จากหนุ่มน้อยใส่แว่นในมิวสิควิดีโอเพลง “อ้าว” ที่สร้างปรากฎการณ์และส่งให้ เบสท์ – ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ โด่งดังแบบชั่วข้ามคืน
ก่อนหน้านั้น เขาคือเจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องตั้งวง อาจเป็นระยะเวลาเพียงไม่นานที่เกิดเรื่องราวทั้งหมดนี้ขึ้น แต่ก็นับว่าเขาได้ผ่านจุดที่เรียกว่าสูงสุดของชีวิตความเป็นนักแสดงเท่าที่คนหนึ่งคนจะได้สัมผัส
จากบทบาทการแสดง สู่การถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านทางผลงานเพลง ลองดี ที่กรุยทางให้เขาในฐานะศิลปิน ด้วยเนื้อหาความรักสไตล์เบสท์ บวกกับลุคกวนๆ ดีต่อใจสาวๆ ทั่วประเทศ ทำให้เราเห็นบุคลิกของเขาชัดเจนผ่านบทเพลง หรือแม้กระทั่งบทบาทของหนุ่มเนิร์ดกาแฟจากซีรีส์ถ่ายทอดมาสู่ความคลั่งไคล้กาแฟในชีวิตจริง ทุกบทบาทของเบสท์ทำให้เราได้เห็นถึงแนวคิดและเป้าหมายในชีวิต นั่นคือความสุขที่เกิดขึ้นจากสิ่งเล็กๆ รอบตัว และส่งต่อความสุขเหล่านี้สู่คนรอบข้างอย่างเรียบง่ายแต่มีคุณค่า
ชีวิตเบสท์จะว่าไปก็มีจุดข้ามผ่านเยอะนะ จากวันแรกถึงวันนี้ ชีวิตเปลี่ยนแปลงเยอะมากน้อยแค่ไหน หรือเราเคยคิดว่าการกลายมาเป็นคนในสปอตไลต์มันรุกรานชีวิตส่วนตัวของเราบ้างไหม? แล้วเรามีวิธีการรับมือกับมันอย่างไรบ้าง?
จุดเปลี่ยนที่สุดก็มิวสิควิดีโอเพลง “อ้าว” ที่ทำให้คนรู้จักเราเยอะขึ้น ผมว่าสิ่งที่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงอันนั้นอะ คือตอนแรกก็ใช้ชีวิตแบบชิล ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับใคร ไม่ต้อง ไม่มีคนมาวุ่นวายกับเราสักเท่าไหร่ แต่พอมันเปลี่ยนแล้วคนเริ่มรู้จัก ไปไหนก็ต้องมีคนจับตามอง ส่วนวิธีการรับมือ ผมก็ปล่อยเซอร์นะ แต่แค่เราจะมีเส้นของเรา ซึ่งเส้นของเราเขาไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง ใครเข้ามาแบบปกติเราก็ยิ้มให้แค่นั้น
ส่วนถ้าเข้ามาแบบไม่ปกติอย่างที่บอกเรามีเส้นของเราที่จะแบบจัดการคนเหล่านั้นอยู่ ซึ่งก็เป็นวิธีที่แบบพยายามสันติที่สุด บางเรื่องก็มีที่ในใจรู้สึกโกรธนิดนึง แต่ถามว่ารับมือได้ไหม มันก็รับมือได้นะ เพราะถ้าเราไปคิดทุกเรื่องเกินไป มันปวดหัว ต้องบาลานซ์นิดนึง
แต่เพราะเป็นสิ่งที่เบสท์ชอบ เราเลยเห็นเบสท์มีความสุขกับทุกงานที่ได้ทำ เบสท์คิดว่าสิ่งไหนที่เป็นความสุขแบบปรัชญา Hygge ของเดนมาร์ก เรื่องความสุขที่เรียบง่ายจากสิ่งรอบตัว
ช่วง 2-3 เดือนนี้ ผมทำงานเกือบทุกวัน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของผมก็คือการได้อยู่บ้าน อย่างวันหยุดล่าสุดเมื่อวาน ผมนอนไปประมาณ 18 ชั่วโมง เนี่ยความสุขผม เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้นอนเลย นอนดูซีรีส์ จบ มันเรียบง่ายเลย
พูดถึงความสุขกับตัวเองแล้ว ความสุขที่ให้กับคนรอบข้างล่ะ เราคิดว่าสิ่งไหนคือการส่งต่อความสุขที่ง่ายที่สุดของเบสท์?
