“เป็นฟรีแลนซ์สบายจะตาย”
หนึ่งในประโยคที่พวกเราชาวฟรีแลนซ์มักจะได้ยินบ่อยๆ จากเหล่าเพื่อนฝูงที่ทำงานประจำอยู่ในระบบ อาจด้วยภาพของเราที่ถูกโชว์ออกไปว่าคนที่เป็นฟรีแลนซ์นั้นช่างมีชีวิตที่สุดชิล อยากจะทำงานเมื่อไหร่ก็ทำ อยากจะหยุดเมื่อไหร่ก็หยุด อยากจะดูหนังรอบเที่ยงก็ทำได้ อยากจิบกาแฟเก๋ๆ ก็เดินเข้าร้านได้เสมอ หรืออยากจะไปเที่ยวต่างประเทศยาวๆ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องวันลาวันหยุดใดๆ สามารถออกไปเที่ยวได้แบบไม่ต้องแคร์เพราะเราเป็นเจ้านายของตัวเองอยู่แล้ว จนบางครั้งก็สงสัยว่าตกลงแล้วมันเอาเวลาที่ไหนไปทำงานวะเนี่ย ไปๆ มาๆ ทำไมมันดูเหมือนเป็นคนขี้เกียจไม่ทำงานทำการไปซะงั้น
ถึงแม้จะมีเบื้องหน้าที่สวยงาม แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าเหล่าฟรีแลนซ์นั้นต่างมีเบื้องหลังที่เปื้อนคราบน้ำตาซ่อนไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเจอลูกค้าใจร้ายที่ชอบของานด่วนเย็นนี้แต่ไม่รู้จะจ่ายเงินชาติไหน วันหยุดที่ไม่มีอยู่จริงเพราะลูกค้าสามารถตามงานได้ตลอดเวลา กว่าจะได้มีวันหยุดก็คือวันที่ไม่มีงานเข้า ซึ่งนั่นก็หมายถึงไม่มีเงิน บางเดือนก็ยิ่งกว่ากัดก้อนเกลือกิน แต่บางเดือนงานก็ถั่งโถมเข้ามาแบบที่รับมือกันไม่ไหว เรียกได้ว่าไม่เคยมีอะไรพอดี แถมที่ไม่มีแน่ๆ คือสวัสดิการที่เหล่าคนทำงานประจำได้รับกันแบบถ้วนหน้า เรียกได้ว่าอยากได้อะไรก็ต้องไขว่คว้ากันเอาเองนะจ๊ะ
อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว จากอาชีพสุดสบาย อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นอาชีพสุดแสนรันทดไปซะอย่างนั้น ซึ่งก็ใช่ว่าการเป็นฟรีแลนซ์นั้นจะไม่มีข้อดีเอาซะเลย อย่างที่ว่าไปคือมันเป็นอาชีพที่มีความยืดหยุ่นทางด้านเวลา และสำหรับหลายคนนั้นก็สามารถใช้เป็นหนทางที่จะพาพวกเค้าไปสู่ความฝันในอนาคตได้
แล้วพวกเราเหล่าฟรีแลนซ์จะเอาตัวรอดจากอุปสรรคเหล่านั้นที่ถาโถมเข้ามากันยังไงดี? วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกท่าน ด้วยคีย์ง่ายๆ แต่สุดสำคัญสามข้อ นั่นคือ ‘งานตรึม เงินเต็ม เจ็บไม่จน’ ที่ K-Expert บริการที่ปรึกษาการเงิน ธนาคารกสิกรไทยแท็กทีมกับสุดยอดฟรีแลนซ์ตัวจริงอย่าง เต๋อ–นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ และ ปอมชาน–ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง แนะนำไว้ในงาน “ยอดมนุษย์ฟรีแลนซ์ เหนื่อยนัก ก็พักได้” ที่ K-Expert จัดขึ้นสำหรับฟรีแลนซ์โดยเฉพาะ
งานตรึม
จริงๆ มันก็ไม่ใช่เฉพาะฟรีแลนซ์ที่ต้องทำงานล่ะเนอะ คือถ้าคุณไม่ใช่บุคคลที่สามารถดำรงชีวิตได้ด้วยการเก็บของป่าหรือล่าสัตว์มาทำอาหาร ยังไงคนเรามันก็ต้องทำงานเพื่อแลกเงินไปซื้อข้าวกันอยู่ดี แต่กับฟรีแลนซ์นั้นอาจจะต่างออกไปนิดหน่อยตรงที่เราไม่ได้มีรายได้เข้ามาประจำทุกเดือนเหมือนกับพนักงานทั่วไป วิถีส่วนใหญ่นั้นจะได้เงินกันเมื่อทำงานเสร็จชิ้นต่อชิ้น ซึ่งหมายความว่าถ้างานหดเมื่อไหร่ก็หมายถึงรายได้ที่หายตามไปด้วย
