จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เมื่อหลอมรวมเข้าด้วยกัน มักสร้างศักยภาพที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าที่เราคาดคิดไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม
คุณเฝ้ามองเมืองหลวงระดับมหานครที่กำลังเติบโต การคมนาคมที่รวดเร็วจนเกือบทะลุกำแพงเสียง ยารักษาโรคอุบัติใหม่ที่ผลิตได้อย่างทันท่วงที แม้กระทั่งสื่อบันเทิงอันล้ำหน้าที่ทำลายเส้นบางๆระหว่าง “โลกเสมือน” และ “โลกแห่งความจริง” ออกจากกัน เหมือนเราจะมีศักยภาพทำทุกอย่างในจินตนาการ ให้กลายเป็นความจริงได้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก อย่างไรเราก็ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์สายพันธุ์ Homo sapiens อยู่แล้ว เพราะ sapiens เป็นภาษาลาตินที่แปลว่า Wise หรือ สิ่งมีชีวิตที่มีปัญญานั่นเอง เขาว่าจินตนาการกับฝันกลางวันมันใกล้กันนิดเดียว?
จินตนาการของมนุษย์ล้วนเตลิดไปไกล แต่หาใช่ไร้แก่นสาร
กลไกความคิดฟุ้งๆ แบบ ‘ฝันกลางวัน (Daydreaming)’ เคยถูกตัดสินว่าไร้สาระและไม่นำพาประโยชน์ใดๆ กลับถูกเหมารวมว่าเพ้อเจ้อ แต่ภายใต้สังคมที่เรียกร้องให้คุณมีสติตลอดเวลา ฝันกลางวันจึงเป็นทางออกสู่การแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากตรรกะเดิมๆ ที่คุณคุ้นชิน ฝันกลางวันจึงอยู่ในความสนใจของนักจิตวิทยาและประสาทวิทยามาอย่างยาวนาน สมองเราจัดการกับความคิดที่ดูเหมือนจะไร้แก่นสารเหล่านี้อย่างไร
พวกเขาพบว่าภาวะฝันกลางวันคือกลไกหนึ่งที่สมองปล่อยวางสติสัมปชัญญะ เข้าสู่ Default Mode สถานะค่ากลางซึ่งเชื่อมโยงกับสมองบางส่วนที่สั่งการให้ ‘เปิดหรือปิดกิจกรรมประสาทในสมอง’ ที่มักเกี่ยวกับประสบการณ์และความทรงจำ หากเราใช้ฝันกลางวันอย่างเข้าใจ ความคิดลมๆ แล้งๆ อาจนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาที่คาดไม่ถึง และปลดพันธนาการแห่งความสร้างสรรค์อีกด้วย เนื่องจากฝันกลางวันเชื่อมโยงกับศักยภาพการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เรามองข้ามปัญหาไปไกลอีกก้าว โดยส่วนใหญ่นักคิดนักประดิษฐ์มักไขปริศนายากๆ ด้วย ‘Eureka moment’ หรือ ‘อ๋อ! รู้แล้ว’โดยการปล่อยสมองไม่ต้องไปโฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ หนึ่งในนั้นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่สามารถแยกระหว่าง ‘ภาระ’ และ ‘ความนึกคิดฟุ้งซ่าน’ ออกได้อย่างแยบคาย (โดยเชื่อว่ามันจะบรรจบกันในภายหลัง) ไอน์สไตน์มักเดินเก็บก้นบุหรี่บนทางเท้าแล้วพึมพำอะไรอยู่คนเดียว ระหว่างเอายาเส้นมามวนใหม่ความคิดเขาก็เตลิดไปไกลโดยไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องงานเลย ไอน์สไตน์ยอมรับว่าความคิดดีๆ ส่วนใหญ่เกิดนอกห้องทดลองทั้งนั้น มันอยู่ในถนน มันอยู่ในผู้คน มันอยู่กับในก้อนเมฆ
จินตนาการสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีจำกัด
กลับมาสู่ปัจจุบัน มนุษย์ทำในสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้น เราเข้าใจธรรมชาติมากขึ้นจนส่งสิ่งประดิษฐ์ไปโคจร ณ สุดขอบเอกภพ ดังนั้นเองจินตนาการของมนุษย์ไม่มีข้อจำกัด หากมันส่งผ่านเข้าสู่กระบวนการสร้างสรรค์เปลี่ยนจินตนาการเป็นภาพ เสียง หรือความรู้สึกที่ลึกซึ้งและละเอียดลออ
สร้างบรรยากาศแห่งความสร้างสรรค์ที่เรียบง่ายและสมบูรณ์แบบเพื่อให้เกิดพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยนวัตกรรมทีวีพรีเมี่ยมระดับโลกด้วย ‘วอลเปเปอร์ทีวี’ LG SIGNATURE OLED TV ซีรีย์ W7T ขนาด 65 นิ้ว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Simplicity. Perfection. ที่สุดแห่งความสมบูรณ์แบบ ผสานความเรียบง่ายที่ลงตัว” กับดีไซน์ทีวีไร้ขอบ บางเฉียบเพียงแค่ 2.57 มิลลิเมตร เนรมิตสุดยอดประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์
สิ่งที่ทำให้ LG SIGNATURE OLED TV ซีรีย์ W7T สร้างความเป็นเอกลักษณ์และความสมบูรณ์แบบในเรื่องของดีไซน์ กับนวัตกรรมการออกแบบสไตล์มินิมอลที่ลดทอนส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น ดีไซน์แบบ Picture on wall ทีวีบางเฉียบกลมกลืนกับผนังดุจวอลเปเปอร์ พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์การรับชมเหนือระดับ
แอลจียังคงมอบความใส่ใจแก่ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมแอพ OLED Gallery ที่บรรจุภาพวาดของเหล่าศิลปินชื่อดัง วิวทิวทิศน์ บรรจุภาพวาดของเหล่าศิลปินชื่อดัง เช่นภาพ Starry Night ของวินเซนต์ แวนโก๊ะ หรือภาพวิวทิวทิศน์ ดื่มด่ำบรรยากาศที่ต้องการได้ในทุกช่วงอารมณ์ความรู้สึก นำทุกภาพและความรู้สึกแห่งจินตนาการของคุณให้มีชีวิต
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอลจีได้ที่ www.LGnewsroom.com และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลจี ประเทศไทยได้ที่ www.lg.com/th
อ้างอิงข้อมูลจาก
Wild monkeys flake stone tools
https://www.nature.com/articles/nature20112
Solitude: In Pursuit of a Singular Life in a Crowded World