สิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ใช่ไม่มีอยู่จริง โดยเฉพาะเชื้อโรคบนมือของเราซึ่งผ่านการสัมผัสจับต้องสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา และเราก็นำเชื้อโรคสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายไปโดยที่ไม่รู้ตัว แม้เชื้อโรคจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เป็นอันตรายต่อชีวิตอย่างยิ่ง ซึ่งวิธีการง่ายๆ อย่างการล้างมือนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด สะดวกที่สุด และง่ายที่สุดที่จะป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
ทุกครั้งที่เกิดโรคระบาด การล้างมือด้วยสบู่มักจะเป็นมาตรการแรกๆ ที่ได้รับการส่งเสริมเสมอ ซึ่งโรคระบาดในญี่ปุ่นเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เกิดแบรนด์โฟมล้างมือคิเรอิคิเรอิ ซึ่งถ่ายทอดความตั้งใจที่จะมอบสุขอนามัยที่ดีผ่านฟองโฟมนุ่มหอม พร้อมเคียงข้างดูแลความสะอาดของทุกคนในทุกวัน
เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปดูพร้อมกันว่าก่อนฟองโฟมนุ่มๆ เหล่านี้จะมาถึงมือเรานั้น ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
แรกเริ่มเรื่องล้าง
เมื่อปี พ.ศ. 2539 เกิดการแพร่ระบาดของโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อแบคทีเรียอีโคไลในหมู่เด็กนักเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ป่วยมากกว่า 9,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 11 คน ชาวญี่ปุ่นจึงต้องร่วมมือกันต่อสู้กับเชื้อโรคนี้กันอย่างแข็งขัน เด็กๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องฝึกล้างมือด้วยสบู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะหลังเข้าห้องน้ำ หรือก่อนกินอาหาร แต่แล้ว “คิเรอิคิเรอิ” ฮีโร่แห่งความสะอาดในรูปแบบของโฟมล้างมือก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในปีถัดมา เพื่อคอยปกป้องชีวิตของทุกคนในครอบครัวให้ปลอดภัยจากโรคระบาด ไม่ต้องอยู่กับความหวาดกลัวว่าจะติดเชื้อผ่านการสัมผัสอีกต่อไป ทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกอุ่นใจ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้คิเรอิคิเรอิจึงกลายเป็นสบู่ล้างมืออันดับ 1 ในญี่ปุ่น ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา
และเมื่อประเทศไทยต้องเผชิญกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อปี พ.ศ. 2552 คิเรอิคิเรอิก็ได้มีบทบาทเป็นฮีโร่ช่วยปกป้องคนไทย และทำให้คนไทย “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ได้อย่างสบายใจเช่นกัน จนทำให้ชื่อ “คิเรอิคิเรอิ” กลายเป็นแบรนด์โฟมล้างมืออันดับหนึ่งในใจของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ล้างมือสื่อถึงรัก
‘Kirei Kirei’ (อ่านว่า คิ-เหร่ คิ-เหร่) เป็นคำในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สะอาด ซึ่งมาจากคำพูดติดปากที่คุณแม่ชาวญี่ปุ่นพูดกับลูกๆ เมื่อต้องการให้เด็กๆ ไปทำความสะอาดร่างกาย “Kirei Kirei Shite” หมายถึง “ไปทำให้สะอาดสิ” ทั้งแปรงฟัน หรือล้างมือ ประโยคง่ายๆ ที่สื่อสารถึงความรักความห่วงใย ชวนให้เด็กๆ รู้สึกอบอุ่น และรู้สึกดีกับการล้างมือ เพราะคิเรอิคิเรอิ ในฐานะฮีโร่ใจดีไม่ต้องการบังคับเด็กๆ จึงเลือกที่จะทำให้การล้างมือกลายเป็นความสนุกสนานเพลิดเพลิน จนเด็กๆ เลือกจะทำด้วยความสมัครใจ
คิเรอิคิเรอิจึงเลือกสื่อสารความรู้สึกเหล่านี้ผ่านคุณแม่คิเรอิ แม่บ้านสุดเนี้ยบ ผู้อ่อนโยน สดใส ใจดี แต่เข้มงวดเรื่องความสะอาด เด็กชายโยชิโอะ ผู้หลงรักการเล่นกีฬากลางแจ้ง และเด็กหญิงโยชิโกะ น้องน้อยวัยอนุบาล ตัวการ์ตูนลายเส้นสบายตาหลากสีสันบนขวดและถุงเติม แทนความรัก ความปรารถนาดีที่ทุกคนในครอบครัวมอบให้กัน ซึ่งสัมผัสได้ทุกครั้งที่กดหัวปั๊มโฟมล้างมือคิเรอิคิเรอิ
ล้างอย่างหมดจด
ฟองโฟมของคิเรอิคิเรอิที่แสนจะเนียนนุ่มนั้นเป็นอนุภาคทรงกลมขนาดเล็กจิ๋วจำนวนมากมาอยู่รวมกัน ทำให้มีพื้นที่ผิวในการสัมผัสสิ่งสกปรกได้ทั่วถึง ทันทีที่กดหัวปั๊มซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ เราก็จะได้ฟองโฟมออกมาช่วยขจัดความสกปรกบนมือเราได้อย่างทั่วถึง ซอกซอนทำความสะอาดฝ่ามือได้อย่างหมดจด ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.99%* ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคระบาด อีกทั้งฟองโฟมคิเรอิคิเรอิยังลดการเสียดสี ทำให้อ่อนโยนต่อการสัมผัสบนผิว ผิวยังคงความชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน ฟองโฟมเนียนนุ่ม กลิ่นหอม ของคิเรอิคิเรอิจึงชวนให้รู้สึกดีทุกครั้งหลังล้างมือ ซึ่งทำให้เด็กๆ เพลิดเพลินกับการล้างมือ จนทำให้กลายเป็นสุขนิสัยที่ดี
