“ขอเชิญเก็บมีด แล้วออกจากการแข่งขันครับ” ประโยคติดหูจาก Top Chef Thailand รายการที่แจ้งเกิด แบม – ปีติภัทร คูตระกูล
พิธีกรหนุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงใน พ.ศ. นี้
เพราะการเป็นพิธีกรกับรายการเรียลลิตี้ทำอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วแบมก็ทำมันได้ดีมากจนได้รับคำชมไม่ขาดปากทั้ง 2 ซีซั่น และกำลังขึ้นแท่นเป็นพิธีกรเนื้อหอมของเมืองไทย
ผลงานครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นตั้งใจในเส้นทางสายพิธีกรของแบม จากเด็กพูดติดอ่าง จนกลายมาเป็นพิธีกรชื่อดัง และความฝันที่จะไปไกลในระดับโลก แม้เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความพยายาม เพียงแค่ “มุ่งมานะ ตั้งใจ และขยัน”
งานพิธีกรคืองานที่แบมฝันมาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า? แล้วงานนี้มีความยาก หรือสิ่งไหนที่ทำให้เราต้องปรับตัวจากบุคลิกภาพของตัวเองแบบเดิมมากไหม?
ผมว่าเหมือนจังหวะชีวิตมันพาไป เพราะพี่ที่รู้จักชวนไปแคสต์ช่องท่องเที่ยว น่าจะเพราะเราเป็นคนชอบคุยกับคน บวกกับได้ภาษาอังกฤษด้วย เลยได้เริ่มงานพิธีกรตั้งแต่เรียนปี 2 จริงๆ แล้วแบมเป็นคนติดอ่าง ถ้าเทียบกับคนปกติทั่วไป แบมเหมือนเริ่มแบบกึ่งๆ ติดลบนิดนึงด้วยซ้ำ เพราะว่าอยากพูด แต่ว่ามันติดอ่าง ยิ่งพอรู้ว่าในสคริปต์มีคำที่เราพูดไม่ถนัดอยู่ ใจมันก็จะเริ่มตื่นเต้น เราก็ต้องควบคุมมัน ฝึกหัด แล้วใช้สิ่งนี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้บนเวทีออกมาสนุก
ยากไหมใช่ไหมครับ แบมว่าทุกอาชีพยาก ถ้าจะทำให้มันดีแล้วก็ดีมาก ถ้าจะเป็น The best ในวงการนั้นๆ แบมว่ายากหมดนะครับ มันคือขายงานคุณภาพ คือ Push limits ไปเรื่อยๆ สร้างมาตรฐานใหม่ๆ
แล้วเทคนิคในการปรับตัวให้เข้ากับโจทย์งานแต่ละโจทย์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง รายการนี้อาจจะซีเรียสมาก รายการนี้อาจจะผ่อนคลาย เรามีวิธีการจูนตัวเองหรือทำการบ้านกับโจทย์เหล่านั้นอย่างไร
ล่าสุด Top Chef Thailand ใช่ไหมครับ มาเป็นพิธีกรรายการใหญ่ รายการแข่งขันทำอาหารที่มีความดุเดือด มีการแจกโจทย์อะไรอย่างนี้ มันก็เปลี่ยน Mood แล้ว มันก็ท้าทายขึ้น เราก็ต้องมีการกำกับอารมณ์ เราไม่ใช่แค่ตัวเราแล้ว ไม่ใช่แค่อารมณ์ดีนะ แต่มันก็มี Mood ที่ซีเรียส ต้องมี Mood ที่ผ่อนคลาย ต้องมีอารมณ์ขันสอดแทรก เพราะมันเหมือนอาหาร มันไม่ใช่แค่รสชาติเดียว แต่มันเปรี้ยว หวาน เค็ม แล้วมันจะกลมกล่อมอะไรประมาณนี้ แต่แค่เอาอะไรชู เอาอะไรนำ