ผมว่าผมไปแชร์ความสุขตอนออกกอง ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายมากที่เราแบบไม่หน้ามุ่ยใส่คนในกอง ไม่เอาอารมณ์เสียไปใส่คนในกอง แล้วทุกวันนี้การออกกองของผม มันกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสุขไปแล้ว มันเหมือนได้เจอคน เจอทีมงาน ไปเล่นกับเขา แล้วเราก็ไปทำงานด้วย มันเลยเป็นความสุขที่ง่ายมาก เจอกัน ยิ้ม เล่นมุกโง่ๆ อย่างที่บอกว่าวันหยุดของเรา ความสุขของเราคือการนอน แต่พอไม่ใช่วันหยุดของเรา ความสุขมันก็คือการไปทำงาน
เห็นเป็นคนสนุกแบบนี้ เบสท์มีมุมจริงจังหรือมีสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วรู้สึกว่าเนิร์ดกับเรื่องนี้มากบ้างไหม?
มีช่วงหนึ่งเนิร์ดกาแฟ ไปเรียน ไปนั่งศึกษา ไปโรงคั่วรุ่นพี่ เรียนดริป เรียนเรื่องเมล็ดกาแฟ ความแตกต่างของมัน สถานที่ปลูก อะไรแบบนั้นเลย มันเป็นอะไรที่ดูเนิร์ดมากนะ แต่มันคือความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้จากมัน แบบชงกาแฟเสร็จ ได้กินกาแฟที่เราชง อร่อยว่ะ ความสุขจังเลย (หัวเราะ) มันเป็นอย่างนี้
เบสท์ดูจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ชอบในเวลาเดียวกัน แล้วเรานำวิธีคิดแบบ Lagom เพื่อสร้างสมดุลของสิ่งรอบตัวได้อย่างไร?
อย่างตอนอินกาแฟมันอินเพราะว่าเราเกิดจากซีรีส์ ทำให้เราได้เข้าไปรู้จักกับกาแฟ แล้วพอถึงช่วงที่เป็น วันหยุดเราก็หาเวลาว่างไปเจอกาแฟบ้าง ให้จัดการดูว่าอันไหนคืออันดับ 1 อันไหนคืออันดับ 2 แล้วก็สมมติใน 7 วัน เราแสดงสัก 4 วัน ใน 3 วันนั้น เราอาจจะมีวันหนึ่งที่แบ่งไปให้กาแฟ หนึ่งเดือนเท่ากับว่าเราจะไปอยู่กับกาแฟได้ 4 วัน
และถ้าเกิดมันเป็นสิ่งที่เราชอบจริงๆ มันจะขวนขวายเองโดยที่เราไม่รู้ตัว เราอยากจะพุ่งเข้าไปหามันให้มันเป็นความสุขอันดับ 2 ของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว สิ่งนั้นมันจะเป็น magnet ที่ให้เราไปประกบให้ได้ ผมว่าอันนั้นมันน่าจะเป็นการแบ่งหรือเป็นการจัดการเวลาที่ดีด้วยแหละ มันจะเกิดความสมดุลเอง
ถ้าอย่างนั้นแล้ว การมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ มันใช่นิยามความสุขของเบสท์หรือเปล่า?
กลายเป็นว่านิยามการมีชีวิตของผม ผมกลับมองว่ามันคือความสุขมากกว่า คือผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้าเรามีความสุขได้ตลอด มันจะทำชีวิตเราโคตรดีเลย คือความสุขมันเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ อย่าง ถ้าเรามีความสุข มันก็จะมีแรงอะไรบางอย่างให้เราทำต่อไป เช่น เรามีความสุขกับการแสดง เราก็อยากจะทำมันไปเรื่อยๆ แต่วันไหนวันหนึ่งถ้าเราไม่มีความสุขกับมัน มันก็จะไม่มีเหตุผลอะไรที่เราอยากจะทำมัน มันไม่มีความสุขกับสิ่งตรงนั้นแล้ว ก็เลยเชื่อว่าความสุขมันน่าจะเป็นต้นกำเนิดของหลายๆ อย่างในชีวิตเรา อันนี้น่าจะเป็นนิยามชีวิตมากกว่า
ความสุขเล็กๆ ในชีวิตประจำวันอยู่รายรอบตัวเราเสมอ ลองลงรายละเอียดให้กับทุกเรื่องของการแปรงฟัน อย่างการเลือกแปรงสีฟันที่เข้ากับเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานหรือดีไซน์สีสันที่ถูกใจ ก็เท่ากับเติมความสุขผ่านรอยยิ้มสดใสตลอดทั้งวัน และพร้อมเป็นกำลังสำคัญส่งต่อความสุขให้คนรอบข้างได้อย่างยั่งยืน
จอร์แดน สนับสนุนให้ทุกคน ค้นหาความสุ ขกับแปรงสีฟันที่ใช่สไตล์คุณ
พบความสุขเรียบง่ายแบบ Scandinavian Style กับ Jordan ได้ที่ https://bit.ly/2xwgIOU และ https://www.facebook.com/jordanthailand/