นิยามของ ‘ความลื่น’ จริงๆ แล้วอาจมองได้สองมุมสองความหมาย ซึ่งถ้าหากมองในความหมายแบบบวกๆ อย่างเช่นสมาร์ทโฟนหรือหรือคอมพิวเตอร์ที่ยิ่งมี CPU แรงๆ ก็ยิ่งใช้งานได้ลื่นปรื๊ดๆ ไม่ค้าง ไม่กระตุกให้เสียอารมณ์ เช่นเดียวกับสมองที่ยิ่งปลอดโปร่งก็ยิ่ง คิดอะไรได้บรรเจิด ไอเดียไหลลื่น ลูกค้าแฮปปี้
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความลื่นก็อาจมีความหมายเชิงลบก็เป็นได้ อย่างเช่นนิสัยของคนเราที่เนียนๆ ลื่นๆ คบไม่ได้จนอยากเดินหนี หรือถนนที่ลื่นๆ หลังฝนตกจนน่ากลัวที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือจะเป็นพื้นกระเบื้องห้องน้ำที่ยิ่งลื่น ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการหกล้มได้เช่นกัน
ลองไปดูกันแบบลึกๆ ว่าอะไรที่ลื่นแล้วดี แล้วอะไรที่ลื่นแล้วไม่ดี แล้วถ้าไม่ดีจะใช้วิธีการไหนแก้ลื่นแบบง่ายๆ ได้บ้าง มาดูกันเลย
ลื่นแล้วดี
นิยามคำว่า ‘ลื่น’ ในความหมายที่ดี อาจหมายถึงคำว่า Flow หรือการทำอะไรที่สะดวกสบายไม่มีอะไรติดขัด ลองไปดูกันว่ามีอะไรที่ลื่นแล้วดีบ้าง
– CPU และสมองสุดลื่น
อุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ นับวันก็ยิ่งมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ให้ CPU หรือหน่วยประมวลผลเร็วขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานให้ยิ่งไหลลื่นมากยิ่งขึ้น เปรียบไปก็เหมือนกับสมองของมนุษย์เราที่เซลล์ประสาทสมองของมนุษย์แต่ละเซลล์สามารถประมวลผลได้อย่างอิสระ คล้ายกับมีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วทำงานเชื่อมต่อกันกว่า 1 แสนล้านเครื่อง นั่นจึงทำให้สมองของมนุษย์สามารถคิดอะไรได้ไหลลื่นและมีประสิทธิภาพกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสมองล้ำๆ ของมนุษย์จะทำงานได้ไหลลื่นตลอดเวลา เพราะก็มีช่วงที่สมองของเราเกิดอาการตื้อๆ ฝืดๆ คิดอะไรไม่ออกบ้าง ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพแวดล้อม ความเครียด ฮอร์โมน อารมณ์ และอีกเพียบ ที่ไปหยุดความลื่นของสมองกันดื้อๆ ขนาด CPU ยังทำงานผิดพลาดได้ ทำไมสมองเราจะผิดพลาดไม่ได้ วิธีการแก้ฝืดของสมองก็มีหลากหลายวิธี ง่ายที่สุดคือการฝึกสมาธิและเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้สงบขึ้น อย่างตอนกลางคืนเรียกว่าเป็นเวลาทองของสายครีเอทีฟเลยก็ว่าได้ หรือการดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างการวิ่งเรียกว่าฮิตสุดในช่วงนี้ เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทและเซลล์สมองได้ เมื่อร่างกายแข็งแรง สมองก็จะไหลลื่นตาม แต่ถ้าใครไม่ค่อยมีเวลา อาจจะใช้การกินอาหารที่มี วิตามินบี 12 จำพวกเนื้อปลา นม ไข่ ถั่วเหลือง ในปริมาณที่เหมาะสม หรือจะกินวิตามินเสริมเพิ่มก็ยังได้
ลื่นแล้วไม่ดี
นิยามความลื่น ถ้าเปลี่ยนเป็นบริบทอื่นๆ แล้ว ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป จึงจำเป็นต้องป้องกันหรือหลีกเลี่ยงจากความลื่นประเภทนี้ ลองไปดูกันว่ามีอะไรที่ลื่นแล้วไม่ดีบ้าง
– คนไหลลื่น
ใกล้ตัวที่สุด คงจะเป็นลักษณะของคนที่ไหลลื่น หมายถึงคนที่ทำตัวเนียนๆ สามารถไหลไปได้ในทุกสถานการณ์ พบเห็นบ่อยตามห้องประชุมต่างๆ ที่มักจะเออออห่อหมก ยกมือเห็นด้วยกับคนหมู่มากไปเรื่อย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไร หรือจะเป็นคนที่ชอบตกปากรับคำแบบง่ายๆ ได้ครับพี่ ดีครับผม ต่อหน้าเราได้ทุกครั้ง เสร็จแล้วก็เนียนหาย อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า และที่ชัดสุดคงจะหนีไม่พ้น คนรักไหลลื่น ที่ชอบใช้คำว่าสัญญา ให้เราใจอ่อน ก่อนจะกลายเป็นลมปากที่ไม่มีค่าอันใด ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าใครเป็นคนที่ไหลลื่น อาจจะต้องยอมเปลืองตัวให้โดนหลอกสักครั้งก่อน แล้วพอเห็นว่าคนคนนี้เริ่มเนียน ผิดคำพูด ผิดสัญญา ก็เตรียมตัวตีจาก ห่างๆ ไว้เลยจะดีที่สุด