ส่วนถ้าเป็นอีเวนต์ แบมก็จะคุยกับ 2 คน คนแรกคือทีมสเตจที่จะคอยบอกบล็อกกิ้ง เราต้องรู้ว่า Sequence นี้ควรจะยืนตรงไหน หรือทำอะไรบ้าง ส่วนอีกคนหนึ่งที่ต้องคุยเลยก็คือลูกค้า เพราะ Event ลูกค้าแตกต่างกันไป ถ้าได้คุยกับลูกค้าแล้วได้เข้าใจว่าเขาต้องการให้เรานำเสนออะไร เราก็จะรู้ Mood and tone แล้วก็จะรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเรา
วิธีการทำงานเบื้องหลังเวทีของแบม ต้องเริ่มจากเป้าหมายที่มันชัด เป็นอย่างหนึ่งเลยที่แบมทำในทุกๆ งาน และทุกๆ ด้านในชีวิต เพื่อให้มันออกมาตามที่ต้องการ คือจินตนาการว่า ทำมันแล้วไปในทิศทางที่เราต้องการมั้ย พอมันเห็นภาพในหัว แล้วมีการทำการบ้าน ยกตัวอย่างงานสัมภาษณ์ BLACKPINK เปิดตัวโทรศัพท์มือถือนะครับ อันนี้ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ Sound เป็นภาษาอังกฤษของบลิ้งค์ชาวไทย อาจจะไม่ได้รับฟีดแบ็กหรือการเสียงกรี๊ดขึ้นมาเยอะขนาดนั้น แบมก็เลยพูดเป็นภาษาไทยไปด้วย ว่า Where are the BLINK? บลิ้งค์อยู่ไหน ไหนบลิ้งค์ส่งเสียงหน่อยเร็ว! แล้วก็มีเสียงมาดังมาก อันนี้ตามที่หัวคิดเลย มันมีการจินตนาการก่อน แล้วทำทุก Event ให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ทำอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ตั้งใจทำ เตรียมตัว มุ่งมั่นกับทุกๆ งานที่แบมทำ ใส่อย่างเต็มร้อย เพื่อที่จะได้เป็นพิธีกรที่ดีขึ้นในทุกๆ วันครับ
แล้วการไปสุดในงานสายพิธีกรของแบมได้นิยามไว้ไหมว่าอยากให้ไปถึงตรงจุดไหน?
แบมเคยพูดไว้ว่าอยากจะเป็นพิธีกรแถวหน้าของประเทศครับ แล้วก็สุดยิ่งกว่าอยากจะไป Go inter เลย เป็นพิธีกรระดับโลกอะไรอย่างนี้ที่อย่างเราจะรู้จัก พิธีกรรายการทีวีฮอลลีวูด อย่าง Ellen, Jimmy Fallon ที่พูดชื่อแล้วอ๋อเลย ก็อยากพูดชื่ออย่างแบม อ๋อ (หัวเราะ) อยากจะได้ทำรายการใหญ่ๆ ก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วก็บวกกับกล้าที่จะคิด กล้าที่จะฝันไประดับต่างประเทศนะครับ เพราะว่าได้ 2 ภาษาด้วย
แบมเคยไม่อยากเป็นพิธีกร แล้วไปทำงานอย่างอื่นหรือเปล่า?
ไม่เคยครับ ไม่เคย ยิ่งนับวันมันยิ่งชัด แต่ว่าอันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตเหมือนกัน เราก็มีการตั้งเป้าไว้แหละ แต่บางทีเราไม่รู้ว่าในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะเจอใคร เจออะไร ซึ่งแบมว่านี่คือเสน่ห์ของชีวิตเหมือนกันว่าเราไม่ได้แบบ Control มันได้ทุกอย่าง แต่ว่าก็ปล่อยมัน Flow ปล่อยมันสนุกไปกับสิ่งที่เราเจอใหม่ๆ ที่เราอาจจะไม่ได้ควบคุมหรือไม่ได้คาดคิด ไม่ได้คาดฝัน
คิดว่าสิ่งที่ตัวเองชอบทำคืออะไร?
แบมพยายามจะทำอะไรที่มันหลากหลาย พยายามจะเปิดสมองให้มัน Open แล้วก็ลองอะไรใหม่ๆ แบมก็พยายามไปให้สุดในอาชีพพิธีกรแหละ แต่ในความเป็นพิธีกร มันก็ต้องมีทำหลายแขนงหรือต้องรู้หลายอย่างเหมือนกัน
ถ้าอย่างนั้น Passion ของเราคือการชอบเรียนรู้หรือเปล่า?
