การแข่งขันหาบาร์เทนเดอร์ทีมชาติไทยกับสุดยอดค็อกเทลไทยแก้วที่ดีที่สุดเพื่อถ่ายทอดสปิริตไทยให้เวทีโลกได้สัมผัส
การได้นำค็อกเทลที่เราคิดค้นขึ้นเองไปเสิร์ฟในเวทีระดับโลก คงเป็นความฝันของบาร์เทนเดอร์หลายๆ คน ยิ่งเป็นค็อกเทลที่เราได้ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศมา Represent อัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านแก้วค็อกเทลของตัวเองยิ่งเป็นความฝันที่บาร์เทนเดอร์ไทยทุกคนอยากทำให้ได้สักครั้ง
Mekhong จึงเปิดโอกาสให้บาร์เทนเดอร์ทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน กับโจทย์การสร้างค็อกเทลแก้วใหม่ ด้วยแนวคิด ‘Thai Spirit REBORN’ ปลุกเรื่องราวความเป็นไทยให้ไม่ถูกลืมทั้งในด้านวัตถุดิบหรือเรื่องราวต่างๆ มารังสรรค์เพื่อสื่อสารความเป็นไทย โดยใช้ส่วนผสมหลักเป็น Mekhong สุราที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์ไทยร่วม 80 ปี
การแข่งขันนี้ถูกตัดสินโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผู้ชนะจะได้รับการสนับสนุนเพื่อเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลกและเป็นตัวแทนในกิจกรรมต่างๆจาก Mekhong เป็นเวลา 1 ปี และในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ค็อกเทลที่ชนะจะได้เป็นตัวแทนอัตลักษณ์ไทยเพื่อเสิร์ฟในงาน Michelin Guide Star Revelation 2020 ให้คนในวงการอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกได้ลิ้มลอง
ผู้ชนะ คือ คุณสหรัฐ แก้วคง จาก Find The Locker Room ที่ชนะเลิศไปด้วยค็อกเทลที่ชื่อว่า ‘ก้าง’ โดยคุณสหรัฐจะได้รับการสนับสนุนเพื่อเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลก และเป็นตัวแทนในกิจกรรมต่างๆ จาก Mekhong เป็นเวลา 1 ปี และในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ค็อกเทล ‘ก้าง’ จะได้เป็นตัวแทนอัตลักษณ์ไทยนำเสิร์ฟในงาน Michelin Guide Star Revelation 2020 ให้คนในวงการอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกได้ลิ้มลอง
คุณสหรัฐ แก้วคง กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากได้รับรางวัลกับเราว่า
“ดีใจมากๆ จริงๆ ครับ ตอนประกาศก็แอบช็อคว่าเฮ้ย เราได้เหรอ แต่ก็เหนื่อยจากการซ้อมมาเยอะก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ในอนาคตผมก็อยากลองไประดับโลกสักครั้ง ประกาศให้โลกรู้ว่าคนไทยทุกวันนี้เก่งแล้วนะ ปัจจุบันคนไทยเก่งขึ้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอาหาร เครื่องดื่ม หรืออะไรก็แล้วแต่หลายอย่างที่เราเห็น ซึ่งก็ต้องรบกวนสื่อช่วยกันผลักดันอีกแรงด้วยนะครับ แล้วก็ช่วยกับสนับสนุนสุราไทยแล้วก็บาร์เทนเดอร์ไทยด้วยนะครับ”
ค็อกเทลไทยแก้วที่ดีที่สุดที่จะได้ถ่ายทอดสปิริตไทยให้เวทีโลกได้สัมผัส คือ ค็อกเทลที่มีชื่อว่า “ก้าง” โดย คุณสหรัฐ แก้วคง จาก Find The Locker Room