หรือหากใครไม่สะดวกล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ก็สามารถเลือกใช้เจลล้างมือหรือสเปรย์ทำความสะอาดมือ สูตรแอลกอฮอล์ 70% v/v ของคิเรอิคิเรอิ ก็ทดแทนกันได้ เพราะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.999%** เพื่อความมั่นใจตลอดเวลาที่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน
ส่งเสริมสุขนิสัย
เพราะไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์โรคระบาดครั้งใด ทุกคนก็ช่วยกันหยุดยั้งการส่งต่อเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ได้ด้วยการล้างมือ กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยได้พยายามรณรงค์ให้ชาวไทยล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้ง เพื่อลดการติดเชื้อโรคปอดบวม อุจจาระร่วง ไข้หวัดใหญ่ เพราะการล้างมืออย่างถูกวิธีเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อได้ถึง 90% จึงไม่น่าแปลกใจที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้ทุกวันที่ 15 ตุลาคมของทุกปีเป็น ‘วันล้างมือโลก’ (Global Hand Washing Day) เพื่อย้ำเตือนให้คนทั่วโลกเห็นความสำคัญของการล้างมืออย่างถูกวิธีมากยิ่งขึ้น
คิเรอิคิเรอิ เองในฐานะแบรนด์โฟมล้างมืออันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย*** ไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมวิธีการใหม่ๆ ที่จะจูงใจให้ทุกคนร่วมต่อสู้กับเชื้อโรครอบตัวเรา ด้วยการออกไปพบปะเด็กๆ เพื่อปลูกฝัง 7 ขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ร่วมกิจกรรมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด รวมถึงในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ได้ส่งมอบเจลล้างมือให้คอยดูแลผู้ใช้บริการสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี
ร่วมเล่น ร่วมล้าง
เมื่อภัยร้ายจากการแพร่ระบาดของเจ้าไวรัสโควิด 19 ยังคงไม่หายไปไหน การล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกไปข้างนอกก็ยังคงเป็นความจำเป็นที่เราต้องร่วมมือร่วมใจกันลงมือทำต่อไป
ในโอกาสสำคัญอย่างวันล้างมือโลกปีนี้ คิเรอิคิเรอิจึงขอชวนทุกคนมาร่วมผนึกกำลังฮีโร่ “ส่งต่อมือสะอาด” ผ่านการเปิด Kirei Kirei IG Filter สุดน่ารักขึ้นมา แล้วกดถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ จากนั้นแชร์ลงใน IG Story ของตัวเอง ทุกๆ ภาพ จะเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคมูลค่า 10 บาท (รวมมูลค่าทั้งหมด 200,000 บาท) เพื่อร่วมสมทบทุนเพื่อส่งต่อโอกาสให้แก่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมต่อไป
เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ยืนยันความตั้งใจว่า คิเรอิคิเรอิพร้อมปกป้องคุณและคนที่คุณรักเสมอ ไม่ว่าในวันที่โรคระบาดเกิดขึ้น หรือในวันปกติธรรมดา
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “ส่งต่อมือสะอาด” และเรื่องราวดีๆ จากคิเรอิคิเรอิได้ทุกวันที่ Kirei Kirei Fanpage
*จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการด้วยวิธีมาตรฐาน ASTM E2315 กับเชื้อ Escherichia coli (ATCC25922) และ Pseudomonas aeruginosa (ATCC27853) สำหรับสูตรออริจินัล, รีเฟรชชิ่ง เกรป และมุราซากิ ลาเวนเดอร์
**จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการด้วยวิธี ตามมาตรฐานสหภาพยุโรป 1276 (EN 1276:2009 Chemical disinfectants and antiseptics) กับเชื้อ Staphylococcus aureus (ATCC 6538), Escherichia coli (ATCC 10536), Enterococcus hirae (ATCC 10541) และ Pseudomonas aeruginosa (ATCC 15442)
***โฟมล้างมือคิเรอิคิเรอิ ขายดีอันดับหนึ่งในไทยและญี่ปุ่น โดยสำรวจส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่ล้างมือ: ในไทย สำรวจโดย Nielsen ในซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านขายของชำแบบดั้งเดิม ตั้งแต่ ม.ค. 55 – เม.ย. 63 และในญี่ปุ่น สำรวจโดย INTAGE Inc. ในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านขายส่ง ตั้งแต่ ม.ค. 43 – ธ.ค. 62
อ้างอิงข้อมูลจาก
บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด
https://www.thaihealth.or.th/Content/26128-เผยผู้ป่วยจากเชื้อโรคที่ติดมากับมือ.html