เพราะฉะนั้นคำถามสำคัญของการเป็นฟรีแลนซ์นั่นคือจะทำยังไงให้งานที่เรารักนั้นยังถูกป้อนเข้ามาเรื่อยๆ และคำตอบง่ายๆ ข้อแรกนั้นก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพราะมันอยู่ที่คอนเน็กชันที่เรามี
และการสร้างคอนเน็กชันนั้นก็มีวิธีง่ายๆ อยู่เพียงหนึ่งวิธี นั่นคือการทำงานของเราให้ดีที่สุดเมื่อมีโอกาส เมื่องานดีลูกค้าก็ดีใจ และเมื่อมีงานใหม่ลูกค้าก็จะคิดถึงเรา เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการสร้างคอนเน็กชันอันแข็งแกร่งกับลูกค้าสุดที่รักของเราแล้ว และดีไม่ดีก็อาจจะมีการแนะนำและบอกต่อให้กับลูกค้าคนอื่นอีกต่างหาก คราวนี้ล่ะรับงานกันไม่หวาดไม่ไหวทีเดียวเชียว
ในเรื่องของงาน เต๋อ ได้แชร์หลักคิดในการทำงานว่า “เน้นทำงานน้อยชิ้นแต่มีคุณภาพ” เพื่อให้มีเวลาคิดและแก้ไขงานอย่างเต็มที่ ส่วนปอมชานใช้เทคนิควางแผนหาลูกค้าอย่างเป็นระบบ คือวิเคราะห์ตลาด มองหาลูกค้าว่าใครต้องการผลิตภัณฑ์ของเราและโฟกัสเจาะให้ตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้โอกาสได้งานที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเป็นฟรีแลนซ์ที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างชื่อสร้างผลงาน ในช่วงปีแรกๆ อาจต้องขยันหาลูกค้า เพื่อให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
แต่นอกจากงานเราจะดีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือการบริหารเวลาชีวิต หลายคนอาจจะมองว่าคนเป็นฟรีแลนซ์นั้นช่างมีชีวิตที่ดี อยากจะทำงานก็ทำ ไม่อยากทำก็หยุด อะไรจะสบายปานนั้น แต่ความจริงแล้วสิ่งนี้ก็เหมือนเป็นกับดักของหมู่เราชาวฟรีแลนซ์ เพราะด้วยอิสระที่มากเกินไปทำให้บางคนเสพติดความสุขสบายแบบถลำลึก จนเกิดเป็นหายนะเมื่อพบว่าไม่สามารถทำงานในมือให้เสร็จทันเวลาได้ และนั่นย่อมหมายถึงการล่มสลายของคอนเน็กชันที่เคยสร้างมา เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเรานั้นมันอาจเทียบกันไม่ได้เลยกับความเสียหายของทางลูกค้า และเมื่อความไว้ใจที่มีนั้นหมดลงเราก็คงจะต้องแยกจากกัน เพราะฉะนั้นถึงแม้เราจะมีอิสระในการใช้ชีวิตแค่ไหนแต่ก็ต้องไม่ลืมใส่ใจที่จะบริหารเวลาในการทำงานด้วย
สิ่งสุดท้ายที่เราสามารถใช้ในการสร้างงาน นั่นก็คือการสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวออกมา หาความโดดเด้งเฉพาะตัวให้เจอ เพราะสิ่งนั้นจะกลายเป็นแบรนด์เฉพาะของตัวเราเอง และทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่สามารถมีใครมาทดแทนได้นั่นเอง
เงินเต็ม
“เงินทองเป็นของนอกกาย หมดแล้วก็หาใหม่ได้” คติสอนใจที่สอนให้เราไม่ยึดติดกับทรัพย์สินใดๆ มากไปนัก ซึ่งสำหรับคนที่มีเงินมากมายอยู่แล้วก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาของฟรีแลนซ์หลายคนคือพอเงินนอกกายหมดแล้วมันหากลับมาใหม่ไม่ค่อยได้นี่สิ…