แรงบันดาลใจแก้วนี้มาจากอาหารไทยพื้นบ้านสมัยโบราณที่หาทานได้ยากในสมัยนี้อย่างต้มกะทิสายบัว ที่ใช้ปลาทูเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักแล้วของที่มักจะถูกทิ้งก็คือก้างปลาทูนี่เอง ค็อกเทลแก้วนี้จึงนำก้างปลาทูที่ดูไม่มีค่ามาประยุกต์ใหม่ผสานกับสุรา Mekhong เป็นเบสหลักให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีความหอมหวานและเปรี้ยวอย่างลงตัว
คุณสหรัฐยังกล่าวอีกว่า “นอกจากเรื่องความเป็นไทยที่เราใส่ลงไปในเมนูแล้ว เราอยากให้เมนูของเราเป็น zero waste คือการนำวัตถุดิบที่อาจจะไม่มีมูลค่ามาเพิ่มมูลค่า ปลาทูนี่เรามักจะกินเนื้อปลา หัวปลา แต่เราก็จะโยนก้างทิ้งไปหรือนำไปให้เป็นอาหารแมว ก็มองว่าแล้วทำไมเราถึงไม่สามารถทำให้มันเกิดประโยชน์ได้ ในเมื่อก้างปลาทูมันมีคอลลาเจนเยอะมาก แล้วก็มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แล้วผมก็คิดต่อว่าถ้าสมมติเราเอาก้างปลาทูมาใช้มันจะทำไรได้บ้าง ก็ไปเจอแกงที่เป็นต้นตำรับของบ้านเรา เป็นแกงไทยโบราณคือแกงไหลกะทิสายบัวเลยเอามาจับคู่กัน ซึ่งพอลองทำปุ๊บมันไปด้วยกันได้ดีมาก และไปเจอ Mekhong ผสมเข้าไปยิ่งเข้ากันได้ดีขึ้นไปอีก ช่วยชูวัตถุดิบขึ้นมาได้มากขึ้น”
คุณสหรัฐ แก้วคง บาร์เทนเดอร์ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Mekhong: THE SPIRIT 2020
“ผมเป็นบาร์เทนเดอร์มาประมาณ 3-4 ปีครับ เริ่มจากเข้าวงการมาเจอรุ่นพี่ที่ให้ความรู้เราค่อนข้างเยอะ ทำให้เราพัฒนาตนเองเรื่อยๆ อยู่กับคนเก่ง อยู่กับทีมที่ดี ก็ทำให้เราแอคทีฟตลอดเวลา เราอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา ซึ่งผมว่าก็เป็นเรื่องดีของผม
เอาจริงๆ ก็ซ้อมมาพอสมควรหลังจากที่ประกาศผลประมาณ 2-3 อาทิตย์ได้ ก็ซ้อมไปด้วยเตรียมของไปด้วย เพราะวัตถุดิบของผมค่อนข้างที่จะเตรียมยากนิดนึง จริงๆ การซ้อมที่ดีที่สุด ผมเริ่มจากการขายที่บาร์เลย ขายให้ลูกค้าแล้วก็พรีเซนต์เพราะผมว่านี่คือการฝึกที่ดีที่สุดที่ผมทำเป็นประจำ ขายแล้วก็เล่าให้ฟังแต่แรก เหมือนที่เราเตรียมมาแข่งว่าเราจะพูดอะไร เราก็พูดให้ลูกค้าฟัง
ตอนแรกที่ทำเมนูนี้ก็มีกลัวๆ แล้วจริงๆ ตอนแข่งขันรอบแรก ทุกคนเห็นวัตถุดิบเราก็จะไม่กล้ากินเลย เพราะว่ามันมีก้างปลาทู มีกะปิอีก ผมก็คิดว่าในเมื่ออาหารที่เรากินก็มีทุกอย่างที่ผมใส่เข้าไปในเครื่องดื่ม ถ้าเราสามารถกินเป็นอาหารได้ แล้วถ้าผมทำออกมาเป็นเครื่องดื่มทำไมเราจะกินไม่ได้ ซึ่งผมแค่แปรรูปวัตถุดิบต่างๆ ให้มันน่าสนใจมากขึ้น แล้วก็ทานง่ายมากขึ้น
ฝากพี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่สนใจอยากจะดื่มค็อกเทล ก้าง สามารถแวะไปได้ที่ร้าน #FindTheLockerRoom มีเมนูนี้ขายแน่นอนครับ”
การแข่งขันในครั้งนี้ได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอาหารและเครื่องดื่มทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค อาทิ คุณเดชพงษ์ กาญจนลักษณ์ – Mekhong Master Blender เจ้าของสูตร Mekhong ต้นตำรับ, คุณอากิ หวัง สุดยอดอินเตอร์บาร์เทนเดอร์แห่ง INDULGE Experimental Bistro การันตรีด้วยรางวัล No.3 Asia’s 50 Best Bars 2019 & No.21 The World’s 50 Best Bar 2019, เชฟแอนดี้ หยาง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารที่ได้รับการการันตีด้วย Michelin Star และคุณเจมี่ ไรนด์ The Bamboo Bar ที่ได้รางวัล No.8 Asia’s 50 Best Bars 2019