– ถนนลื่น
หน้าฝนแบบนี้ สิ่งแวดล้อมอย่างถนน เป็นสิ่งที่ยิ่งลื่นก็ยิ่งอันตราย จากสถิติของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นฤดูฝน มีสถิติอุบัติเหตุบนถนนถึงร้อยละ 38.88 ที่เกิดจากความเร็วและถนนลื่นเนื่องมาจากฝน เพราะเมื่อฝนตกจะทำให้พื้นผิวถนนมีค่าความต้านทานต่อการลื่นไถลลดลง วิธีการป้องกันความเสี่ยงจากถนนลื่นที่ง่ายที่สุด คือพยายามไม่ขับรถช่วงที่ฝนตก รอฝนซาหรือถนนแห้งสักหน่อยดีกว่า และที่สำคัญหลังฝนตกประมาณ 10 นาทีจะเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากที่สุด จึงต้องหลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงนี้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องฝ่าฝนไปธุระ แนะนำให้ขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วต่ำ เปิดไฟหน้าเพื่อความปลอดภัย
– พื้นลื่น
พื้นห้องน้ำหรือพื้นบ้าน ก็เป็นอีกอย่างที่ยิ่งลื่นยิ่งอันตราย จากข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บแห่งชาติ (IS) สำนักระบาดวิทยา มีการคาดการณ์ว่าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในระหว่างปี 2560 – 2564 จะมีผู้สูงอายุพลัดตกหกล้ม
ปีละประมาณ 3,030,900 – 5,506,000 คน! โดยสาเหตุที่พบมากที่สุดคือการลื่น สะดุด หรือก้าวพลาดบนพื้นระดับเดียวกัน ยิ่งในยุคสมัยของ Aging Society แล้ว ตัวเลขเหล่านี้ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง คนหนุ่มสาวเองก็ใช่ว่าจะไม่เสี่ยงลื่นล้มเลย ถ้าพื้นลื่น ยังไงก็เชื่อใจยาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาตัวช่วยมาแก้ลื่น
แก้ลื่นด้วยจระเข้
ปัญหาของพื้นลื่นส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องของกระเบื้อง ที่ค่าความฝืดมักไม่ได้มาตรฐาน การจะรื้อกระเบื้องแล้วปูใหม่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ปัญหาดังกล่าวสามารถป้องกันและแก้ไขได้ด้วย น้ำยาจระเข้ กันพื้นลื่น, สเปรย์จระเข้ กันพื้นลื่น และ น้ำยาจระเข้ กันพื้นลื่น ควิก ที่มีคุณสมบัติสุดล้ำ สามารถเปลี่ยนพื้นกระเบื้องที่ลื่นให้ฝืดได้อย่างรวดเร็วเหมือนเสกได้ ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับห้องน้ำหรือระเบียง ทั้งภายในและภายนอก พิสูจน์ความฝืดได้ด้วยเครื่องวัด ที่เป็นสากลและมีมาตรฐานรับรองจากอเมริกา รวมไปถึงบริเวณพื้นที่จุดเสี่ยงอื่นๆในบ้าน หรือพื้นบ้านที่เป็นวัสดุนอกเหนือกระเบื้องก็เนรมิตรให้ความลื่นหายไปได้โดยไม่ต้องรื้อซ่อมให้เปลืองเงิน ทุกๆพื้นที่ปลอดภัย ด้วยผลิตภัณฑ์กันลื่น จระเข้
สนใจผลิตภัณฑ์และข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://www.jorakay.co.th/th/category/tiling/crocodile-solutions.html
ถ้ารู้ว่าลื่นก็อย่าปล่อยให้ล้มก่อน ป้องกันไว้ย่อมดีกว่า เพราะลื่นล้มแต่ละที ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน
เค้าไวกว่า เดอะแฟลช แข็งแกร่งกว่า กัปตันมาเวล มีอาวุธที่ทรงพลังกว่าธอร์ กับภารกิจปกป้องมนุษยชาติ
Posted by จระเข้ – Jorakay on Friday, 12 April 2019
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.bbc.com/thai/features-45953172