ฟรีแลนซ์เป็นอาชีพที่อาจเรียกได้ว่ามีความไม่แน่นอนอยู่สูงมากทั้งเรื่องงานและเรื่องเงิน แน่นอนว่าถ้าหากไม่มีงาน นั่นก็หมายถึงการไม่มีเงิน แต่บางครั้งมันมีงานเข้ามาแล้ว เงินดันไม่เข้ามาด้วยซะงั้น ซึ่งเป็นปัญหาจริงที่หลายคนประสบพบเจอจนทำให้แผนการณ์ในชีวิตรวนกันมานักต่อนัก ซึ่งสิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนั้นก็มีแค่นั่งหน้าซีดและคิดว่าจะทำยังไงกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กำลังจะถาโถมเข้ามาในเดือนหน้าดี
หากไม่อยากประสบพบเจอกับเหตุการณ์สุดหลอนเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก K-Expert แนะนำสิ่งที่ทุกท่านควรทำนั้นคือให้กัน ‘เงินสำรอง’ ประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนเผื่อเอาไว้ในกรณีที่ฉุกเฉิน หากงานไม่มีหรือรายได้ไม่มาจะได้พอมีเงินมาใช้จ่ายและดำรงชีวิตระหว่างนั้นได้ ซึ่งเงินก้อนนี้เราก็สามารถเลือกวิธีเก็บได้หลายแบบ ทั้งเก็บสำรองไว้ในบัญชีเงินฝาก หรือกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่างกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
และเมื่อเรามีเงินสำรองเพียงพอไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้ว เราก็ขอแนะนำให้คุณสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอขึ้นด้วยการศึกษาการลงทุนไว้บ้าง เพราะเมื่อรายได้จากการทำงานนั้นมันไม่มั่นคงและแน่นอน การลงทุนในสินทรัพย์การเงินเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นลงทุนในหุ้นปันผล หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงการปล่อยเช่าคอนโดฯ และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ แต่ทั้งนี้ ก่อนลงทุนเราก็ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดี ทั้งรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงหรือโอกาสขาดทุน เพื่อเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะกับตัวเราที่สุด
นอกจากเงินสำรองฉุกเฉินและรายได้ที่ต่อเนื่องแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและอาจจะต้องมองให้ไกลกว่าเดิมหน่อย นั่นคือการเก็บเงินเกษียณ แม้ว่าฟรีแลนซ์จะเป็นอาชีพอิสระที่ไม่มีอายุเกษียณแบบมนุษย์เงินเดือน หากยังมีแรงทำงาน ก็รับงานได้เรื่อยๆ แต่เมื่ออายุมากขึ้นจะให้มาทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบเดิมก็คงจะไม่ไหว หรือบางคนก็อยากจะพักผ่อนใช้ชีวิตสบายๆ ยามบั้นปลาย จึงต้องเตรียมตัวเก็บเงินแต่เนิ่นๆ ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บออมหรือการลงทุนต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่ายามเกษียณจะมีเงินเพียงพอใช้จ่ายจริงๆ
เจ็บไม่จน
ก็อย่างที่ชื่อหนัง ‘ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ’ ของเต๋อ-นวพลบอกเอาไว้นั่นแหละ ว่าคนที่เป็นฟรีแลนซ์นั้นการป่วยเหมือนกับของต้องห้าม (ส่วนเรื่องพักกับเรื่องรักหมอ จริงๆ ก็พอจะทำได้ตามอัธยาศัยนะ (ฮิ้ววว)) เพราะการป่วยจนทำงานได้น้อยลงนั่นหมายถึงรายได้ที่ขาดหาย ซึ่งพอรายได้ไม่พอก็ยิ่งต้องทำงาน แต่ยิ่งทำงานร่างกายก็ยิ่งป่วย มันก็ไปกันใหญ่ แล้วยิ่งฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่นั้นไม่มีสวัสดิการในการรักษาพยาบาลเหมือนใครเค้า พอเจ็บป่วยก็ต้องควักเงินตัวเองเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลแบบเต็มๆ จนบางครั้งก็เริ่มไม่แน่ใจว่าที่อาการเราทรุดหนักกว่าเดิมนั้นมันเป็นเพราะโรคที่มันร้ายแรงขึ้นหรือเพราะเราเห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายในใบเสร็จกันแน่