นอกจากจะเฟ้นหาผู้ชนะเลิศแล้ว ภายในงานยังจัดให้มีการโหวตค็อกเทลแก้วที่ผู้เข้าร่วมงานและสื่อมวลชนประทับใจมากที่สุด หรือรางวัล Popular Vote
ผู้เข้าแข่งขันทุกท่านก็จะนำเมนูที่ตนใช้ในการแข่งขันเสิร์ฟให้กับผู้ร่วมงานเพื่อให้ทุกๆ คนได้ร่วมชิม และร่วมตัดสินค็อกเทลในแบบที่ชอบผ่านการโหวตด้วยระบบ QR Code
รางวัล Popular Vote ในครั้งนี้ มีถึง 2 ทีมด้วยกัน เนื่องจากได้คะแนนโหวตที่เท่ากัน
Popular Vote รางวัลแรกคือ “รำพึง” โดยคุณศิวะ ศรีน้อย จาก Cielo Sky Bar & Restaurant
โดยค็อกเทลแก้วนี้ได้แรงบันดาลใจจากขุนช้างขุนแผน ที่ในเรื่องจะมีการละเล่นพื้นบ้านของไทย คือ ขว้างราว หรือ ซัดราว เป็นการละเล่นโดยใช้ มะอึก มะแว้ง หรือ มะม่วงหิมพานต์ก็ได้ แต่ด้วยความที่หมู่บ้านของคุณศิวะมีมะอึกจำนวนมาก จึงเลือกใช้มะอึกในการนำมารังสรรค์เครื่องดื่มในครั้งนี้เพื่อบอกถึงความเป็นไทยที่หายไป ให้การละเล่นขว้างราวหรือซัดราวที่หายไปได้ประจักษ์สู่สายตาอีกครั้งในรูปแบบเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า “Fade Away”
คุณศิวะเล่าความรู้สึกที่ได้รางวัล Popular Vote กับเราว่า
“ดีใจครับ ภูมิใจวันนี้ก็ทำเต็มที่แล้วครับ ที่คนชอบแก้วเราน่าจะเพราะว่าดื่มง่ายมั้งครับ เครื่องดื่มของผมค่อนข้างจะสดชื่น ดื่มง่าย” และอยากฝากถึงทุกๆ คนว่าชีวิตมันต้องสู้ครับ มันต้องเดินต่อไป ทั้งตัวผมแล้วก็ทุกท่าน ส่วนตัวผมก็จะไม่หยุดพัฒนา จะรังสรรค์เครื่องดื่มที่อร่อยๆ น่าลิ้มลองให้กับทุกๆ ท่านต่อไปครับ”
อีกหนึ่งรางวัล Popular Vote เป็นของ คุณศรัณ คารวะพรพุทธ จาก Suriyasai Bar กับค็อกเทลที่ชื่อว่า “โอสถ”
โดยค็อกเทลแก้วนี้เป็นการเล่าเรื่องราวการแพทย์แผนไทยโบราณที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ได้นำน้ำแกงขมิ้นเหลืองที่ได้จากการต้มสมุนไพรและได้ใส่พิษพญาไฟ (ดีปลี) เมื่อได้ลิ้มรสแล้วสัมผัสแรกจะให้กลิ่นอายของสุราแม่โขง ตามมาด้วยกลิ่นสมุนไพรไทยโบราณ จบลงด้วยรสเผ็ดซ่าที่ปลายลิ้นจากพิษพญาไฟ ค็อกเทลแก้วนี้ได้อนุรักษ์วิธีต้มยาไทยแบบโบราณ โดยเล่าผ่านแม่โขงเป็นสื่อกลาง
คุณศรัณเล่าความรู้สึกที่ได้รางวัล Popular Vote กับเราว่า
“รู้สึกดีใจครับผม ดีใจที่เราได้ทำเต็มที่แล้วมีคนเห็นครับ คิดว่าคนน่าจะประทับใจในความเป็นไทยโบราณ การรักษา อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ผมใส่ลงไปในแก้วนี้ครับและฝากถึงทุกๆ คนว่าอยากให้ช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่กำลังจะเลือนหายไปในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม หรือถ้ามาที่ร้านก็จะมีเครื่องดื่มไทยๆ รสชาติเสน่ห์ของความเป็นไทยให้ลองได้เต็มที่เลยครับ”