ฉาก 1/ ภายในห้องนั่งเล่นเพดานสูงโปร่งในคอนโดใหญ่/ กลางวัน
ชายหนุ่มยกกล้องขึ้นเล็งภาพอาหารโฮมเมดแสนน่ากินที่อยู่ตรงหน้า แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาตกกระทบกับมะเขือเทศที่อยู่บนจานนั้น นิ้วของเขาค่อยบรรจงลั่นชัตเตอร์บันทึกภาพไว้อย่างแผ่วเบา เมื่อเขาอัพภาพนี้ขึ้นโซเชียลมีเดียไป นอกจากยอดไลค์ที่พุ่งกระฉูดแล้ว คงจะมีเพื่อนหลายคนตบเท้าเข้ามาคอมเมนต์ทำนองว่า ‘ชีวิตดีจังวะ’ กันมากมาย ซึ่งเขาก็คงจะทำเพียงแค่ยิ้มมุมปากเบาๆ เท่านั้น จะให้ทำยังไงล่ะ ก็ชีวิตมันดีจริงๆ นี่นา
อย่าเพิ่งมองบน เบ้ปาก หรือค้อนตาคว่ำด้วยความหมั่นไส้ เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็ต่างอยากจะมีชีวิตดีๆ ด้วยกันทั้งนั้น ชีวิตดีที่ไม่ได้หมายถึงการทำงานได้เงินมากที่สุด หรือประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากที่สุด แต่หมายถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข และลงตัวกับชีวิตในด้านอื่นๆ ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการช่วยผลักดันให้ชีวิตดีๆ เกิดขึ้นได้จริงก็คือ การมีสถานที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตได้ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาพักผ่อน สังสรรค์ หรือกระทั่งการทำงานที่รวมครบจบในที่เดียว
เหมือนกับแนวคิดที่ The Reserve Phahol – Pradipat นำมาใช้สร้างคอนโดสไตล์ Loft แห่งนี้
สู่วิถีนิวยอร์กเกอร์
หากจะย้อนกลับไปก่อนที่สไตล์ฮิป ดิบ เท่ ด้วยโครงสร้างเหล็ก ปูนเปลือย อิฐเปลือย แบบ Loft จะได้รับความนิยมเช่นทุกวันนี้ คงต้องเท้าความกันไปถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมก่อนที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มต้นขึ้น ในตอนนั้นด้วยความรุ่งเรืองของเทคโนโลยีการผลิต ทำให้ย่านใหญ่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรม และโกดังเก็บสินค้า ที่ก่อสร้างแบบง่ายๆ ด้วยวัสดุจำพวกอิฐ ไม้ ปูน เหล็ก เน้นการใช้สอยมากกว่าการประดับประดาให้สวยงาม กระทั่งสงครามสิ้นสุดลง อาคารเหล่านั้นจึงถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์มาเนิ่นนาน
แต่เมื่อความเจริญของนิวยอร์กเริ่มขยายตัวมากขึ้น และราคาที่ดินก็ขยับตัวสูงขึ้นตาม คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถจับจ่ายเงินเพื่อบ้าน หรืออพาร์ทเมนท์เหล่านั้นได้ จึงหันมาดัดแปลงโรงงาน และ โกดังเก่าเหล่านี้ให้กลายเป็นที่พักอาศัย โดยพยายามปรับเปลี่ยนโครงสร้างเดิมให้น้อยที่สุด นั่นจึงเป็นที่มาของงานแบบ Loft Style ที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงกลิ่นอายความคูลแบบนิวยอร์ก
ไลฟ์สไตล์ Loft Style
ดูเผินๆ Loft จึงอาจคล้ายเป็นเพียงการออกแบบตกแต่งรูปแบบหนึ่ง ที่เน้นเอกลักษณ์ทางด้านวัสดุ ตลอดจนโครงสร้างที่ดูโล่ง โปร่ง ให้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวกั้นเลเยอร์ของห้องเพียงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว Loft ยังทำหน้าที่เป็นตัวบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยไปในตัวอีกด้วย
ทั้งความเป็นคนที่ชอบงานศิลป์ ชอบความเรียบง่าย แต่แฝงไว้ซึ่งความเท่ คูล ดูดี เป็นคนชอบพื้นที่ส่วนตัว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ปฏิเสธการเข้าสังคมกับคนอื่น มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ช่างจินตนาการ มีอารมณ์ศิลปิน ไม่ชอบอะไรที่ดูจำเจ หรือซ้ำกับใคร รวมทั้งต้องการมีชีวิตที่อิสระเสรี สามารถออกแบบทุกอย่างเองได้ดังใจ พวกเขาจึงมักเลือกที่อยู่อาศัยสไตล์ Loft ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ตรงจุด
ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คนทำงาน
และเพราะยุคนี้เป็นยุคที่เส้นแบ่งขอบเขตระหว่างชีวิตกับการทำงานดูเลือนรางเข้าไปเต็มที การที่พื้นที่ภายในบ้านจะสามารถตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ก็ดูจะเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยให้ชีวิตนั้นง่าย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เหมือนที่เราสามารถเปลี่ยนทุกพื้นที่ภายในห้องของ The Reserve Phahol – Pradipat ให้กลายเป็นสตูดิโอส่วนตัวในการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ด้วยแสงธรรมชาติที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ หากคิดจะจัดแสงด้วยไฟแบบมืออาชีพก็ทำได้ง่ายด้วยเพดานที่ออกแบบมาให้สูงกว่าปกติถึง 4.4 เมตร หรืออยากจะปรับห้องให้ตอบรับกับชีวิตอย่างไรก็สามารถปรับได้ไม่มีเบื่อ ภายใต้เลเยอร์พื้นที่ที่แสนจะเซ็กซี่
หรือคิดจะเปลี่ยนบ้านเป็นที่ประชุมงาน ที่จัดงานปาร์ตี้ หรือที่ล้อมวงปรึกษาปัญหาชีวิต ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด เพราะการออกแบบที่ให้พื้นที่ส่วนกลาง และห้องนอนส่วนตัวแบ่งชั้นกันอย่างชัดเจนนั้นคือสิ่งที่ทางทีมออกแบบคิดมาหมดแล้ว
นอกจากนี้คอนโด The Reserve Phahol – Pradipat ยังมาพร้อมบริการต่างๆ ภายในคอนโดแบบ 24 ชั่วโมง ช่วยให้คนที่ทำงานในช่วงเวลาแตกต่างกัน สามารถเข้าถึงบริการได้แบบไร้กังวล
ชีวิตดีมีได้ที่บ้าน
เพราะการเลือกบ้านครั้งหนึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การเลือกที่อาศัยหลับนอน อาบน้ำ เก็บข้าวของ แต่เพียงเท่านั้น ทว่าเป็นการเลือกสถานที่ที่เราจะต้องใช้เวลากว่ากึ่งหนึ่งของชีวิตไปกับมัน นอกจากความปลอดภัย สะดวกสบาย และตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิตแล้ว การเลือกบ้านที่ตรงกับรสนิยมความชอบ และสามารถสะท้อนตัวตนของตัวเองออกมาได้ที่สุดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรารู้สึกว่าเรามีชีวิตดีๆ ตั้งแต่ตื่นมา จนกระทั่งหลับตาลงไปในทุกวัน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ Loft you so much ลองมาอยู่ Bangkok แบบ New Yorker ด้วยกันไหมล่ะ