และสิ่งที่จะมาช่วยเราบรรเทาค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้นั่นคือการทำประกันนั่นเอง โดยประกันที่แนะนำ คือประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรง ที่เป็นเหมือนการจ่ายเงินก้อนเล็กๆ เตรียมไว้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น และอีกหนึ่งตัวประกันชดเชยรายได้ ที่จะเพิ่มความอุ่นใจให้มากขึ้นอีกขั้น เพราะหากเราป่วยหนักขนาดที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำงานไม่ได้ รับงานไม่ไหว จนรายได้หดหาย ประกันตัวนี้ก็จะจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ตามจำนวนวันที่เรานอนโรงพยาบาลนั่นเอง เพียงเท่านี้เราก็สามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายจากความเจ็บป่วยไปได้บ้างแล้ว แต่แน่นอนว่าประกันแต่ละชนิดก็มีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะ
ทั้งสามข้อที่ว่ามานั้นถือเป็นพื้นฐานง่ายๆ ที่ใครๆก็สามารถนำเอาไปใช้เพื่อให้ชีวิตฟรีแลนซ์ของตัวเองสมบูรณ์และมีความสุขยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเราก็รู้ว่าหลายๆ คนยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี เพราะฉะนั้นเราเลยอยากจะขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ K-Expert บริการที่ปรึกษาการเงิน ธนาคารกสิกรไทย โดยทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องการเงินโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และ K-Expert Center ศูนย์บริการให้คำปรึกษาด้านการเงิน บนชั้น 2 อาคารจามจุรีสแควร์ ที่จะให้คำปรึกษากับคุณแบบเจาะลึกเป็นรายบุคคล โดยทีม K-Expert ผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานระดับ CFP (Certified Financial Planner) ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเข้าใจความต้องการของคุณ ที่จะมาช่วยคิดและคอยให้คำแนะนำที่ถูกต้อง โดยที่ศูนย์บริการแห่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ K-Expert ประจำอยู่ทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ สะดวกวันไหนก็สามารถเข้าไปหาได้วันนั้น แถมยังมีการจัดกิจกรรม Workshop ทั้งด้านการเงิน การออม การลงทุน และหัวข้อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เพื่อให้ทุกเป้าหมายของคุณเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ผ่านแนวคิด “ช่วยคิดทุกเรื่องการเงิน” เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีและนำคุณไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K-Expert
#KExpert #Freelance #ยอดมนุษย์ฟรีแลนซ์เหนื่อยนักก็พักได้ #งานตรึมเงินเต็มเจ็บไม่จน