เรียนภาษาในห้องมาตั้งหลายปี แต่เจอคนต่างชาติทีไรได้แต่เดินหนีทุกที ยิ่งช่วงสองปีที่ผ่านมาการเรียนการสอนถูกปรับเป็นรูปแบบออนไลน์ นอกจากจะท้าทายสมาธิแบบสุดๆ แล้ว บางครั้งการต้องเรียนร่วมกับคนเยอะๆ ก็อาจทำให้เด็กๆ ไม่กล้าพูดยิ่งกว่าเดิม
แต่ปัญหาที่ว่านี้ไม่มีอยู่ในหลักสูตรของ ‘LingoAce’ แพลตฟอร์มสอนภาษาออนไลน์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์การเรียนรู้ของนักเรียนรุ่นใหม่ด้วยคลาสเรียนที่สนุกสนาน มีประสิทธิภาพ และนำความรู้ไปใช้ได้จริง เหมือนกับในคลิปวิดีโอเปิดตัวสถาบัน ‘เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้า ด้วยการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ LingoAce’ ที่มียอดเข้าชมกว่า 1 ล้านครั้งบน Youtube แล้ว
วันนี้เราจึงชวน Geraldine Se ผู้จัดการ LingoAce ประจำประเทศไทย และคุณอี้ กัณฑ์ณฐกรณ์ รัตนวีณาวาที หัวหน้าฝ่ายการตลาด มาร่วมกันหาคำตอบว่าทำไมการเรียนที่ LingoAce ถึงแตกต่างและสนุกกว่าเดิม
Edtech อนาคตแห่งการเรียนรู้ กับการเรียนภาษา
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้วิถีชีวิตของคนทั้งโลกเปลี่ยนไป แน่นอนว่าเรื่องของการศึกษาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากการเรียนรู้ในห้องเรียนถูกปรับเปลี่ยนเป็นระบบออนไลน์ จนเกิดเป็นธุรกิจมากมายที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาหรือที่เรียกว่า EdTech (Education Technology)
ทั้งนี้คุณเจอร์รี่มองว่าแม้หลังจากนี้ปัญหาโควิด-19 จะแก้ไขได้แล้ว การเรียนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป แต่เธอยังเชื่อว่าสถาบันและผู้ให้บริการด้านการศึกษาควรที่จะพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป เพื่อทำให้ประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนดียิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันคุณเจอร์รี่ก็คิดว่าการเรียนภาษายังคงมีความสำคัญ แม้ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยี AI จะสามารถแปลภาษาได้มากกว่า 100 ภาษาอย่างรวดเร็ว
“ฉันคิดว่า AI ที่ดีที่สุดยังคงเป็นสมองของมนุษย์ และยังมีการเข้าถึงการสื่อสารในรูปแบบใหม่ๆ ที่ AI ยังสอนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคำสแลง หรือวัฒนธรรมท้องถิ่น ยกตัวอย่างโปรแกรมแปลภาษา AI ก็ยังไม่สามารถจับใจความได้อย่างเต็มรูปแบบอย่างที่ต้องการ”
LingoAce แพลตฟอร์มสอนภาษารูปแบบใหม่สำหรับเด็ก
LingoAce เริ่มต้นจากการเป็นแพลตฟอร์มสอนภาษาจีนในปี 2019 ก่อนจะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในอันดับ GSV EdTech 150 ซึ่งเป็นการจัดลำดับบริษัทด้านการเรียนรู้ดิจิทัลที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นธุรกิจ Start-up Series C ที่ระดมทุนมาแล้วเกือบพันล้านบาทจากหลายประเทศ
ปัจจุบัน LingoAce มีนักเรียนในระบบกว่าสามแสนคนจากร้อยกว่าประเทศทั่วโลก และเพิ่งพัฒนาเพิ่มหลักสูตรภาษาอังกฤษเข้าไปในแพลตฟอร์มเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา
นักเรียนของ LingoAce อยู่ในช่วงอายุ 5-15 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เหมาะกับการเรียนภาษาที่สุด คุณเจอร์รี่เสริมว่าโดยทั่วไปแล้ว การเรียนภาษาตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้ซึมซับและเรียนรู้ได้เร็วกว่า มีการศึกษาที่ชี้ว่านักเรียนที่เริ่มเรียนภาษาตั้งแต่เด็กจะมีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการแก้ปัญหา และเข้าใจโครงสร้างภาษาได้ดีขึ้น ทำให้การเรียนภาษาอื่นๆ ง่ายขึ้นกว่าภาษาก่อนหน้าอีกด้วย