Passion คือชอบเรียนรู้ไหม อาจจะเป็นไปได้ครับ ฟังดูหล่อเนอะ Passion คือชอบเรียนรู้ ดีครับเอา (หัวเราะ) และอยากจะบอกสำหรับน้องๆ ที่ดูอยู่ตอนนี้เลยครับ อาจจะเข้าใจว่าการเรียนรู้อยู่แค่ในห้อง แต่การเรียนรู้จริงๆ มันสนุกมาก ในชีวิตจริงมันคือ Non stop learning เลย จนกระทั่งเราแก่ จนกระทั่งเราสิ้นลมหายใจ มันก็คือการได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ สนุกกับการเรียนรู้ แล้วก็สนุกกับการพัฒนาตัวเอง แบมว่า 2 อย่างนี้สำคัญครับ ไม่ว่าจะเป็นแขนงไหนก็ตาม
แบมดูเป็นคนมุ่งมั่นและกล้าหาญ คล้ายปรัชญาความสุข Sisu ของฟินแลนด์ ที่ว่าด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว จะไม่หยุดถ้ายังไปไม่ถึง แบมคิดอย่างไร?
แบมว่ามันใช้ได้กับทุกอย่าง เพราะหลายๆ อย่างในชีวิตเป็นสิ่งที่มันฝึกกันได้ มีคนสู้ชีวิตอีกเยอะเลย แล้วนี่แหละเหมือนเป็น Ingredient สำคัญในการประสบความสำเร็จ คือมุ่งมานะ ตั้งใจ ขยัน
สิ่งที่มักจะใช้เสมอก็คือ “Practice makes perfect” เป็นสิ่งที่เป็นทักษะ ขึ้นชื่อว่าเป็นสกิล อยู่ที่ว่าเราฝึกไหม อะไรอย่างนี้ แต่มันก็มีลึกไปอีกว่า Nature แต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันไป
ถ้าตอนนี้ให้แบมลองประเมินตัวเอง คิดว่าตัวเองอยู่ในขั้นไหนแล้ว?
ถ้าเอาคำว่า Success เลย สำหรับแบมมันคือ Result ประสบความสำเร็จเท่ากับผลลัพธ์ อยู่ที่ว่าเราตั้งเป้าอะไร แล้วพอมาถึงวันนั้น เวลานั้น เราถึงเป้านั้นไหม ถ้าถึงคือประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม ซึ่งมันก็มีหลายด้านในชีวิตแหละ แล้วแบมก็พยายามจะบาลานซ์มันนะครับ ไม่ได้แค่โฟกัสอย่างหนึ่ง สุขภาพสำคัญ ที่บ้านสำคัญ พบปะเพื่อนสำคัญ ทำงานสำคัญ เพิ่มเรื่องของทักษะการพัฒนาตัวเองสำคัญ เนี่ย สิ่งเหล่านี้สำหรับแบมมันคือประสบความสำเร็จ แล้วถามว่ามันเพอร์เฟกต์ไหม มันไม่มีเพอร์เฟกต์ที่สุด แต่เราแค่พยายามที่จะทำดีที่สุดในทุกๆ วัน แล้วเรารู้จากใจข้างใน แบมว่าแฮปปี้แล้ว
ความมุ่งมั่นตั้งใจของแบมแสดงออกผ่านทางบทสนทนาสนุกสนานตลอดหนึ่งชั่วโมงเต็ม นั่นทำให้เราได้เห็นอีกมุมเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นแบมเบื้องหน้าอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ และความพยายามที่ยังคงเดินหน้าพุ่งชนเช่นนี้ ก็เหมือนกับชาวสแกนดิเนเวียนที่สอดแทรกปรัชญา Sisu ในชีวิตประจำวัน ถึงความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น เหมือนกับแบรนด์ Jordan ที่ดีไซน์จากปรั
จอร์แดน สนับสนุนให้ทุกคน ค้ นหาความสุขกับแปรงสีฟันที่ใช่ สไตล์คุณ
พบความสุขที่มาพร้อมความมุ่งมั่น แบบ Scandinavian Style กับ Jordan ได้ที่ https: //www.facebook.com/ jordanthailand/