแอร์เย็นๆ เปิดผึ่งให้หนำใจ เปลี่ยนอากาศอันร้อนอบอ้าวกลายเป็นอากาศดีๆ ให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้อย่างสบายใจในวันหยุด ซึ่งแอร์สมัยนี้ก็ยังมีฟังก์ชันล้ำๆ สำหรับคนรักสุขภาพ
อย่างแอร์ของ Mitsubishi Heavy Duty ที่มีฟิลเตอร์แบบเลือกเปลี่ยนเองได้ตามชอบ ทั้ง Natural Enzyme Filter ที่มีส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติ สามารถป้องกันและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ, Natural Solar Filter ช่วยกรองอากาศกำจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทำให้อากาศในห้องมีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น, Anti-allergy & Activated carbon filter ช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตรายและฝุ่นละอองในอากาศ หรือจะเป็น Vitamin C Filter ช่วยทำให้อากาศที่ออกมามีวิตามิน C ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น ได้อยู่ท่ามกลางอากาศดีมีคุณภาพแบบนี้ แค่นอนอยู่บ้านก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับวันหยุดยาวๆ แล้ว
แอร์ดีๆ ต้องใช้ระบบ Inverter แท้ทั้งระบบ
ถึงแอร์จะสร้างคณูประการให้ชีวิตเราดีขึ้นขนาดไหน แอร์ก็เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เข้าข่ายกินไฟมากที่สุด การเลือกแอร์ที่ดีจึงไม่ต่างอะไรกับการเลือกสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต การจะได้มาซึ่งอากาศเย็นสบายก็ไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองเสมอไป เพราะแอร์ของ Mitsubishi Heavy Duty ได้พัฒนาเทคโนโลยีการทำงานโดยใช้ Inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) ประกอบด้วย 4 ชิ้นส่วน คือ แผงวงจรอัจฉริยะ PAM, คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC, มอเตอร์กระแสตรง, วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV โดยทั้งสี่ชิ้นมีบทบาทในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาระดับอุณหภูมิห้องให้คงที่และประหยัดไฟได้มากกว่า แตกต่างจากแอร์ที่ไม่ใช่ระบบ Inverter แท้ทั้งระบบ ที่เมื่อเครื่องทำงานถึงระดับอุณหภูมิที่กำหนดไว้ คอมเพรสเซอร์จะตัดการทำงานและต่อขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อห้องร้อนขึ้น ตัดอีกครั้งเมื่อห้องเย็น วนไปเรื่อยๆ ซึ่งการต่อแต่ละครั้งจะทำให้เกิดการกระชากไฟสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าเห็นๆ
แต่ถ้าเป็นระบบ 100% Real Inverter แท้ทั้งระบบ จะมีการดึงไฟฟ้าในสภาวะแรงดันสูงมาใช้เพียงครั้งเดียวเมื่อตอนเปิดเครื่อง แต่ถ้าถึงระดับอุณหภูมิตามที่กำหนดไว้แผงวงจรอัจฉริยะ PAM จะสั่งการให้คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC และมอเตอร์กระแสตรง DC ลดรอบการทำงานลง แต่ไม่ตัดการทำงานเพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานสูงสุด และวาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV คอยปรับระดับสารทำความเย็นให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับอุณหภูมิห้องได้อย่างแม่นยำ ทั้งสี่ชิ้นส่วนทำงานสัมพันธ์กันเพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องไว้ให้คงที่ตลอดการใช้งานและให้เกิดการประหยัดพลังงานสูงสุดไปพร้อมๆ กัน
ทั้งประหยัด ทั้งเย็นสบายขนาดนี้ก็ลองให้ Mitsubishi Heavy Duty เป็นหนึ่งตัวช่วยให้ชีวิตดีในหน้าร้อนนี้กันเถอะ
อ้างอิง
http://climate.tmd.go.th/content/file/719
https://www.getholistichealth.com/14463/how-a-rooms-temperature-affects-your-mood/
https://www.simplemost.com/science-says-sleeping-cold-room-better-health-because-body-heat/