นอกจากนี้ LingoAce ยังมองเห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษและภาษาจีน คุณเจอร์รี่อธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นภาพว่า “อย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศจีนกำลังเติบโตขึ้นเป็นมหาอำนาจในโลก และภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาสากลที่มีผู้ใช้มากเป็น 3 อันดับแรกของโลก การเรียนทั้งสองภาษาจึงช่วยผลักดันให้เด็กๆ เติบโตไปในโอกาสที่เปิดกว้างและหลากหลายในอนาคต”
หลากหลายวิธีเพื่อการเรียนรู้ของเด็ก
คุณอี้เล่าว่าจุดเด่นของ LingoAce คือมีการเรียนการสอนหลายวิธีที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา เริ่มจาก Gamification และ Animation ซึ่งจะช่วยทำให้บรรยากาศการเรียนเต็มไปด้วยความสนุก
“พอพูดว่าเรียนออนไลน์ พ่อแม่หลายคนก็เป็นกังวลว่าเด็กๆ จะเบื่อมั้ยต้องจ้องหน้าคอมทุกวัน เราจึงพัฒนา Gamificaion ร่วมกับทาง Zoom เพื่อช่วยให้คุณครูสามารถโต้ตอบกับเด็กๆ ได้ ส่วน Animation คือการสร้างตัวการ์ตูนประจำหลักสูตร ซึ่งทั้ง Gamification และ Animation จะทำให้การเรียนสนุกขึ้น และช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ดีขึ้นด้วย”
รวมไปถึงหลักสูตรแบบ Immersive Learning หรือการเรียนรู้แบบสมจริง โดยคุณครูของ LingoAce ทั้งหมดล้วนเป็นเจ้าของภาษาตัวจริงที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น มีทักษะการสอนที่เป็นมิตร สนุกสนาน และเข้าใจง่ายสำหรับเด็กทุกคน
“นอกจากการสอนด้วยคำพูดและสื่อการสอนแล้ว คุณครูของเราจะใช้ภาษามือและท่าทางประกอบเพื่อทำให้เข้าใจยิ่งขึ้น อีกทั้งการเรียนรู้กับเจ้าของภาษาตัวจริงทำให้เด็กๆ คุ้นเคยกับภาษา เมื่อมีโอกาสได้พูดกับชาวต่างชาติ พวกเขาก็สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเติบโตมาในต่างประเทศ” คุณเจอร์รี่เล่าถึงหลักสูตรที่โดดเด่นของ LingoAce
เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้า เปลี่ยนภาษาให้เป็นเรื่องง่าย
“แคมเปญ ‘เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า’ เริ่มมาจาก Insight ว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะเวลาเจอฝรั่ง เราเลยจับตรงนี้มาคุยกับผู้ปกครองว่าทำยังไงถึงจะเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าได้ ซึ่งคำตอบคือ เราต้องสร้างสภาวะแวดล้อมให้เด็กไม่กลัวฝรั่งตั้งแต่แรก และเรียนภาษาอย่างสนุก
“ไม่ว่าจะเป็นคลาสตัวต่อตัว หรือ Small Class ที่มีนักเรียน 4-6 คน คุณครูในคลาสก็จะชวนคุยหรือส่งเสริมให้เด็กๆ พูดตลอด นอกจากจะชินกับการพูดภาษาอังกฤษแล้ว ที่ LingoAce เราจะไม่ได้จำกัดที่ครูคนเดิม เพราะฉะนั้นแปลว่าเด็กๆ จะได้เจอกับครูหลายสำเนียง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ อังกฤษ หรือออสเตรเลีย”
สุดท้ายนี้คุณเจอร์รี่ก็อยากฝากถึงผู้ปกครองว่าไม่อยากให้โฟกัสแค่สำเนียง เพราะไม่ว่าภาษาอังกฤษหรือภาษาใดๆ ล้วนเป็นเพียงสื่อกลางในการสื่อสาร สิ่งที่พวกเราต้องทำคือการสร้างคุณค่า ความมั่นใจ ความกล้าหาญ และความสนุกสนานในการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ พร้อมแนะนำเคล็ดลับสามข้อที่จะช่วยให้เก่งภาษาขึ้นแบบเห็นผล
“อันดับแรกเป็นเรื่องของการฝึกฝน เพราะยิ่งฝึกฝนยิ่งชำนาญ ข้อสองคือ อย่ากลัวที่จะพูดกับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวตะวันตกหรือชาวจีน และข้อสุดท้ายมาเรียนกับ LingoAce เพราะเรามีครูที่ดีที่สุดพร้อมกับหลักสูตรที่ดีที่สุด เรารับประกันได้เลยว่าเด็กๆ จะสนุกทุกครั้งที่ได้เรียนกับเรา เพราะฉะนั้น มาเรียนกับ LingoAce กัน!”